ปธ.อนุฯ สิทธิเด็ก กสม.ซัด ศธ.ฟื้นแปะเจี๊ยะทำเหลื่อมล้ำสูง เปิดช่องโกงเพิ่ม

ประธานคณะอนุกรรมการด้านสิทธิเด็ก สตรี และสิทธิความเสมอภาค กรรมการสิทธิฯ ซัด “วรวัจน์” ฟื้นจ่ายแปะเจี๊ยะ เลือกปฏิบัติ ผิดรัฐธรรมนูญ ขัดปฏิญญาสากล สับทำเหลื่อมล้ำชัด เปิดช่องโกงเก็บเงินเข้ากระเป๋า เล็งเดินหน้าค้านต่อ

วันนี้ (14 ก.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นางวิสา เบ็ญจะมโน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านสิทธิเด็ก สตรี และสิทธิความเสมอภาค กล่าวถึงกรณีที่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีแนวคิดที่จะเปิดช่องให้คนที่มีฐานะดีจ่ายแปะเจี๊ยะเข้าโรงเรียนดัง ว่า หากนำแนวคิดดังกล่าวมาปฏิบัติจริง ถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ ไม่เป็นธรรม ไม่สอดคล้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 30 มาตรา 49 และมาตรา 13 วรรค 1 ของ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ที่บัญญัติไม่ให้มีการเลือกปฏิบัติในการจัดการศึกษา และบุคคลมีสิทธิเสมอกันในการได้รับการศึกษาไม่น้อยกว่า 12 ปี โดยที่รัฐจะต้องจัดการศึกษาให้มีอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพไม่เก็บค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ ยังจะขัดกับหลักปฎิญญาสากลและอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กอีกด้วย

“ก่อนหน้านี้ ที่กระทรวงศึกษาฯมีคำสั่งไม่ให้มีการเก็บแปะเจี๊ยะทั้งผู้ปกครอง ผู้อำนวยการโรงเรียน ต่างก็สบายใจ ไม่มีการร้องเรียนมาที่กรรมการสิทธิฯเลย แต่ถ้าฟื้นนโยบายนี้ขึ้นมาใหม่ ก็ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ กลายเป็นใครมือยาวสาวได้สาวเอา เปิดช่องให้เกิดการทุจริต เกิดนายหน้าและคนกลางในขบวนการเรียกเก็บเงิน อีกทั้งตัวผู้บริหารบางรายอาจมีการเรียกเก็บเงินเพื่อเข้ากระเป๋าตัวเอง” นางวิสา กล่าว

นางวิสา กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม หากเป็นการบริจาคที่ไม่เกี่ยวกับโอกาสที่จะได้เข้ารับการศึกษา เช่น การบริจาคของสมาคมผู้ปกครองโรงเรียน ในการเข้ารับการศึกษาก็สามารถทำได้เพราะถือว่าไม่เกี่ยวกับโอกาสที่จะได้เข้ารับการศึกษาหรือไม่ ทั้งนี้ ตนจะนำเรื่องนี้จะเข้าที่ประชุมอนุกรรมการเพื่อหารือในเรื่องดังกล่าวกันอีกครั้ง ซึ่งหาก รมว.ศธ.ยังคงจะเดินหน้านโยบายนี้ ก็จะมีการระดมความเห็นและนำเสนอแนวทางที่ถูกต้องไปยังรมว.ศึกษา หากยังนิ่งเฉยก็จะเสนอต่อไปยังนายกรัฐมนตรี และสภาผู้แทนราษฎร ตามช่องทางที่กฎหมายให้อำนาจกรรมการสิทธิมนุษยชนไว้