ประธานกุนซือหัวหน้าชาติไทยพัฒนา หนุนรัฐตั้ง ส.ส.ร.3 แก้รัฐธรรมนูญ อ้างเป็นกลาง แต่คาดใช้เวลาเป็นปี แนะแก้ให้ถูกจุด ซัดพวกค้านจะเป็นจะตายอะไร ไม่ห่วงทำรัฐอายุสั้น พร้อมสั่ง รมว.เกษตรฯ สำรวจทำแก่งเสือเต้น บน-ล่าง แก้น้ำท่วม คาดใช้งบ 1.4 หมื่นล้าน
วันนี้ (30 ส.ค.) นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ว่า ถ้าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญรัฐบาลควรดำเนินการผ่านการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมา เหมือนกับการร่างรัฐธรรมนูญ 2540 ที่มีการตั้ง ส.ส.ร.เพราะมีความเป็นกลาง ที่ประกอบไปด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า การดำเนินการยังไม่สามารถทำได้เร็ว เพราะต้องใช้เวลาเป็นปี ไม่ใช่เป็นเดือน และการแก้ไขจะต้องดูจังหวะเวลาให้เหมาะสม อะไรที่เป็นปัญหาก็แก้ให้มันถูกจุดเท่านั้น
“ไม่เข้าใจทำไมเวลาจะเริ่มกระบวนการแก้ไขต้องมีปัญหาทุกครั้งจะเป็นจะตายกันให้ได้ ไม่รู้เพราะอะไร ความจริงเมื่อการร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ก็มีการหาเสียงว่าให้รับร่างไปก่อนแล้วค่อยมาแก้ไขทีหลัง เพราะฉะนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญในรัฐบาลชุดนี้คงไม่เร็ว และต้องดูด้วยความรอบคอบ แต่ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องตายวันตายพรุ่ง อะไรที่มันไม่ดีก็ต้องแก้ไขให้มันดีขึ้นต่อส่วนรวม” นายบรรหาร กล่าว
เมื่อถามว่า คิดว่า สังคมจะรับกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่ทราบ มีวิธีไหนจะรับได้บ้างอย่างรัฐธรรมนูญ 2550 ใช้ได้หรือไม่แต่ก็รับมาแล้วที่ดำเนินการโดยคณะปฏิวัติ
เมื่อถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทำให้รัฐบาลอายุสั้น นายบรรหาร กล่าวว่า “โห..ไม่เป็นห่วง แก้ไขให้มันดีขึ้นมันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ทำไมมันวิตกกันนักน่ะ”
ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาลผ่านรูปแบบบางระกำโมเดล ว่า ส่วนตัวได้หารือกับ นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ ว่า ต้องเร่งไปสำรวจปัญหา โดยที่จะยังไม่ทำโครงการแก่งเสือเต้น แต่จะทำในส่วนบนและล่างแก่งเสือเต้น คาดว่า ใช้งบประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท กักเก็บน้ำได้ประมาณ 700-800 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งได้สั่งกรมชลประทานไปแล้วให้เร่งออกไปสำรวจและวางแผนโดยต้องสำรวจผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมให้เร็วที่สุด และ อ.แม่วงศ์ จ.นครสวรรค์ ก็ควรต้องทำเหมือนกันเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม