รองนายกฯ ด้าน ศก.และรมว.พาณิชย์ ยันไม่มีนโยบายกดดันผู้ประกอบการให้ลดราคาสินค้า แนะชาวบ้านอย่าคาดหวังราคาลงฮวบฮาบ แย้มเนื้อสัตว์ส่อถูกลง ชูไทยเงินเฟ้อน้อยกว่าจีน ชี้หากไปอ้อนนายทุนเอาหน้าถ้าเจอขอบ้างจะลำบาก
วันนี้ (30 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า กระทรวงพาณิชย์มีหน้าที่ดูแลราคาสินค้าส่วนใหญ่ให้อยู่ในราคาที่เหมาะสม ซึ่งขณะนี้กรมการค้าภายในก็ได้พูดคุยกับผู้ประกอบการอยู่ตลอดเวลา ยืนยันว่าตนไม่มีนโยบายกดดันให้ผู้ประกอบการปรับลดราคาสินค้าลงจนกระทั่งผู้ประกอบการมีปัญหา ซึ่งเวลานี้มีผู้ประกอบการหลายรายที่ติดต่อมาโดยตรงเพราะเขาเห็นว่าสามารถปรับลดสินค้าบางรายการได้บ้าง แต่อย่าไปคาดหวังว่าราคาสินค้าอุปโภคบริโภคจะลดราคามากมาย เพราะเมื่อราคาสินค้าชะลอตัวไม่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้น หรือราคาน้ำมันในประเทศอ่อนตัวนิดหน่อย ราคาสินค้าจะอ่อนตัวลงไปบ้างก็เป็นเรื่องที่ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีสินค้าชนิดใดที่ผู้ประกอบการสินค้าเตรียมปรับลดราคา นายกิตติรัตน์กล่าวว่า สินค้าประเภทเนื้อสัตว์อยู่ในภาวะที่ผู้ประกอบการเห็นว่าพอจะสามารถปรับตัวลงมาได้ ไม่ใช่จู่ๆ กรมการค้าภายในจะปรับลงมาเอง โดยความจริงแล้วราคาสินค้าประเภทนี้ก็ขึ้นๆ ลงๆ ไม่ได้เกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลแต่อย่างใด
เมื่อถามว่า การลดราคาน้ำมันเพราะต้องการให้สินค้าชนิดอื่นปรับลดต้นทุนตามราคาน้ำมันหรือไม่ นายกิตติรัตน์กล่าวว่า จริงๆ แล้วราคาน้ำมันลดลงสามารถเบาบางค่าใช้จ่ายของประชาชนผู้ใช้น้ำมันลงมาได้บ้าง ส่วนจะกระจายไปถ้วนทั่วแค่ไหนขึ้นอยู่กับความต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ทั่วโลกอยู่ภายใต้ความกดดันเนื่องจากราคาสินค้าเพิ่มขึ้น แต่ประเทศไทยราคาสินค้าไม่ใต่ระดับขึ้นไปก็ยังถือว่าดีอยู่ เพราะตนเพิ่งกลับจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งประเทศจีนก็ประสบกับปัญหาเงินเฟ้อสูงถึง 6 เปอร์เซ็นต์ แต่ของไทยอยู่ในระดับ 4 เปอร์เซ็นต์ จึงถือว่าเราทำได้ดีเมื่อเทียบกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก
“การทำธุรกิจเราจะไปบังคับให้เขาขาดทุนเขาคงไม่ทำหรอก และสุดท้ายหากไปขอร้องกันเพื่อเอาหน้าระยะสั้น หากเขาขอร้องกลับในเวลาอื่น เราจะลำบากกันเปล่าๆ เอาเป็นว่าธุรกิจคือการแข่งขัน ถ้าทุกเจ้าเข้าใจว่าแข่งขันอย่างมีน้ำจิตน้ำใจต่อผู้บริโภค ผู้บริโภคก็จะเป็นลูกค้าที่ดี ส่วนการทบทวนเพิ่มรายการสินค้าควบคุมนั้น คงไม่เพิ่ม ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของตลาด เพราะที่เราดูแลกันอยู่ก็เป็นไปด้วยดี เพียงแต่ชื่อสินค้าที่อยู่ในรายการสินค้าควบคุมเป็นเพียงแต่ให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลเอาใจใส่ว่าราคาสินค้าขณะนี้ราคาเท่าใดแล้วเมื่อเทียบกับต้นทุน แต่ผู้ประกอบการเขาแข่งกันอยู่แล้ว หากตั้งราคาสูงเกินไปเขาก็ขายไมได้” นายกิตติรัตน์กล่าว
