“ธีรเดช” คาดอภิปรายนโยบายรัฐวันที่ 3 ไม่มีปัญหา ชี้ประท้วงเรื่องปกติ เชื่อไม่มีป่วนองค์ประชุม หวังทุกคนรู้หน้าที่ตัวเอง ไม่พูด “สมศักดิ์” ค้อนหัก ด้าน “วิรัตน์” ยันฝ่ายค้านไม่ตีรวน ไม่จำเป็นไม่ประท้วง จี้ประธานเป็นกลาง ขู่รัฐไม่ทำตามนโยบายเจอยุบพรรคแน่
วันนี้ (25 ส.ค.) ที่รัฐสภา พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า สำหรับการประชุมรัฐสภาเพื่อแถลงนโยบายของรัฐบาลฯจะมีขึ้นในเวลา 13.00 น.วันนี้ (25 ส.ค.) ซึ่งที่ประชุมจะให้สมาชิกที่มีคิวอภิปรายในลำดับต่อไปที่ยังไม่ได้อภิปรายเมื่อวันที่ 24 ส.ค.นี้ได้อภิปรายต่อ เชื่อว่าน่าจะเรียบร้อยดี ไม่มีปัญหา เพราะเหตุการณ์เมื่อวานได้ผ่านไปแล้ว ส่วนใหญ่เป็นการประท้วงแต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ส่วนจะนำเรื่ององค์ประชุมมาเป็นเกมการเมืองหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบต้องถามสมาชิก แต่ตนเชื่อว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก ถ้าเกิดก็จะเป็นอุปสรรคในการประชุม แต่ทุกคนทราบหน้าของตัวเองว่าจะปฏิบัติอย่างไร
เมื่อถามว่าจะต้องกำชับให้ ส.ว.เข้าร่วมประชุมหรือไม่ พล.อ.ธีรเดชกล่าวว่า ไม่ต้องกำชับท่านหน้าที่ดีอยู่แล้ว เมื่อถามว่าประธานรัฐสภาถูกท้วงติงว่าทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง พล.อ.ธีรเดชกล่าวว่า ไม่ทราบ ผู้ที่ทำหน้าที่ประธานจะต้องเป็นกลางอยู่แล้ว เมื่อถามอีกว่า ฝ่ายค้านติงว่าประธานสภาไม่แม่นระเบียบข้อบังคับด้วย พล.อ.ธีรเดชกล่าวว่า ไม่ทราบ ตนทำตามข้อบังคับและรู้ตัวเองว่าเป็นกลาง ส่วนที่มองว่าประธานสภาไม่ยึดหยุ่นและตึงในข้อบังคับเกินไปนั้น ความจริงระเบียบข้อบังคับการประชุมมีอยู่ ซึ่งทุกคนจะต้องยึดข้อบังคับในการประชุม เมื่อถามว่า ดูเหมือนว่าภาพลักษณ์ของรัฐสภาไม่รับผิดชอบ จนเป็นเหตุทำให้สภาล่ม พล.อ.ธีรเดชกล่าวว่า ตนไม่มีความรู้สึกเช่นนั้น มองเป็นเรื่องปกติ
ด้าน นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สำหรับการประชุมรัฐสภาเพื่อแถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้นจะเริ่มในเวลา 13.00 น. โดยทางฝ่ายค้านได้ขอให้ ส.ส.ฝ่ายค้าน และ ส.ว.ที่ยังค้างการอภิปรายอยู่ได้อภิปรายต่อคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ ไม่เกิน 2 ชั่วโมง โดยฝ่ายค้าน 1 ชั่วโมงครึ่ง ส.ว.ได้ ครึ่งชั่วโมง แต่ทางรัฐบาลยังได้ต่อรองให้ลดเวลาและจำนวนผู้อภิปรายลง ซึ่งในช่วงสายวิปทั้ง 3 ฝ่ายจะได้หารือกันอีกครั้งก่อนประชุม อย่างไรก็ตามการประชุมวันนี้ฝ่ายค้านจะไม่ตีรวน และในการประชุมหากไม่จำเป็นเราไม่ประท้วง แต่เมื่อเราจะพูดความจริงซึ่งต้องอธิบายแล้วพาดพิง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาก่อการร้าย รัฐบาลก็มีปฏิกิริยาเกิดขึ้นทันทำให้การประชุมเกิดปัญหา ซึ่งตัวประธานรัฐสภาจะต้องวางตัวให้เป็นกลาง เราจะประท้วงโดยไม่มีเหตุผลเพราะประชาชนดูอยู่ ยืนยันอยากให้รัฐบาลทำงานต่อไป ถ้าทำไม่ได้ตามที่ได้ประกาศนเป็นนโยบายหาเสียงไว้ถือว่าหลอกลวงประชาชนและความผิดถึงขั้นยุบพรรคได้