พวกอกหักรอขย่ม !?

เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด

00 เป็นไงกันบ้างพี่น้องที่ได้เห็นบทบาทของ ทั่นผู้ทรงเกียรติในสภา วันแรก นี่ก็ต้องอดทนฟังอีกหนึ่งวันกว่าจะยุติ แต่ถึงอย่างไรมันก็เป็นไปตามคาดอยู่แล้วว่า ผลจะต้องออกมาอย่างที่เห็นเป็นเวทีแก้ต่างความผิดพลาดของตัวเองมากกว่า และบางทีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์มองอีกมุมหนึ่งมันก็เป็นผลเสียเหมือนกัน เพราะกลายเป็นแรงจูงใจทำให้ ส.ส.พวกนี้แย่งกันโชว์ “กาก” ให้เห็น โดยเข้าใจผิด คิดว่าชาวบ้านเขาชอบ ได้เห็นตัวเองออกทีวี ทั้งที่พอเห็นหน้าทีไรแทบจะเอารองเท้าขว้างใส่ทุกที.. ทุด!

00 นับจากวันที่ 24 ส.ค. เป็นต้นไป ก็เริ่มเข้าสู่ความเป็นจริง เพราะบรรยากาศการแสดงความยินและการเลี้ยงฉลองได้ผ่านไปแล้ว ต่อไปสำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็จะต้องแสดงฝีมือให้เห็นจริง ตามความคาดหวัง สารพัดนโยบายที่สัญญาเอาไว้ต้องทำให้ได้ จะบิดพลิ้วผิดเพี้ยนไม่ได้เป็นอันขาด ที่สำคัญหยุดใช้อำนาจหน้าที่ไปช่วยเหลือ “พี่ชาย” ที่เป็นนักโทษหลบหนีคดีหรือคิดจะแก้ไข รธน. เพื่อลบล้างความผิด แต่ถ้ามั่นใจว่าชาวบ้านที่เทเสียงมาให้แบบถล่มทลาย ต้องการให้มาปู้ยี่ปู้ยำอะไรก็ได้ ถ้าคิดแบบนั้นก็ลองดู เราเตือนคุณแล้ว

00 นี่ก็ทำท่าเริ่มเครียดตั้งแต่ต้นมือ ว่ากันเฉพาะนโยบายปรับค่าแรง 300 บาทก่อน ทำท่าจะทำไม่ได้ตามที่โม้เอาไว้ ซึ่งมันก็แหงอยู่แล้วว่าต้องเป็นอย่างนั้น เพราะถ้าภาคเอกชนเขาไม่สมัครใจจ่าย มันก็ไปบังคับเขาไม่ได้ และการที่รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ กิตติรัตน์ ณ ระนอง ออกมาเปิดเผยว่าจะขึ้นค่าแรง “ไม่พร้อมกัน” ทั่วประเทศและ “ไม่ทันที” ต้องรอถึง 3-4 ปี อย่างนี้มันก็เบี้ยวกันละซีพี่น้อง ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่บรรดากลุ่มองค์กรลูกจ้างทั้งหลายเตรียมขยับทวงถามกันแล้ว สนุกละทีนี้

00 ขณะเดียวกัน ภายในพรรคเพื่อไทย ก็เริ่มขบเหลี่ยมกันเองระหว่างพวกที่ “อกหัก” อดเป็นรัฐมนตรี ก็เริ่มออกมาร่วมขย่มอีกแรง วันก่อน สุชาติ ธาดาธำรงเวช ที่ก่อนหน้านี้เป็นตัวเต็งรมต. แต่ก็หลุดโผ ไร้ราคา เตือนให้รัฐบาลอย่าลืมทำตามสัญญาตามที่หาเสียงเอาไว้ เพราะไม่เช่นนั้นจะวุ่นแน่ แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ อยากจะพูดว่าคนที่คิดนโยบายแต่ไม่ได้เป็นรมต.ขณะที่คนไม่ได้คิดกลับได้เป็น ทำนอง “คนทำไม่ได้คิด แต่คนคิดกลับไม่ได้ทำ” อะไรประมาณนี้แหละ แถมยังอ้างชื่อ โอฬาร ไชยประวัติ พ่วงเข้ามาอยู่ในชมรมคน “ผิดหวัง” เข้ามาสมทบ ตอนแรกๆคิดว่าเงียบๆไม่มีอะไร แต่เมื่อมีอาการแบบนี้ก็ให้ ระวังจะเกิดคลื่นใต้น้ำภายในเอาไว้บ้าง

00 การขยับลาออกพ้นเก้าอี้ ส.ส.ของ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.เป็นต้นไป โดยอ้างว่าจะได้ทำหน้าที่เป็นรมช.คมนาคม เต็มที่ ก็ไม่ว่ากัน แต่แว่วมาว่านี่คือวิธีคิดแบบธุรกิจของ “เสี่ยแม้ว” ที่ต้องกระจายโอกาส สร้างราคากันให้ทั่วถึง จะได้ไม่กระจุกอยู่ที่ใดที่หนึ่ง แถมยังเป็นการลดความตึงเครียดภายในพรรคจากพวกที่อกหักจากตำแหน่งทางการเมืองที่มีอยู่จำกัด เพราะทำให้เลื่อนผู้สมัครบัญชีรายชื่อลำดับถัดมาขึ้นมาเป็น ส.ส.อย่างไรก็ดี สำหรับ พล.ต.ท.ชัจจ์ นาทีนี้ถือว่า “ขาลอย” ไม่ติดพื้นแล้ว โอกาสหลุดวงโคจร เมื่อถึงคราวปรับครม.ในอีก 6 เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ถ้ามองอีกมุมหนึ่งหากไม่คิดมาก ก็น่าทำใจได้เพราะการไต่เต้ามาถึงขั้นนี้ได้ถือว่า “มีกำไร” แล้ว

00 การลาออกแบบนำร่องออกมาดังกล่าว ย่อมเป็นการส่งสัญญาณให้ รมต.ระดับ เกรดบี เกรดซี ที่ไม่ค่อยมีความหมายให้ต้อง “ตัดใจ” ทำตาม ซึ่งหากนับดูแล้วก็มีอีกนับสิบเก้าอี้ที่อยู่ในข่าย ยกเว้นบางคนที่ยังมีความสำคัญใน “เกมสภา” อย่าง เช่น “คอมมานโดเป็ด” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ต้องยกเว้น รวมไปถึง “คนซื่อสัตย์” อย่าง ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รายนี้ก็เหมือนกัน ส่วนคนอื่นๆ ก็ให้รีบส่งใบลาออกมาไวๆ

00 ต้องบอกว่า “หน้าแหก” เป็นริ้วกับเกม “หากินกับศพ” ที่เครือข่ายพรรคเพื่อไทย-หัวโจกแดง-สื่อแดง ต่างหมายมั่นปั้นมือว่าจะลากยาวกันเป็นเดือน แต่เมื่อทุกอย่างมีหลักฐานมีที่มาชัดเจน “เกมขุด 169 ศพ” มันก็ไม่เฮี้ยน เพราะผ่านการทำพิธีมาอย่างถูกต้อง ทีนี้มันก็ทำให้คนที่กระโดดลงมาตั้งแต่ต้นต่างชิ่งหนีเป็นพัลวัน รายแรกเริ่มจาก พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ ตามมาด้วย พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก จนป่านนี้ไม่รู้ว่าหายมึนหรือยัง !!