ว่าที่โฆษกประชาธิปัตย์ แนะรัฐทบทวนขีดเส้นเขตแดนทางทะเลไทย-เขมร - เล็งส่งรายงานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เอาผิดเพื่อไทยต่อ กกต.เพิ่ม ชี้ แทรกแซงสื่อชัด
วันนี้ (18 ส.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต ว่าที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีแนวทางการใช้ทุนสำรองระหว่างประเทศ มาเป็นทุนสำรองและผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยของรัฐบาล ว่า พื้นที่ดังกล่าวทั้งไทย-กัมพูชา ต่างอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ และยังมีปัญหาเรื่องความถูกต้องของแผนที่ทะเล ทั้งนี้ รัฐบาลชุดก่อนเคยมีการยกเลิกในหลักการ สนธิสัญญาทางทะเล เมื่อปี 2544 แล้ว เพียงแต่ยังไม่มีการแจ้งต่อรัฐสภาอย่างเป็นทางการ เพราะอยู่ระหว่างให้ผู้เชี่ยวชาญดูข้อกฎหมายที่จะตีเส้นเขตแดนทางทะเลที่ถูกต้อง อีกทั้งการตีเส้นเขตแดนของกัมพูชาไม่ถูกตามหลักวิชาการ และกินพื้นที่เข้ามาในพื้นที่อ่าวไทยจำนวนมาก ดังนั้น ในกรณีหากจะมีการดำเนินงานในส่วนพื้นที่ตรงนั้นจริง ควรจะมีการกลับไปศึกษาใหม่
นายชวนนท์ กล่าวด้วยว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ปฏิเสธการพัฒนาแหล่งพลังงานทางธรรมชาติ แต่ความเป็นธรรมในการจัดสรรนั้นสำคัญกว่า เหตุนี้ไม่ว่าจะเป็น รมว.พลังงาน และรมว.ต่างประเทศ ก็ควรจะทบทวนเรื่องการขีดเส้นดังกล่าวหากไม่รู้ก็ต้องปรึกษาผู้เกี่ยวข้อง และชี้แจงกับประชาชน
ส่วนกรณีผลสอบของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ที่ระบุถึงความเชื่อมโยงระหว่าง นายวิม รุ่งวัฒนะจินดา ส.ส.พรรคเพื่อไทย กับสื่อมวลชนบางรายในช่วงหาเสียงเลือกตั้งนั้น นายชวนนท์ กล่าวว่า จะมีการส่งรายงานให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพิ่มเติมเพื่อเอาผิดกับพรรคเพื่อไทย เพราะถือเป็นการแทรกแซงการทำงานของสื่อ และถ้าหากพรรคเพื่อไทยจะปฏิเสธก็ต้องออกมาทำความเข้าใจในประเด็นนี้ เพราะเหตุการณ์ดังกล่าว คือการแทรกแซงสื่อมวลชนชัดเจนที่สุด อีกทั้งสภาการหนังสือพิมพ์ยังระบุชัดว่า อีเมลฉบับดังกล่าวเป็นของ นายวิม จริง ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้ กกต.ให้ตรวจสอบอย่างเข้มข้น และสร้างมาตรฐานของสื่อมวลชนไทย