xs
xsm
sm
md
lg

“แม้ว” รุกฮุบพลังงานอ่าวไทย - เร็วและชัดเกินคาด!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทักษิณ ชินวัตร
ผ่าประเด็นร้อน

หลายคนคงคาดไม่ถึงว่าในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้นที่ปรากฏร่องรอยความเคลื่อนไหวของ ทักษิณ ชินวัตร ในหลายเรื่องที่ประดังเข้ามาติดๆกัน ออกมาในลักษณะเรียกใช้ “รัฐมนตรีส่วนตัว” ทำงานบางอย่างที่ “หมิ่นเหม่” ต่อความไม่เหมาะสมและการทำผิดกฎหมาย

การให้ความช่วยเหลือบุคคลที่ต้องอาญาแผ่นดิน หลบหนีคดี หลบหนีหมายจับ อย่าง ทักษิณ ชินวัตร จากคนในรัฐบาล ไล่ลงมาตั้งแต่ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ออกมาในลักษณะใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ทั้งในเรื่องการทำหนังสือในนามรัฐบาลไทยร้องขอให้ญี่ปุ่นอนุมัติวีซ่าเข้าประเทศ รวมไปถึงความเคลื่อนไหวในเรื่องการคืนหนังสือเดินทางทูต (พาสปอร์ตสีแดง) และข่าวคราวในเรื่องตำรวจสากลไม่เคยออกหมายจับ ทักษิณ ในต่างประเทศ

ที่ผ่านมา ยิ่งลักษณ์ปฏิเสธมาตลอดว่าเธอไม่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แต่เป็นการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รัฐบาลไม่มีนโยบายในเรื่องแบบนี้ แต่ไม่ทันข้ามวันกลับกลายเป็นว่ารัฐบาลญี่ปุ่นได้ทำตามคำร้องขอของรัฐบาลไทย ที่ทำหนังสือในนามของนายกรัฐมนตรี อย่างนี้จะให้เข้าใจว่าอย่างไร เพราะไม่ว่าพิจารณาในแง่มุมไหนถือว่าไม่มีความเหมาะสมทั้งสิ้น ที่สำคัญรัฐบาลยังไม่ได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ยังไม่อาจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มรูปแบบ แต่รัฐบาลของพรรคเพื่อไทยก็ชิงลงมือไปก่อนแล้ว

มันก็ช่วยไม่ได้ที่จะทำให้ถูกจับตามอง เพราะที่ผ่านมาความเคลื่อนไหวของ ทักษิณ มักคาบเกี่ยวในเรื่องใช้อำนาจรัฐเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวอยู่เสมอ ซึ่งในคราวนี้ก็ไม่ได้แตกต่างกัน เพียงแต่ว่าเป็นการกระทำผ่านตัวแทน คือ “น้องสาว” ที่เป็นนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่แต่งตั้งจาก “คนใกล้ชิด” ประเภทเรียกง่ายใช้คล่องให้มาดำรงตำแหน่งในกระทรวงสำคัญ เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพลังงาน กระทรวงกลาโหม กระทรวงพลังงาน เป็นต้น

ล่าสุดมีการรายงานเข้ามาอีกว่า ทักษิณ ชินวัตร กำลังจะนำนักธุรกิจต่างชาติเข้าไปเจรจาเรื่องธุรกิจพลังงานในเขตทับซ้อนระหว่างไทย-กัมพูชา กับ ฮุนเซน ผู้นำกัมพูชาในวันที่ 19 สิงหาคมที่จะถึงนี้ก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น ซึ่งยิ่งลักษณ์ ก็ยอมรับว่าเป็นความจริง เพียงแต่อ้างว่าเป็นการเข้าไปเรื่องธุรกิจส่วนตัว

อย่างไรก็ดี หากติดความเคลื่อนไหวของ ทักษิณ มาตั้งแต่ต้น ก็ย่อมรู้ดีว่า ธุรกิจพลังงานคือ “ธุรกิจในฝัน” ของเขา เพราะที่ผ่านมาเมื่อครั้งที่ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีการขายหุ้นชินคอร์ป เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2549 นับแสนล้านบาท ส่วนหนึ่งก็เพื่อนำไปลงทุนในธุรกิจดังกล่าวนี่แหละ

ขณะเดียวกันก็ยังมีรายงานข่าวว่า มีการเจรจาร่วมธุรกิจกับผู้นำกัมพูชาโดยเฉพาะการลงทุนสำรวจแหล่งพลังงานที่คาดว่ามีอยู่จำนวนมหาศาลในพื้นที่ทับซ้อนบริเวณอ่าวไทย แต่ก็ดันมาเกิดเหตุสะดุดลงเสียก่อนเมื่อเกิดการรัฐประหารโดยคณะทหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน ปี 2549 เสียก่อน

อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมีความพยายามสานต่อแต่ก็ทำได้ในช่วงสั้นๆ ในยุคที่รัฐบาล “หุ่นเชิด” ทั้งรัฐบาล สมัคร สุนทรเวช และต่อเนื่องมาจนถึง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เพราะอายุของรัฐบาลดังกล่าวอยู่ได้ไม่กี่เดือน

มาคราวนี้ เมื่อพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย ส่งให้น้องสาวคือ ยิ่งลักษณ์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี มันก็ทำให้ส่อแววว่าความฝันจะเป็นจริง เพราะในช่วงเวลานี้ทางฝ่ายรัฐบาลกัมพูชามีท่าทีที่เปลี่ยนไป ยินดีอ้าแขนรับตลอดเวลา การเจรจาแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างกันแม้ว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะรับรู้ถึงความเคลื่อนไหวมาตลอดอยู่แล้ว แต่ที่แปลกใจก็คือทำไมถึงได้ “เปิดเกม” เร็วนัก ทั้งที่น่าจะรอโอกาส รอจังหวะอีกสักพักหนึ่ง

มองอีกมุมหนึ่งนี่อาจเป็นเพราะ “ความมั่นใจ” ที่เกิดขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากเห็นว่าตัวเองได้กลับมากุมสภาพได้ทุกอย่างแล้ว ทั้งอำนาจรัฐที่ควบคุมผ่านตัวแทนคือ ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี อีกทั้งการเลือกตั้งเที่ยวนี้ยังพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพรรคเพื่อไทยที่ตัวเองเป็นเจ้าของนั้นได้รับความสนับสนุนจากชาวบ้านจนถล่มทลาย ทำให้ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล อีกทั้งเชื่อว่าการเดินทางเข้ากัมพูชาคราวนี้จะต้องโชว์ผลงานเพื่อกลบเกลื่อนในทำนอง “สร้างข่าวเพื่อกลบข่าว” นั่นคือ การเจรจาขอให้ปล่อยตัว วีระ สมความคิด กับ ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ที่ถูกคุมขังออกมา สร้างภาพวีรบุรุษ เพื่อบิดเบือนให้ลืมเรื่องหลักไปเลย

ดังนั้นหากพิจารณาในภาพรวมที่กำลังเกิดขึ้น เชื่อว่าเป้าหมายหลักของ ทักษิณ ก็คือการเข้ามาเจรจาเพื่อสานต่อธุรกิจพลังงานในอ่าวไทย แต่ขณะเดียวกันก็ต้องหาทางกลบเกลื่อน สร้างภาพวีรบุรุษ และฟื้นฟูความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน รูปการน่าจะออกมาแบบนี้มากกว่า!!
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
กำลังโหลดความคิดเห็น