6 ส.ส.เพื่อไทย เตรียมใช้ตำแหน่งยื่นขอประกันตัวแดงติดคุก “จารุพงศ์” อ้างเดินรอยตาม “ณัฐวุฒิ-จตุพร” สนองคุณแดงร่วมทุกข์พรรค “เชิดชัย” ชี้ทำตามแผนปรองดอง ด้าน ปธ.เครือข่ายคนไทยรักชาติ และปธ.สภาวิทยุประชาชน และ ปธ.สภาการแท็กซี่มหาชน โผล่ร้องขอแก้กฎหมายวิทยุชุมชน
วันนี้ (16 ส.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย จำนวน 6 คน ประกอบด้วย นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช, น.ส.ภูวนิดา คุนผลิน, นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ, นายเชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, น.ส.ลีลาวดี วัชโรบล ส.ส.กทม. และนางสมหญิง บัวบุตร ส.ส.อำนาจเจริญ จะใช้ตำแหน่ง ส.ส.ประกันตัวกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยังถูกกักขังเอาไว้ในเรือนจำ โดยเรื่องนี้ถูกเป็นเอกสิทธิ์ส่วนตัว ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้ทราบเรื่องดังกล่าว
โดยนายจารุพงศ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ได้รวบรวมกลุ่มที่เคยเคลื่อนไหวกับกลุ่มคนเสื้อแดงประกันตัวประชาชนเสื้อแดงตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ตนจึงมีความตั้งใจที่จะใช้ตำแหน่ง ส.ส.ประกันตัวคนเสื้อแดงที่ติดคุกมาตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน เนื่องจากประชาชนกลุ่มดังกล่าวได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด และตนเชื่อว่าประชาชนไม่ใช่กลุ่มผู้ก่อการร้ายเท่านั้น ซึ่งต่อจากนี้ก็จะได้ออกมาต่อสู้คดีต่อไป เพราะถ้าจะประกันตัวคนเสื้อแดงกล่าว 100 คนนั้นก็จำเป็นที่จะต้องใช้ ส.ส.จำนวนพอสมควร
ด้าน นายเชิดชัยกล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้มีนโยบายที่จะปรองดอง ตามกฎหมายนั้นหากผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์ก็สมควรที่จะได้รับการประกันตัวออกจากเรือนจำ อีกทั้งพรรคเพื่อไทยยังเป็นพรรคที่ได้รับความไว้ใจจากประชาชน เพราะฉะนั้น พรรคก็ต้องช่วยเหลือประชาชนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาตลอด ภาพที่จะเกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าต่อจากนี้ไปประเทศจะเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ขณะที่ นายวิโรจน์ พูลสุข ประธานเครือข่ายคนไทยรักชาติ และนายนิคม บุญวิเศษ ประธานสภาวิทยุประชาชนและประธานสภาการแท็กซี่มหาชน เข้ายื่นหนังสื่อต่อเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เพื่อขอประสานงานนำเสนอนโยบายแห่งชาติของประชาชนและนำคณะเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เนื่องจากทางกลุ่มเห็นว่าผู้ประกอบการวิทยุทั่วประเทศกำลังประสบปัญหา การใช้กฎหมายที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ จึงอยากจะสนับสนุนการจัดนโยบายของรัฐบาล เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนได้นำคลื่นความถี่อันเป็นทรัพยากรของชาติมาประกอบกิจการเพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างเสรีและเป็นธรรม โดยความเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ตามเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญ และหลักการประชาธิปไตยอย่างแท้จริง กฎหมายใดที่ขัดแย้งจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน