“ป๋าเหนาะ” เลือดขึ้นหน้า ปฏิเสธข่าวลือตระกูลเทียนทองตบรางวัล กกต.สระแก้ว จัดกรุ๊ปทัวร์ญี่ปุ่นตอบแทนหลังการเลือกตั้ง ลั่นเป็นทัวร์ปกติสองปีครั้ง เชื่อเป็นกมการเมืองหวังดิสเครดิตข้าราชการประจำ อ้างสั่งให้ใครทำผิดไม่ได้
วันนี้ (15 ส.ค.) นายเสนาะ เทียนทอง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่าตระกูลเทียนทอง นำกกต.จังหวัด รวมถึงผู้บริหารจังหวัดสระแก้วทัวร์ญี่ปุ่นเพื่อตอบแทนการเลือกตั้งที่ผ่านมา ว่า “ผมไม่ได้ไป ปัดโธ่เอ๊ย...เขานัดกันไปเที่ยวตั้งนานแล้ว เป็นทัวร์ปกติมีการจองทัวร์ล่วงหน้า ที่ไม่ได้ไปเพราะติดเลือกตั้งเลยไปไม่ได้ โดยเราจะนัดกันสองปีครั้ง เราไม่ไปใช้ข้าราชการไปทำอะไรที่ไม่ถูกต้องหรอก โธ่...ไอ้พวกนี้ รู้อยู่แล้วว่าการเมืองที่ จ.สระแก้ว ยืนยันได้ว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไร ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง”
ด้าน นายสุรชาติ เทียนทอง ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าข่าวดังกล่าวมาจากไหน ส่วนตัวก็ทำงานในส่วนภาคกทม.ไม่ได้ทำงานการเมืองใน จ.สระแก้วแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้ไปญี่ปุ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า ได้มีผู้นำเอกสารจำนวน 3 แผ่น มาวางไว้ที่บริเวณห้องผู้สื่อข่าวประจำพรรค โดยในเอกสารได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับรายชื่อของผู้โดยสารเครื่องบินสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ เจแอล 728 ระบุวันเดินทางออกจาก กทม. ปลายทางสนามบินเคนไซ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 30 ก.ค.54 โดยผู้โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าวมีบางรายที่น่าสนใจ เนื่องจากมีรายชื่อบุคคลในตระกูลเทียนทอง ที่ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงรายชื่อของข้าราชการระดับสูงใน จ.สระแก้ว ซึ่งว่ากันว่าส่วนหนึ่งมีผลต่อการปฏิบัติหน้าที่ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาด้วย อีกทั้งวันเวลาที่เดินทางยังเป็นช่วงเวลาที่เสร็จสิ้นการเลือกตั้งไม่ถึง 1 เดือน
โดยเอกสารดังกล่าว ระบุรายชื่อผู้โดยสารที่น่าสนใจประกอบไปด้วย 1.นางอุไรวรรณ เทียนทอง ภรรยานายเสนาะ เทียนทอง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และมารดานายสรวงศ์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย 2.นางขวัญเรือน เทียนทอง มารดา ส.ส.ฐานิสร์ เทียนทอง รมช.มหาดไทย และ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย 3.น.ส.สิริวรรณ เทียนทอง บุตรสาวของนายเสนาะ- นางอุไรวรรณ 4.นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และอดีตผู้ว่าราชการ จ.สระแก้ว 5.นางปริศนา พงษ์พิทัดศิริกุล ภรรยานายสุรพล
6.นายสานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว 7.นางเชาวลี นาคสุขศรี ภรรยานายสานิตย์ 8.นายยุทธนา นุชนาถ นายอำเภอตาพระยา และประธาน กกต.จ.สระแก้ว 9.นายวุฒิดนัย สวัสดินฤนาถ นายอำเภอโคกสูง และ ผอ.เลือกตั้ง เขต3 จ.สระแก้ว
10.นายเชษฐา โชไชย นายอำเภอเมือง และ ผอ.เลือกตั้ง เขต 1 จ.สระแก้ว 11.นายชัช กิตินพดล รองผู้ว่าราชการ จ.สระแก้ว 12.นายเริงชัย ชัยวัฒน์ นายอำเภออรัญประเทศ 13.นายธรรมศักดิ์ รัตนธัญญา นายอำเภอเขาฉกรรจ์
14.นายพิษณุวัฒน์ วรรธนะกุล นายอำเภอวังน้ำเย็น 15.นายวัลลภ ประวัติวงศ์ จ่าจังหวัด 16.นายอารขันต์ ท่าใหม่ ป้องกันจังหวัด 17.นายอนุกูล เรือนแก้ว ปลัดอาวุโส อ.เมือง 18.นายวินัย จงวัฒนาบัณฑิต นายอำเภอวังสมบูรณ์ 19.นายธีรพงษ์ ศิรินานุวัต นายอำเภอคลองหาด 20.นางกัลยา ศิรินานุวัต ภรรยานายธีรพงษ์ 21.นายวรพันธ์ สุวรรณนุช นายอำเภอวัฒนนานคร
ทั้งนี้ ในเอกสารแนบท้ายมีการระบุข้อความด้วยว่า “ค่าใช้จ่ายต่อหัวเฉลี่ยตกเกือบคนละ 5 แสนบาท ซึ่งเป็นไปได้หรือไม่ว่า เป็นทัวร์ต่างตอบแทนที่ปูนบำเหน็จหลังการเลือกตั้งที่ทำงานเข้าเป้า เพราะรายชื่อมีแต่ผู้ใหญ่ในจังหวัด ที่มีทั้งคนระดับประธาน กกต.จังหวัด และ ผอ.การเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งอยู่ด้วย แม้ข่าวใน กกต.จะระบุว่ามีรายงานว่า ประธาน และ กกต.จังหวัดต่างๆจะหมดวาระ จะต้องมีการสรรหาประธาน กกต.และ กกต.จังหวัดคนใหม่ แต่สุดท้ายก็ต้องเลือกเอาจากคนเหล่านี้มาเป็นอยู่ดี ขอให้ดูรายชื่อที่เป็นผู้โดยสาร เขาก็พาทั้งผู้ว่าและรองผู้ว่า ตลอดจนนายอำเภอในจังหวัดไปเที่ยวกันยกจังหวัด ที่สุดก็ต้องได้คนเหล่านี้มาเป็นประธาน กกต.และ กกต.จังหวัด และอย่าอ้างว่าเป็นการใช้งบประมาณในส่วนของจังหวัดไปดูงานตามแผนงานเดิม เพราะที่ไปมีแต่ระดับบริหารอันดับต้นๆ ของจังหวัด โดยเฉพาะคนในตำแหน่ง กกต. และมีรายงานว่ามีการประสานงานถึงทูตพาณิชย์ประจำนครโอซาก้า ให้อำนวยความสะดวกเรื่องที่พักและรถรับส่งตลอดทริป จึงขอให้สื่อสะท้อนความเป็นจริงต่อสังคมว่า สังคมไทยเป็นกันอย่างนี้หรือจะตรวจสอบกันอย่างไร หรือจะเป็นโมเดลใหม่ของ กกต.จังหวัดที่เตะหมูเข้าปากหมา เพราะ กกต.กลางไม่ทำงาน มอบหน้าที่ให้ กกต.จังหวัดทำหน้าที่แทน แล้วจะให้สังคมมององค์กรกลางนี้ว่าอย่างไร หรือจะออกมารูปแบบเดียวกับโมเดลเงินหล่นในสนามกอล์ฟของก๊วนกอล์ฟ กกต.จังหวัดหนึ่งในภาคกลางที่เคยเป็นข่าวฮือฮามาแล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วจะหวังอะไรกับกระบวนการที่คัดคนเข้าสู่ระบบเพื่อทำหน้าที่นิติบัญญัติและบริหารชาติบ้านเมือง” เอกสารดังกล่าวระบุ