“ยิ่งลักษณ์” น้อมนำพระราชดำรัสไปปฏิบัติ พร้อมให้ ครม.ทุกคนต้องยึดถือเป็นแนวทาง วอนพวกวิจารณ์ขอโอกาสรัฐบาลทำงานก่อน อุ้ม “สุรพงษ์” มีวิสัยทัศน์ คุมบัวแก้วได้ ด้าน “เป็ดเหลิม” งอแง อ้างพรรคไม่มีคำสั่งให้ รมต.ต้องลาออกจาก ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ อ้างเป็นเรื่องใหญ่ต้องหารือกันในพรรค โต้ “นักวิชาการ” อย่าเพิ่งวิจารณ์ขอโอกาสทำงานก่อน โวรัฐบาลอยู่ครบวาระ 4 ปีแน่หากไม่มีทุจริต
วันนี้ (11 ส.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ว่าจะรับมาปฏิบัติ ซึ่งจะมีการพิมพ์แจกใน ครม.ด้วย ซึ่ง ครม.ทุกคนจะยึดถือเป็นแนวปฏิบัติ และถือเป็นมงคลแก่ทุกคนด้วย ตนอยากให้ ครม.ทุกคนปฏิบัติตามที่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่สำคัญพระองค์ท่านอยากเห็นบ้านเมืองของเราก้าวไปสู่ความสามัคคี ปรองดอง รักกัน และนำคำว่าสยามเมืองยิ้มกลับมา
ส่วนการหารือใน ครม.วันนี้ จะไม่มีการพูดคุยเรื่องการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้ยังไม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่จะหารือในส่วนของงานที่ต้องทำต่อเนื่องจากรัฐบาลที่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์วิพากษ์วิจารณ์ ครม.ว่า เป็น ครม.ต่างตอบแทน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า อยากให้ฝ่ายค้านใจเย็นๆ เพราะเราเพิ่งเริ่มตั้ง ครม.ก็อยากให้โอกาสรัฐมนตรีทำงานก่อน และทุกคนก็มีความทุ่มเทมุ่งมั่นในการทำงาน จึงอยากให้ทุกคนได้มีโอกาสทำงาน แล้วค่อยดูผลงานดีกว่า ซึ่งตอนนี้รัฐบาลรอแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งการทำงานคงจะทำต่อเนื่องหลังแถลงนโยบายต่อสภาแล้ว
ส่วนที่หลายคนมองว่า นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นจุดอ่อนใน ครม.ชุดนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายสุรพงษ์ถือว่าเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ มีความรู้ความสามารถหลายด้าน ซึ่งขณะนี้งานต่างประเทศเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งตนก็เชื่อว่านายสุรพงษ์จะทำงานด้านนี้ได้ดี เมื่อถามว่า การที่นายสุรพรษ์แสดงท่าทีในการคืนหนังสือเดินทางให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า อยากให้ทุกคนเข้าใจว่า รัฐบาลทำงานเพื่อประเทศชาติเป็นหลัก และขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการดีกว่า
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวผู้ที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีต้องลาออกจาก ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อว่า นายกรัฐมนตรีไม่เคยพูด ก็ไปคิดกันเอาเอง ในอดีตก็เคยมีพอใครมีตำแหน่งบริหารต้องลาออก เพื่อขยับให้ผู้อยู่ในระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปไดขึ้นมาเป็น ส.ส. ทั้งนี้ เพราะผู้บริหารจะลงมติไม่ได้ เช่น เรื่องงบประมาณแผ่นดิน การยกมือไม่ไว้วางใจ หรือไว้วางใจ ทำไม่ได้ ก็อาจมีผลกระทบ แต่เรื่องอย่างนี้ตนไม่ทราบลึกๆ ว่าเป็นอย่างไร ส่วนจำเป็นต้องลาออกหรือไม่นั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ พรรคอาจต้องหารือกันอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเกิดแรงกระเพื่อมหรือไม่ เพราะมีคนที่จะรอเป็น ส.ส. ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่มี เรียบร้อยหมด หลักคือพรรคเพื่อไทยเป็นระบบ ชนะด้วยนโยบายคนก็ศรัทธาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ทำงานในอดีต ส่วนผู้สมัครก็เป็นองค์ประกอบหนึ่ง คณะรัฐมนตรีก็เป็นองค์ประกอบหนึ่ง แต่การเดินงานของพรรคก็มีนโยบายพรรคและระบบ ส่วนนักวิชาการที่ตำหนิก็รับฟังบางคนก็เจ้าเก่า ตำหนิมาตลอด
เมื่อถามว่าแสดงว่าไม่กังวลกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของนักวิชาการ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ต้องรับฟัง แต่บางครั้งก็เจ้าเก่าวิพากษ์วิจารณ์พรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด จะวิจารณ์ซ้ำอีกครั้งก็เรื่องปกติ บางครั้งอาจารย์บางคนท่านก็อายตัวเอง เพราะวิจารณ์กระทั่งได้ 265 หากไม่ตกหล่นก็จะถึง 300 เสียง อย่างไรก็ตามยังไม่ได้ทำงานเลย นโยบายก็ยังไม่ได้แถลง แล้วจะมาวิจารณ์กันอย่างอย่างไร แต่วิจารณ์มาก็รับฟัง ซึ่งตนอยู่ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีก็ไม่ค่อยมีคนวิจารณ์ เพราะยังไม่ได้รับมอบหมายให้ทำอะไร และยังไม่แน่ใจว่านายกรัฐมนตรีจะมอบหมายให้ดูแลหน้าที่ไหน ต้องถามนายกรัฐมนตรี ส่วนที่มีข่าวว่าจะให้ดูแลเรื่องสังคมด้วยนั้นก็เป็นเพียงข่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าถามว่าปัญหาเหล่านี้จะกระทบเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่กระทบเสถียรภาพรัฐบาล ถ้าไม่ทุจริตก็อยู่จนครบวาระ 4 ปี แต่ไม่มีวันที่รัฐบาลชุนี้จะทุจริตโดยเด็ดขาด เพราะนายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องแล้วว่าพวกเราจะตั้งใจทำงาน อย่างตนถ้าได้รับมอบหมายงานส่วนไหนก็จะทำทันที