อดีตนายกฯ หมาดๆ ห่วง ครม.ยิ่งลักษณ์ 1 คนทำนโยบายไร้ตำแหน่ง แนะจับตาทำตามหาเสียงหรือไม่ แขวะ ศก.ไม่ได้แค่บริหารทุนอย่างเดียว โอ่ดูผลงานรัฐชุดที่แล้ว พร้อมเฝ้าดู รมต.เอื้อประโยชน์ “นช.แม้ว” แปลกใจ “สุรพงษ์” นั่ง กต.เชื่อถ้าพยายามให้ “ทักษิณ” อยู่เหนือกฎหมายมีปัญหาแน่ จี้แก้ของแพง เพิ่มรายได้ไม่ให้ชาวบ้านผิดหวัง
วันนี้ (10 ส.ค.) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคณะรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า สิ่งที่เป็นห่วงมีหลายเรื่อง แต่มีข้อสังเกตว่า คนที่มีส่วนทำนโยบายหรือเอานโยบายไปชี้แจงกับประชาชนกลับไม่มีตำแหน่ง จึงไม่แน่ใจว่าผู้ที่เข้ามาแทนจะมีความคิดเห็นอย่างไร จึงต้องจับตาว่าสิ่งที่เป็นนโยบายของรัฐบาลจะยังตรงกับคำมั่นสัญญาหรือไม่ ส่วนของเศรษฐกิจที่มีคนนอกเข้ามา ส่วนใหญ่เป็นคนของวงการตลาดเงิน ตลาดทุน ซึ่งมีความท้าทายที่จะต้องบริหารเศรษฐกิจจริงในขณะนี้ ในมุมที่ว่าของการบริหารเศรษฐกิจนั้นไม่ใช่เรื่องการบริหารเงินในตลาดทุนอย่างเดียว นอกจากนั้น ผู้ที่เป็นคนนอกที่เข้ามามีความเกี่ยวกันกับการซื้อขายหุ้นของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาก่อการร้าย หรือเรื่องการเสียภาษี ดังนั้นจึงต้องจับตาดูเป็นพิเศษว่าการปฏิบัติหน้าที่จะมีปัญหาในลักษณะนี้หรือไม่
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า บางกระทรวงมีการเลือกบุคลากรที่น่าแปลกใจ โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศ ที่แม้แต่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ยังเคยระบุว่า ไม่ได้อยากทำในส่วนนี้ แต่ทั้งนี้ ก็ต้องเปิดโอกาสให้ทำงานไปก่อน แต่ก็ต้องยอมรับว่าผู้ที่ไม่มีประสบการณ์คุ้นเคย การที่จะเรียนรู้นั้นไม่ใช่เฉพาะสาระของงาน แต่ยังหมายถึงการวางท่าทีของงานก็อาจเป็นปัญหา และข้าราชการก็คงต้องช่วยอย่างเต็มที่ ส่วนจะเป็นการวางตัวเพื่อช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อกลับมาประเทศโดยไม่มีความผิดหรือไม่นั้น ตนยืนยันว่า ถ้ายังมีความคิดเช่นนี้ คือ ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เหนือกฎหมาย มีการคืนพาสปอร์ตให้ ไม่ว่าใครก็จะเป็นปัญหาทั้งนั้น และถ้าทำจริงก็ต้องมีการอธิบายเหตุผลให้ได้ และต้องอธิบายให้ทุกคนอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน
“นายกฯใหม่ท่านก็ย้ำว่าจะไม่ทำงานเพื่อคนกลุ่มหนึ่ง ก็ต้องจับตาดูว่าจะจริงหรือเปล่า และเราก็ต้องดูต่อไป” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการตั้ง ครม.นั้น นายกรัฐมนตรีก็ต้องตอบคำถามให้ได้ เพราะในการอภิปรายนโยบายจะมีการพูดถึงความเป็นได้ที่จะทำงานให้ประสบความสำเร็จตามนโยบาย ในฐานะผู้รับผิดชอบ และให้กลไกในรัฐสภาทำงานไป ขณะที่ผู้บริหารก็ต้องรับฟัง
เมื่อถามถึงทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ติดใจ เพียงแต่จะบอกว่าทีมเศรษฐกิจนั้นต้องมองกว้างกว่าตลาดเงิน ตลาดทุน ส่วนในที่สุดแล้วก็ต้องพิสูจน์ด้วยผลลัพธ์ เหมือนที่รัฐบาลชุดก่อนพิสูจน์ให้เห็นว่า ตลอดเวลา 2 ปีที่ทำงาน เกิดผลอย่างไร อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีระบบของคณะกรรมการกลั่นกรองทางเศรษฐกิจแต่จริงๆหัวหน้ารัฐบาลก็ต้องตัดสินใจ และงานของเศรษฐกิจหลายเรื่องมันคาบเกี่ยวหลายกระทรวง ดังนั้นต้องอาศัยการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เคยระบุว่า ภายในระยะเวลา 6 เดือนจะเห็นผลงานของรัฐมนตรี คิดว่าในช่วงดังกล่าวจะเป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าในนโยบาย จะมีนโยบายเร่งด่วนในบางเรื่องหรือไม่ ที่จะพอจะวัดผลงานได้ตามที่พูดไว้ อย่างไรก็ตามสัญญาประชาคมทั้งหลายที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงมามีระยะเวลาสั้นกว่า 6 เดือนด้วยซ้ำ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านทำหน้าที่ตามปกติ กรอบเวลาไม่ใช่สาระสำคัญแต่อย่างใด เพราะในบางเรื่องการทำงานอาจใช้เวลา 2 ปี จะไปคาดคั้นให้ทำเสร็จภายใน 6 เดือนคงไม่ได้ ก็ว่าไปตามความเป็นจริง ตนคิดว่าที่ประชาชนคาดหวังมากที่สุดคือการแก้ปัญหาของแพง สามารถดูแลราคาได้จนเป็นที่น่าพอใจ ทำให้ประชาชนมีรายได้มากเพียงพอที่จะรับมือ นี่คือสิ่งที่พรรคเพื่อไทยให้ความหวังกับประชาชนไว้ หากทำไม่ได้ก็เท่ากับทำให้ประชาชนผิดหวัง