นายแพทย์ ชลน่าน ยันเป็นแค่โฆษกวิปพรรค แต่มีสิทธิ์ลุ้นเก้าอี้รัฐมนตรี ฟุ้งประสบการณ์การเมือง 10 ปี พร้อมทำงานรับใช้ประชาชน โปรยคำหวานสุดท้ายอยู่ที่ดุลพินิจปูแดง
วันนี้ (3 ส.ค.) นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวโดยระบุว่า รับทราบแล้วถึงมติแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล โดยเขาทำหน้าที่เป็นโฆษกร่วมกับ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ และ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง พร้อมยืนยันว่า 37 รายชื่อ เป็นรายชื่อเดิม และส่วนตัวถือว่าเป็นโฆษกวิปพรรคไม่ใช่โฆษกวิปรัฐบาล ซึ่งภายหลังที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ผ่านกระบวนการรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีแล้ว 37 รายชื่อนี้ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจ หรือการพิจารณาของนางสาวยิ่งลักษณ์ ซึ่งขณะนี้ทั้ง 37 คน ก็จะทำหน้าที่ประสานงานชั่วคราวก่อน
ทั้งนี้ นายแพทย์ ชลน่าน เห็นว่า บุคคลที่มีรายชื่อทั้ง 37 คน ยังมีโอกาสที่จะถูกคัดเลือกเป็นรัฐมนตรี แต่ที่มีแนวโน้มนั่งได้ 2 ตำแหน่ง ควบคู่ทั้งรัฐมนตรีและกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลนั้น คงมีเพียงตำแหน่งเดียว นั่นคือ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพราะสายงานสอดคล้องกับสภา จึงทำให้ทำงานได้ง่าย แต่หากใน 37 รายชื่อได้รับเลือกเป็นรัฐมนตรีประจำกระทรวงต่างๆ อาทิ มหาดไทย ยุติธรรม ก็ควรต้องลาออกจากการเป็นกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อไปกำกับควบคุมดูแลกระทรวงเพียงอย่างเดียว
ซึ่งส่วนตัว นายแพทย์ ชลน่าน ยอมรับว่า ก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ในบทบาทรัฐมนตรีหากได้รับเลือก เนื่องจากมีประสบการณ์การเมือง 10 ปี ส่วนตัวพร้อมที่จะเรียนรู้กับบทบาทนี้เพื่อผลักดันนโยบายทำประโยชน์ให้ประชาชน
วันนี้ (3 ส.ค.) นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวโดยระบุว่า รับทราบแล้วถึงมติแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล โดยเขาทำหน้าที่เป็นโฆษกร่วมกับ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ และ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง พร้อมยืนยันว่า 37 รายชื่อ เป็นรายชื่อเดิม และส่วนตัวถือว่าเป็นโฆษกวิปพรรคไม่ใช่โฆษกวิปรัฐบาล ซึ่งภายหลังที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ผ่านกระบวนการรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีแล้ว 37 รายชื่อนี้ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจ หรือการพิจารณาของนางสาวยิ่งลักษณ์ ซึ่งขณะนี้ทั้ง 37 คน ก็จะทำหน้าที่ประสานงานชั่วคราวก่อน
ทั้งนี้ นายแพทย์ ชลน่าน เห็นว่า บุคคลที่มีรายชื่อทั้ง 37 คน ยังมีโอกาสที่จะถูกคัดเลือกเป็นรัฐมนตรี แต่ที่มีแนวโน้มนั่งได้ 2 ตำแหน่ง ควบคู่ทั้งรัฐมนตรีและกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลนั้น คงมีเพียงตำแหน่งเดียว นั่นคือ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพราะสายงานสอดคล้องกับสภา จึงทำให้ทำงานได้ง่าย แต่หากใน 37 รายชื่อได้รับเลือกเป็นรัฐมนตรีประจำกระทรวงต่างๆ อาทิ มหาดไทย ยุติธรรม ก็ควรต้องลาออกจากการเป็นกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อไปกำกับควบคุมดูแลกระทรวงเพียงอย่างเดียว
ซึ่งส่วนตัว นายแพทย์ ชลน่าน ยอมรับว่า ก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ในบทบาทรัฐมนตรีหากได้รับเลือก เนื่องจากมีประสบการณ์การเมือง 10 ปี ส่วนตัวพร้อมที่จะเรียนรู้กับบทบาทนี้เพื่อผลักดันนโยบายทำประโยชน์ให้ประชาชน
