กกต.ลั่นไม่หวั่นถูกฟ้อง คาดพิจารณาคดี “จตุพร” ไม่นานส่งประธานสภาได้ ระบุหากไม่ทันใจ ส.ส.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของสภามีอยู่ เข้าชื่อร้องศาลวินิจฉัยได้เลย แย้มหมดอำนาจ กกต.แจกใบเหลือง-ใบแดง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับศาลฎีกา โอดไม่อยากให้ กกต.มีอำนาจตัดสิทธิเลือกตั้งใคร พ้อเสี่ยงถูกฟ้องได้ง่าย
วันนี้ 2 ส.ค. นายสมชัย จึงประเสริฐ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านสืบสวนสอบสวน และวินิจฉัย กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะมีบุคคลหลายกลุ่มจะฟ้องร้อง กกต.หากรับรองให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยเป็น ส.ส.ว่า หากจะฟ้องร้อง กกต.ก็สามารถทำได้ตามกระบวนการว่าไปตามกฎหมาย แต่ทั้งนี้ผู้ที่จะฟ้องก็ต้องเป็นผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนที่ กกต.รับรองนายจตุพร ส่วนที่ ส.ส.บางคนพูดกันว่าทำไมให้อำนาจ กกต.ในการพิจารณาให้ใบแดงได้นั้น หลังจากนี้การพิจารณาสำนวนใดของกกต.หากมีมติให้มีการเลือกตั้งใหม่ (ใบเหลือง) หรือให้ตัดสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) กกต.ก็จะต้องส่งไปยังศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้ง กกต.ไม่มีอำนาจขาดแล้ว เนื่องจากพ้น 30 วัน หลังจากวันเลือกตั้ง แต่โดยส่วนตัวก็คิดว่าไม่อยากให้ กกต.ได้อำนาจในการตัดสิทธิเลือกตั้งใคร หรือสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ได้ เพราะเป็นภาระที่หนัก และเสียงถูกฟ้องได้ง่าย และส่วนตัวไม่เคยหวงอำนาจ
นายสมชัยกล่าวต่อว่า ส่วนกรรมการสอบสวนคุณสมบัติของนายจตุพรที่ด้านกิจการพรรคการเมืองเป็นผู้รับชอบก็จะใช้เวลารวบรวมหลักฐานและตรวจสอบ คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน และเมื่อได้สำนวนมาแล้ว กกต.ก็จึงจะได้มีมติส่งไปยังประธานสภา เพื่อให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายจตุพรสิ้นสมาชิกภาพความเป็น ส.ส.หรือไม่ ตามมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจ กกต.ไว้ แต่หาก ส.ส.บางคนที่ยังเห็นว่ากกต.ทำงานล่าช้า ในมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญก็ยังให้ สิทธิ์ส.ส.จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของที่สภามีอยู่ เข้าชื่อกันเพื่อร้องต่อประธานสภาเพื่อให้พิจารณาว่านายจตุพรสิ้นสุดสมาชิกภาพ ส.ส. และให้ประธานสภาส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยสมาชิกภาพได้เช่นกัน
“แต่หากนายจตุพรเข้าโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี หรือกระทำการใดๆ หลังจากได้เป็น ส.ส.แล้ว แต่ปรากฏภายหลังว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายจตุพรสิ้นสมาชิกภาพความเป็น ส.ส. สิ่งที่นายจตุพรได้โหวตไว้ก็ไม่ถือว่ากระทบต่อสิ่งที่เคยทำไปแล้วตามมาตรา 92 ของกฎหมายรัฐธรรมนูญ” นายสมชัยกล่าว