มติที่ประชุม ปชป.เอกฉันท์ ไม่ส่งคนชิง ปธ.สภา อ้างเคารพฉันทามติเลือกตั้ง

“หมอบุรณัชย์” ยันมติประชาธิปัตย์เอกฉันท์ ไม่ส่งคนชิงเก้าอี้ประธานสภา อ้างเคารพฉันทามติเลือกตั้ง แนะเป็นกลาง

วันนี้ (1 ส.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายแพทย์ บุรณัชย์ สมุทรักษ์ รักษาการโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่ส่งตัวแทนพรรคเข้าชิงตำแหน่งประธานรัฐสภา เพราะการเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ถือเป็นฉันทามติจากประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยจนมีเสียงส่วนมากในสภา จึงควรเคารพฉันทามติดังกล่าว แต่การทำงานของสถาบันนิติบัญญัติมีความสำคัญมากในการฟื้นคืนความเชื่อมั่น และการดำรงตำแหน่งประธาน และรองประธานจะต้องยึดถือความเป็นกลาง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ไม่ว่าใครจะมารับตำแหน่งประธานสภาต้องดำรงความเป็นธรรม เพราะถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะในยุคที่บ้านเมืองผ่านความขัดแย้งในหลายปีที่ผ่านมา และไม่อยากเห็นการใช้เสียงข้างมากผูกขาดการทำงานไม่ว่าจะเป็นอำนาจฝ่ายบริหารหรือฝ่ายนิติบัญญัติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อรองประธานสภา คือ นายเจริญ จรรย์โกมล ส.ส.ชัยภูมิ และ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้พูดคุย หรือแสดงความเป็นห่วงในการทำหน้าที่หรือไม่ นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ตัวบุคคลไม่สำคัญ แนวทางการทำงานต่อไปในอนาคต ซึ่งส่วนนี้จะต้องรอให้แต่ละท่านได้รับการเสนอชื่อ และมีการลงมติรับรองและได้ปฏิบัติหน้าที่ก่อน การเสนอชื่อชิงตำแหน่งนายกฯของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ทางพรรคยังไม่มีการพูดคุยในเรื่องนี้

ทั้งนี้ บรรยากาศก่อนการประชุม ส.ส.ได้มีการร่วมรับประทานอาหารกลางวัน จากนั้น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รักษาการเลขาธิการพรรคได้เป็นประธานในที่ประชุม โดยให้ ส.ส.ใหม่แนะนำตัว พร้อมชี้แจงขั้นตอนในการเข้าร่วมรัฐพิธี และการประชุมสภาเพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 2 ส.ค.นี้ โดยพรรคมีมติว่าไม่ส่งบุคคลลงแข่งขัน เนื่องจากพรรครัฐบาลมีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง แต่ทั้งนี้ ต้องหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นก่อนว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ หากเขาต้องการส่งบุคคลลงแข่งขัน พรรคก็ต้องลงมติงดออกเสียง แต่หากไม่ส่งใครลงก็ไม่ต้องลงมติ ทางพรรคเพื่อไทยก็จะได้ตำแหน่งไปโดยปริยาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะรักษาการรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ ได้กล่าวกับสมาชิกพรรค ว่า ขอให้พรรคคำนึงถึงมติของประชาชน จากผลการเลือกตั้งครั้งนี้ที่ได้เลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามาให้มี ส.ส.เกิน ครึ่งในสภา แม้ในอดีตที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์จะเสนอบุคคลเพื่อชิงตำแหน่งประธานสภาแต่ครั้งนี้มันต่างกันเพราะถือว่าประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยแล้วก้ต้องปล่อยให้ทำงาน ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติเสียงส่วนใหญ่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่ส่งบุคคลชิงตำแหน่งประธานสภา และรองประธาน