xs
xsm
sm
md
lg

ศป.กลาง สั่ง สตช.-ก.ตร.เร่งปรับขึ้นตำแหน่งพนักงานสอบสวน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศาลปกครองกลาง ชี้ ผบ.ตร.-ก.ตร.ไม่ปฏิบัติตามระเบียบตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 47 ละเลยเลื่อนตำแหน่งพนักงานสอบสวนรวม 223 ราย ที่เข้าชื่อยื่นฟ้องมากว่า 7 ปี สั่งเร่งออกระเบียบเงินเพิ่ม-เลื่อนตำแหน่งภายใน 60 วัน

วันนี้ (25 ก.ค.) ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาคดีในคดีที่ พ.ต.ท.มานะ เผาะช่วย ผกก.สน.นางเลิ้ง ฐานะประธานชมรมพนักงานสอบสวนพร้อมพวกนายตำรวจที่เป็นพนักงานสอบสวนรวม 223 ราย ยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) กรณีไม่ออกระเบียบ ก.ตร.กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินพิจารณาเลื่อนตำแหน่งพนักงานสอบสวน, ระเบียบ ก.ตร.กำหนดเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษโดยความเห็นชอบกระทรวงการคลังให้แก่พนักงานสอบสวน และระเบียบการแต่งตั้งพนักงานสอบสวนและอำนาจหน้าที่ในการบังคับบัญชา ซึ่งทำให้พนักงานสอบสวนขาดความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ขาดขวัญกำลังใจ

โดยศาลเห็นว่า การดำเนินการออกระเบียบทั้ง 3 เป็นดำเนินหน้าที่ของ สตช., ผบ.ตร.และ ก.ตร.ที่จะต้องเร่งรัดออกระเบียบดังกล่าวให้เสร็จภายในระยะเวลาอันสมควร เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งพนักงานสอบสวนให้สูงขึ้น ซึ่งจะทำให้พนักงานสอบสวนมีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ราชการและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการให้พนักงานสอบสวนที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด และผ่านการประเมินแล้วได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น แต่ สตช., ผบ.ตร.และ ก.ตร.มิได้เร่งรัดดำเนินการตามหน้าที่ ความรับผิดชอบของตนล่วงเลยมาเป็นเวลามามากกว่า 7 ปีแล้ว นับตั้งแต่ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มีผลบังคับใช้จึงเป็นการดำเนินการที่ล่าช้าเกินควร สตช., ผบ.ตร.และ ก.ตร.จึงต้องเร่งรัดดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายโยเร็วที่สุด ไม่อาจยกปัญหาต่างๆ มาอ้างเพื่อเลื่อนการดำเนินการออกไปโดยไม่กำหนดเวลาได้อีกต่อไป จึงพิพากษาให้ สตช.และ ผบ.ตร.เสนอระเบียบ ก.ตร.กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินพิจารณาเลื่อนตำแหน่งพนักงานสอบสวน และระเบียบการแต่งตั้งพนักงานสอบสวนและอำนาจหน้าที่ในการบังคับบัญชา ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ต่อ ก.ตร.ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด และให้ ก.ตร.ดำเนินการออกระเบียบ ก.ตร.ดังกล่าวภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับเรื่องจาก สตช.และผบ.ตร.

ส่วนกรณีนายกรัฐมนตรี และ ก.ต.ช.ให้ยกฟ้อง เนื่องจากศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ถูกฟ้องทั้งสองไม่ได้กระทำการ หรืองดเว้นการกระทำใดๆ อันเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนทั้ง 223 รายเดือดร้อน และให้ยกคำร้องที่ขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้ สตช., ผบ.ตร.และ ก.ตร.ออกระเบียบ ก.ตร.กำหนดเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษโดยความเห็นชอบกระทรวงการคลังให้แก่พนักงานสอบสวน เนื่องจากเห็นว่า ก.ตร.ได้ระเบียบ ก.ตร.กำหนดเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษโดยความเห็นชอบกระทรวงการคลังให้แก่พนักงานสอบสวน พ.ศ.2554 บังคับใช้แล้ว

ด้าน พ.ต.ท.มานะ เผาะช่วย ผกก.สน.นางเลิ้ง ฐานะประธานชมรมพนักงานสอบสวน กล่าวหลังทราบคำพิพากษา ว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ศาลปกครองให้ความเป็นธรรม เพราะพนักงานงานสอบสวนต่อสู้เรื่องนี้มานาน เนื่องจากผู้บังคับบัญชาขณะนั้นไม่ยอมปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 จนเป็นเหตุให้ทุกวันนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรายใดอยากมาปฏิบัติหน้าที่ในสายงานสอบสวน เนื่องจากเป็นงานยุ่งยาก ซับซ้อน ขาดความเจริญก้าวหน้า ขวัญกำลังใจ อย่างไรก็ตาม คงต้องรอดูว่า ทางสตช.จะอุทธรณ์คำพิพากษาหรือไม่ เพราะมีเวลาในการยื่นอุทธรณ์อีก 30 วัน
กำลังโหลดความคิดเห็น