“กษิต” อัดเขมรเลิกเล่นสงครามสื่อ คาดหลายฝ่ายเร่งคุยพรุ่งนี้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ซัดกัมพูชาเลิกเล่นสงครามสื่อ โอ้อวดใครแพ้ใครชนะ วิ่งโร่ไปโน่นนี่ ชี้ ถึงที่สุดสองฝ่ายต้องเร่งพูดคุยหาทางออกร่วมกัน คาด พรุ่งนี้หลายหน่วยงานเตรียมหารือพรุ่งนี้

วันนี้ (21 ก.ค.) นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการปฏิบัติตามคำสั่งศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก ว่าด้วยการจัดตั้งเขตปลอดทหาร ว่า เขตปลอดทหารจะต้องไม่มีทหารอยู่ในพื้นที่ทั้งบก น้ำ อากาศ ส่วนจะรวมเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน หรือ ตชด.หรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่จะต้องมาหารือกันระหว่างไทยกับ กัมพูชา เนื่องจากแต่ละประเทศให้นิยามไว้ไม่ตรงกัน รวมไปถึงจำนวนของบุคลากรที่จะดูแลด้านความปลอดภัยในพื้นที่ของทั้งสองฝ่ายจะต้องเท่าเทียมกัน นอกจากนี้ ก็จะมีคณะผู้สังเกตการณ์จากประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจากนัยของศาลโลกนั้น คณะผู้สังเกตการณ์สามารถที่จะเดินทางเข้าไปในเขตปลอดทหารได้ โดยตนหวังว่า รัฐมนตรีกลาโหมของไทยและกัมพูชาจะได้หารือกันในโอกาสแรก ซึ่งคาดว่า ควรจะเป็นการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ จีบีซี ไทย-กัมพูชา โดยกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม มติของศาลโลกนั้นบางข้อเกินขอบเขตอำนาจหน้าที่การเจรจาของจีบีซี จึงจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาในกรอบใหม่ โดยหลักๆน่าจะเป็นกระทรวงการต่างประเทศร่วมกับกระทรวงกลาโหม

นายกษิต กล่าวต่อว่า ในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) จะมีการเตรียมการของหน่วยงานภายในที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของกระทรวงการต่างประเทศ ต่อการวางแผนที่จะปฏิบัติตามมติของศาลโลก และการวางท่าทีในการเจรจากับกัมพูชา รวมไปถึงการประชุมใหญ่ของคณะกรรมการของไทยที่เกี่ยวข้องกับศาลโลกในวันจันทร์ที่ 25 ก.ค.นี้ ซึ่งจะมีตนกับพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ รัฐมนตรีกลาโหมเข้าร่วมประชุมด้วย ส่วนเรื่องเอกสารข้อสังเกตของฝ่ายไทย หรือ “Written Observation” นั้น ไทยจะส่งให้การศาลโลกภายใน 4 เดือน คือ น่าจะเป็นราวๆกลางเดือนพ.ย.นี้

ทั้งนี้ นายกษิต ได้ฝากไปยังฝ่ายกัมพูชา ว่า ขอความกรุณาให้เลิกสงครามสื่อเสียที เนื่องจากมีการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลไทยไปในแง่ ว่า แพ้ชนะ ซึ่งไม่ถูกต้อง ทั้งหมดเป็นสิ่งที่รัฐบาลทั้งสองประเทศต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลโลก มีอะไรต้องทำก็มาทำกัน แทนที่จะมาป่าวประกาศโฆษณาชวนเชื่อ หรือจะมาด่าทอกัน ซึ่งทางเราก็ไม่ได้พูดออกมาสักคำหนึ่ง หวังทางรัฐบาลของท่านฮุนเซนจะยุติสงครามสื่อเสียทีหนึ่ง และกลับมาสู่โต๊ะเจรจา ซึ่งเป็นท่าทีของเรามาตั้งแต่วันแรก ว่าไม่มีอะไรดีไปกว่าการมาสู่โต๊ะเจรจา แต่กัมพูชากลับเวียนไปเวียนมา อ้างโน่นอ้างนี่ไม่มาสักที วิ่งไปยูเนสโก คณะมนตรีความั่นคงฯ ศาลโลก อาเซียน ในที่สุดแล้วถ้อยแถลงที่ออกมาก็คือ ต้องกลับมาคุยกันสองฝ่าย และนี่ก็เป็นท่าทีของรัฐบาลของท่านนายกฯอภิสิทธิ์มาตลอดเวลา และคิดว่า คงจะมีความต่อเนื่องกับรัฐบาลใหม่ที่เข้ามาบริหารประเทศในเดือน ส.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า คณะกรรมการใหม่ที่จะตั้งขึ้นนั้น ต้องรอรัฐบาลใหม่เป็นผู้รับรองหรือไม่ นายกษิต กล่าวว่า ควรจะเป็นเช่นนั้น โดยตนจะทำบันทึกผ่านทางนายธีรกุล นิยม ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อมอบให้กับรัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ และจะมีข้าราชการประจำกระทรวงต่างประเทศเป็นสะพาน ซึ่งทั้งหมดถือเป็นหลักปฏิบัติตามปกติ