“สดศรี” ไม่รับรอง “เจ๊ปู” หลุดบ่วงหรือไม่ ต้องดูความชัดเจนของสำนวนก่อน พ้อ กกต.ตกเป็นจำเลย ทำเร็วก็ว่าทำช้าก็บ่น ยันที่ผ่านมาทำตามกรอบเวลาที่กำหนด ด้าน “ยิ่งลักษณ์” อ้างไม่ได้ทำอะไรผิด เชื่อ กกต.ให้ความเป็นธรรม พร้อมรับลูกปรองดอง จาก “นช.แม้ว” ส่วนคำตัดสินของศาลโลกต้องขอศึกษารายละเอียดก่อน
นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงความคืบหน้าในการพิจารณารับรอง ส.ส.ในวันนี้ (19 ก.ค.) ว่าการทำงานของ กกต.พิจารณาตามกรอบเวลาที่กำหนด และทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายไม่ใช่กฎหมู่ ส่วนจะมีการแจกใบเหลืองในวันนี้หรือไม่นั้น ยังไม่ทราบรายละเอียด
ต่อกรณีที่ กกต.รับรองจำนวน ส.ส.ไม่ถึงร้อย 95 ซึ่งทำให้ไม่สามารถเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ กกต.ต้องรับผิดชอบทางกฎหมายหรือไม่นั้น นางสดศรีกล่าวว่า หากทาง กกต. รับรองไม่ครบก็จะถูกมองว่าทำงานช้า แต่หากรับรองไปก่อนก็จะถูกมองว่าทำงานไม่ละเอียดอีกเช่นกัน เหมือนว่าตอนนี้ กกต.ตกเป็นจำเลยสังคม
อย่างไรก็ตาม กกต.ทำงานตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้แล้ว คือ การประกาศรับรอง ส.ส.ภายใน 7 วันนับตั้งแต่วันเลือกตั้ง และเมื่อมีกรณีร้องเรียนก็ต้องดำเนินการสอบสวนให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน ส่วนกรณีจะรับรอง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ไปก่อนหรือไม่นั้น นางสดศรีกล่าวว่า ต้องรอดูความชัดเจนของสำนวนอีกครั้งก่อน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ได้ประกาศรับรองการเป็น ส.ส.นั้น ที่ผ่านมา กกต.ยังไม่ได้เรียกตนไปให้ข้อมูลเพิ่มเติม หรือเรียกไปสอบสวน แต่ทราบมาว่าทาง กกต.มีข้อมูลครบถ้วนแล้ว ส่วนจะรับรองวันนี้ (19 ก.ค.) หรือไม่นั้น ตนไม่อยากกดดัน รอฟังผลจาก กกต.ดีกว่า แต่เชื่อว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิด เชื่อว่า กกต.จะให้ความยุติธรรม
น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังกล่าวถึงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ให้สัมภาษณ์ว่าไม่คิดแก้แค้นและให้อภัยคู่ขัดแย้งทางการเมืองทุกคน พร้อมทั้งยินดีเชิญทั้ง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. และนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มาร่วมดื่มกาแฟที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่หากทั้งสองไม่สามารถเดินทางไปได้จะเป็นเจ้าภาพดำเนินการเรื่องนี้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับการรับรองการเป็น ส.ส.จึงยังไม่มีหน้าที่และยังไม่สามารถพูดได้ แต่หากการดำเนินการดังกล่าวนำไปสู่ความปรองดองได้ตนก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังกล่าวว่า การที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา ให้ไทย-กัมพูชาถอนทหารออกนอกพื้นที่นั้น คงต้องขอศึกษาในรายละเอียดของคำพิพากษาก่อน ส่วนประเด็นเกี่ยวกับการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะประเทศกัมพูชา น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้เป็นรัฐบาล ซึ่งหากเข้ามาเป็นรัฐบาลแล้วก็จะต้องมาศึกษาในรายละเอียดของคำพิพากษาโลก โดยตนในฐานะคนไทยก็มีหน้าที่ปกป้องอธิปไตย อย่างไรก็ตาม บุคคลที่จะเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะต้องเป็นบุคคลที่มีความสามารถในการเจรจาพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้านได้เป็นอย่างดีด้วย ส่วนจะเป็นคนนอกหรือไม่นั้นขณะนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณา เพราะต้องรอผลการรับรองจาก กกต.อย่างเป็นทางการก่อนถึงจะมีความชัดเจนในเรื่องทั้งหมด
