ผ่าประเด็นร้อน
ถ้าพิจารณาจากความรู้สึกของชาวบ้านผ่านทางการเลือกตั้งที่เทเสียงให้พรรคเพื่อไทยเข้ามาถล่มทลาย รวมถึงเทเสียงให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชนะการเลือกตั้งด้วยความหวังที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทยเริ่มจะเป็นจริงเข้าไปทุกที
สิ่งที่ชาวบ้านต้องการเห็นก็คือ นอกจากเสียงสนับสนุนให้เธอเป็นผู้นำหญิงคนแรกแล้ว สิ่งที่ชาวบ้านอยากเห็นก็คืออยากได้สารพัดนโยบายประชานิยมที่พรรคเพื่อไทยนำมาเสนอ “ว่าจะให้” ในตอนหาเสียงเลือกตั้ง ทั้งเรื่องค่าแรงวันละ 300 บาท จบปริญญาตรีได้เงินเดือน 15,000 บาท เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 1,000 บาท ราคาข้าวต้องไม่ต่ำกว่าเกวียนละ 15,000 บาท รวมถึงราคาสินค้าต้องถูกลง
นโยบายเหล่านี้ถูกนำมาเสนอให้สัญญาคนจนส่วนใหญ่เคลิบเคลิ้มจนเทคะแนนเสียงให้อย่างเต็มที่จนชนะอย่างถล่มทลายดังกล่าว
อย่างไรก็ดี มาล่าสุด ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แขวนรายชื่อเอาไว้ชั่วคราว โดยอ้างว่าได้รับการร้องเรียนในเรื่องการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เช่นมีการนำบุคคลที่ถูกสั่งห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมือง อย่างเช่น สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ช่วยหาเสียงโดยขึ้นรถขบวนแห่ และแจกใบปลิวหาเสียง เป็นต้น
แม้ว่ากรณีที่เกิดขึ้นจะคาบเกี่ยวกับการทำผิดกฎหมาย แต่แทนที่คณะกรรมการการเลือกตั้งจะรีบชี้ขาดเสียก่อนว่าถูกผิดอย่างไรก่อนที่จะเกิดอารมณ์ความรู้สึกดังกล่าวเข้ามา รวมไปถึงกรณีการแขวนคนอื่นๆ อีกกว่าร้อยคนก็มีความคิดขึ้นมาหลังการเลือกตั้งเกิดความรู้สึกไปอีกแบบนั่นคือเหมือนกับการ “ถูกยื้อ” กลายเป็นเรื่องบิดเบือนความรู้สึกในเรื่องความถูกต้องไปอย่างหน้าตาเฉย แต่ความรู้สึกดังกล่าวก็ต้องบอกว่านี่คือความไม่มีมาตรฐานการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ทำให้เกิดอารมณ์ที่ผิดเพี้ยนดังกล่าวออกมา
ทั้งที่สาเหตุที่เกิดรายการแขวนว่าที่ ส.ส.กันนับร้อยล้วนเป็นเรื่องของการกระทำผิดกฎหมายล้วนๆ แต่มันก็ช่วยไม่ได้ที่ทำให้สังคมเกิดการเข้าใจผิดว่าคนพวกนั้นถูกกลั่นแกล้ง เฉพาะการขัดขวางไม่ให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งหลังจากถูกแขวน มันก็มีบางกลุ่มที่เริ่มเคลื่อนไหวสร้างกระแสสร้างกระแสได้ว่าทำไมต้องไปขัดขวางความต้องการของชาวบ้านที่มีจำนวนกว่าสิบล้านเสียง ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้งมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ซึ่งเป็นอารมณ์ความรู้สึกที่กลายเป็นอารมณ์ร่วม ใช้เสียงส่วนใหญ่ที่ลากไปอยู่เหนือความถูกผิดและเหตุผล
อย่างไรก็ดี ความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้นได้ผ่านการตอกย้ำให้เห็นอีกครั้งผ่านทางผลสำรวจล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาระบุออกมาตรงกันซ้ำเข้ามาอีก โดยไม่เห็นด้วยกับการที่ คณะกรรมการเลือกตั้งแขวน ยิ่งลักษณ์ โดยพวกเขาเห็นว่าควรที่จะปล่อยเธอ เพื่อเข้ามาบริหารประเทศ เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงตามเจตนารมณ์ที่ได้รับเลือกเข้ามา
นอกจากนี้ ในผลสำรวจดังกล่าวยังมีการแสดงความรู้สึกเพิ่มเติมเข้ามาอีกว่าชาวบ้านถึงกว่าร้อยละ 63 เปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องการให้ ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นพี่ชายของ ยิ่งลักษณ์ เข้ามาจุ้นจ้านในการฟอร์มคณะรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เนื่องจากพวกเขาเห็นว่าทำให้เกิดเงื่อนไขความขัดแย้งขึ้นมาในบ้านเมืองอีกครั้ง
ถ้าพิจารณาตามความรู้สึกดังกล่าวของชาวบ้าน พวกเขาต้องการให้รัฐบาลใหม่รีบแสดงฝีมือให้ได้เห็นว่าหลายนโยบายที่ได้หาเสียงดังกล่าวจะต้องทำให้ได้ตามสัญญา จะมาตุกติกเล่นลิ้นเพื่อขอไปทีเท่านั้นไม่ได้ ขณะเดียวกัน คนพวกนี้ก็มีความเข้าใจดีว่าสิ่งไหนที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อป้องกันปัญหา โดยเฉพาะห้ามนำทักษิณเข้ามายุ่งเกี่ยว ดังนั้นสิ่งที่ชาวบ้านต้องการก็คืออยากให้รัฐบาลใหม่ภายใต้การบริหารของยิ่งลักษณ์ได้แสดงฝีมือให้เต็มที่ ไม่อาจนำปัจจัยอื่นๆ มาเป็นข้ออ้างเพื่อบิดพลิ้ว หรือปิดบังความล้มเหลวเป็นอันขาด
ที่สำคัญเมื่อสัญญาแล้วก็ต้องทำให้ได้ ขณะเดียวกันไม่ว่าใครก็ตามไม่สมควรขัดขวางมติมหาชน ที่ได้ตัดสินใจเลือกกันมาแล้ว!!
