“มาร์ค” หารือ “เทพเทือก” กว่าชั่วโมง ฝากดูแลการประชุม กก.บห.ปชป. พร้อมวิเคราะห์สถานการณ์ และวาาแผนการทำงานของพรรค รับห่วงไม่อยากให้ขยายผลในลักษณะสร้างความแตกแยก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (6 ก.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อมาหารือกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่ห้องทำงานบนตึกบัญชาการ 1 โดยใช้เวลาในการพบกันประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที จากนั้นเวลา 12.15 นายอภิสิทธิ์ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตนกับนายสุเทพยังไม่ได้พูดคุยกันเลยตั้งแต่หลังการเลือกตั้ง จึงได้มาพบปะพูดคุยกันเฉยๆ และขอให้ท่านเป็นธุระช่วยดูแลการประชุมกรรมการบริหารพรรคที่รักษาการ ซึ่งตนได้ให้นายสุเทพในฐานะที่เป็นผู้รักษาการเป็นคนดำเนินการกำหนดวันประชุมใหญ่ ซึ่งตนคงไม่เข้าประชุม
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการฝากงานในเรื่องอื่นๆ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่มี ตอนนี้งานอื่นๆ ก็เป็นเอกสารที่ทำตามปกติ เมื่อถามว่าได้ทาบทามให้ใครมาเป็นเลขาธิการพรรคหรือไม่ นายอภิสิทธิ์หัวเราะพร้อมกล่าวว่า ท่านพูดไปแล้ว เมื่อถามต่อว่า แต่นายสุเทพระบุว่าจะไม่ขอกลับมารับตำแหน่งอีก นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องถามท่าน ให้ท่านเป็นคนพูดดีกว่า
นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า ได้คุยกับนายสุเทพในเรื่องของทิศทางของบ้านเมือง โดยวิเคราะห์สถานการณ์โดยรวมและคิดถึงการวางแนวทางของการทำงานของพรรคว่าควรจะเป็นอย่างไร แต่ขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ที่จะเข้ามา แต่ก็วิเคราะห์กันไว้และคงจะเป็นเรื่องของทางพรรคที่จะพูดคุยกันในหมู่ของ ส.ส.และกรรมการบริหารชุดใหม่ ส่วนทิศทางของบ้านเมืองตนก็เป็นห่วง ไม่อยากให้ขยายผลในลักษณะของการแตกแยก เป็นเรื่องของมวลชนหรือเรื่องของอะไร เพราะฉะนั้น อยากให้ทุกอย่างกลับเข้ามาอยู่ในระบบของสภา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้พูดคุยถึงทิศทางของพรรคในการที่จะปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนคุยกับท่านเลขาฯ เป็นเรื่องส่วนตัว เพราะเราได้บอกแล้วว่าขณะนี้เราเปิดทางให้สมาชิกพรรคได้ระดมความคิดเห็นกันอย่างเต็มที่ ก็เห็นเขามีการพูดคุยกันไปเรื่อย เมื่อถามว่า ในใจนายกรัฐมนตรีมีเลขาธิการพรรคคนใหม่ หรือยัง นายอภิสิทธิ์ หัวเราะ และเดินขึ้นรถไปโดยไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายอภิสิทธิ์ได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลไปพร้อมกับนายสุเทพ โดยต่างแยกย้ายกันไปปฏิบัติภารกิจส่วนตัว