xs
xsm
sm
md
lg

“แม้ว” ยัน “ปู” นายกฯ แนะแก้ปรองดอง ความเป็นธรรม ศก.ขู่ไม่เคารพ ปชช.ชาติไม่สงบแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาก่อการร้าย (แฟ้มภาพ)
“ทักษิณ” ยังไม่เชื่อเอ็กซิตโพล อ้างคนใช้สิทธิ์เยอะชูประชาธิปไตยเบ่งบาน อ้างคนเลือกเพื่อไทยอยากเห็นปรองดอง นโยบายที่ไปข้างหน้า รอดูตัวเลขพรรคเล็กก่อนเรียกร่วมแจมรัฐ คาดแกนนำคงคุยแล้ว ยันไม่อาฆาตแค้นใคร แนะ “ปู” แก้ปรองดอง สร้างความเป็นธรรม แก้เศรษฐกิจ ยันถ้ากลับไทยต้องเป็นส่วนหนึ่งของคำตอบ ชี้ลูกเข้าใจไม่ได้กลับไปร่วมงานแต่ง อ้างอยากเห็นชาติสงบ ใช้กฏหมายตามนิติธรรมสากล ไม่เลือกปฏิบัติ หนุน คอป.สานต่อนิรโทษ ขู่ไม่เคารพการตัดสินใจประชาชนชาติไม่เป็นสุข

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์  

วันนี้ (3 ก.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาก่อการร้าย และพี่ชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส กล่าวหลังผลเอ็กซิตโพลล์จากหลายสถาบันชี้ว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้ง ว่า มันยังไม่เป็นคะแนนจริง มันเป็นโพล ตนก็ยังไม่อยากจะสรุปอะไรจากโพลโดยตรง แต่โพลมีหลายสำนักก็ใกล้เคียงกัน สิ่งที่ตนตื่นเต้นและดีใจ ก็คือ ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เยอะมาก และความพยายามของประชาชนที่จะไปใช้สิทธิ์ มันแสดงให้เห็นถึงว่าคนไทยส่วนใหญ่สนับสนุนประชาธิปไตย อยากเห็นประชาธิปไตยเบ่งบานในประเทศไทย เพราะฉะนั้นเขาจึงได้ยอมเสียสละไปใช้สิทธิ์กันขนาดนี้

ส่วนที่ผลเอ็กซิตโพลออกมาเป็นคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยมากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตนมองว่าประชาชนอยากเห็นความปรองดองในชาติ คือ เขาโหวตเพื่ออยากเห็นบ้านเมืองอยู่ในความปกติ และก็คือ เพราะว่าพรรคเพื่อไทยเขาเสนอนโยบายชัดเจนว่าจะปรองดอง ไม่แก้แค้น จะแก้ไข อันนี้เป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งที่คนไทยห่วงมานานแล้ว อยากเห็นความยุติความขัดแย้งทั้งหลาย เรื่องที่ 2 ก็แสดงให้เห็นถึงว่านโยบายที่พรรคเพื่อไทยเสนอไปนั้น มันเป็นนโยบายที่เดินไปข้างหน้า คือ ประชาชนคงเบื่อการย่ำอยู่กับที่มานาน ก็อยากเห็นการก้าวหน้าของประเทศต่อไป ซึ่งเป็นหลัก 2 ข้อที่ตนคิดว่าประชาชนได้ออกมาทุ่มเท แต่ที่สำคัญที่สุด ก็คือ ประชาชนรักประชาธิปไตย และอยากเห็นบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงในทางที่สันติ ซึ่งนโยบายที่ผ่านมาตนก็ช่วยคิดร่วมกับนักวิชาการของพรรค

เมื่อถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลยังเป็นสิ่งที่จำเป็นของพรรคหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า จำเป็น ซึ่งตอนนี้ก็ต้องดูผลเลือกตั้งก่อน เพราะว่าพรรคเล็กบางเอ็กซิทโพลโชว์ว่าเหลือนิดเดียว เราก็จะดูว่าเขาจะมีคะแนนเหลือยังไงบ้าง แล้วก็จะมารวมกันอย่างไร ก็คิดว่าคงเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย กับคุณยิ่งลักษณ์ จะต้องคิดกัน เขาก็คงต้องรอดูตัวเลขก่อนมั้งครับ แต่วันนี้เข้าใจว่าป่านนี้คงมีการโทรคุยกันบ้างแล้วมั้งครับ ผมไม่ทราบเหมือนกัน เพราะว่าผมอยู่ไกล ค่าโทรศัพท์ทางไกลมันแพง เขาเลยไม่โทรหาผม อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่า ไม่อาฆาตแค้นใคร

“ผมไม่อาฆาตแค้นใครแล้วนะ มันจบไปแล้ว เพียงแต่ว่าการทำงานร่วมกันนั้นก็เป็นเรื่องที่คณะกรรมการบริหารพรรคเขาต้องตัดสินใจเอาเอง แต่ผมถือว่าผมให้อภัยทุกคน และก็หวังว่าหลายๆ คนที่เคียดแค้นผมอยู่ก็คงจะให้อภัยผมบ้าง เท่านั้นเองครับ” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า ตนยืนยันว่าพรรคจะเสนอ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องบอกว่างานข้างหน้าหนักมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานเบื้องต้นก็คือ เป็นเงื่อนไขสำคัญของการพัฒนาประเทศ ก็คือ ต้องสร้างความปรองดองก่อน ถ้าความปรองดองสำเร็จ การแก้ไขปัญหาประเทศก็จะง่ายขึ้นเยอะ แต่ถ้าปรองดองไม่สำเร็จ การแก้ปัญหาจะติดโน่นติดนี่ง่ายมาก ต้องเน้นเรื่อง ต้องสนับสนุนคณะกรรมการที่จะมาทำเรื่องปรองดองให้เขาทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่และรวดเร็ว อันที่ 2 ปัญหาหนัก ก็คือ ปัญหาการที่ในระบบเศรษฐกิจในประเทศจะต้องพลิกฟื้นกันอย่างมาก เพราะว่าประชาชนเดือดร้อนมาหลายปี และอันที่ 3 ก็คือ เรื่องของส่วนราชการ ระบบราชการที่หายไปเยอะ เพราะเนื่องจากว่าการบริหารงานที่ผ่านมาระบบคุณธรรมมันหมดไป เพราะมีการซื้อขายตำแหน่ง มีการอะไรวุ่นวายไปหมด นี่ก็คือ สิ่งที่จะต้องเป็นงานหนักที่จะต้องไปแก้ไข

เมื่อถามถึงการกลับมาร่วมงานแต่งของ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตรสาว พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ความจริงตนอยากกลับบ้านตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่เผอิญว่าทุกอย่างมันต้องเป็นไปตามเงื่อนไขโดยความเหมาะสม ตนไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา แต่ถ้าตนกลับไปต้องเป็นส่วนหนึ่งของคำตอบ ถ้ากลับไปเป็นแล้วเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ตนยังไม่ต้องรีบกลับหรอก ตนอยู่ได้ ส่วนที่น.ส.พิณทองทา จะแต่งงาน ก็เป็นไปตามที่วางแผนไว้ ก็ไม่จำเป็น แต่ว่ามันเป็นความปรารถนาของพ่อที่อยากจะไปร่วมงานแต่งงานลูก แต่ถ้ายังไม่ได้กลับก็คงไม่เป็นไรครับ ลูกก็เข้าใจ

“ผมไม่ต้องการกลับไปแล้วมีปัญหาแน่นอนครับ ถ้ากลับไปแล้วมีปัญหาผมยังไม่จำเป็นต้องกลับ ผมก็ยังมีงานที่ต้องทำอีกเยอะครับ” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวยืนยันว่า ตนไม่ได้เอาเรื่องส่วนตัวมาเป็นเรื่องหลัก แต่ว่าตนเอาเรื่องของบ้านเมือง บ้านเมืองต้องมีความสงบ มีความสันติสุข บ้านเมืองต้องมีความเป็นธรรม บ้านเมืองต้องมีกระบวนการใช้กฎหมายที่ถูกต้องตามหลักนิติธรรมสากล นั่นคือสิ่งที่เราอยากเห็น เราไม่อยากเห็นการเมืองมาทำโน่นทำนี่ให้เสียหาย เรื่องเอากฎหมายมาเลือกปฏิบัติ อะไรต่ออะไรพวกนี้ การเมืองที่เห็นแก่การเมือง ไม่เห็นแก่บ้านเมืองต้องเลิกครับ ทั้งนี้ หัวใจของรัฐบาลใหม่จะต้อง 1. สร้างความปรองดอง และ 2. สร้างความเป็นธรรมในสังคม แล้วก็อันที่ 3 ก็คือ ต้องคืนความสุขให้ประชาชนด้วยการแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ได้

ส่วนการนิรโทษกรรมนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตนคิดว่าต้องไปถามคณะนายคณิต ณ นคร ว่า คณะชุดนี้เขานอกจากการทำเรื่องของความปรองดองแล้ว เขาจะทำเรื่องการค้นหาความจริงด้วย ถ้าไม่รู้ความจริงมันก็แก้ปัญหาไม่ถูกจุด เขาจะค้นหาความจริงเพื่อให้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมมันถึงได้เละเทะ เลอะเทอะกันขนาดนี้ แล้วก็จะแก้กันยังไง เพื่อให้ความเละเทะเลอะเทอะมันเลิกกันให้ได้ ถ้ากฎหมายนิรโทษกรรมเป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องทำ ก็เป็นเรื่องของกรรมการเขา คงไม่ใช่เรื่องของเรา ขณะที่การสานต่อคณะกรรมการปฏิรูปชุดที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธาน ตนไม่ทราบ และเป็นเรื่องของรัฐบาลใหม่ ซึ่งตนเห็นว่า ใครมีความคิดดีๆ เพื่อบ้านเมือง ที่เป็นธรรมกับบ้านเมือง เป็นธรรมกับสังคม มันเป็นสิ่งที่ทุกรัฐบาลต้องยอมรับ ถ้าหากว่าใครที่มีใจเป็นธรรม เป็นกลางกับทุกฝ่าย ไม่เอาการเมืองมาเป็นตัวตั้ง เอาเรื่องของบ้านเมืองมา มันเป็นประโยชน์ทั้งนั้น

“ผมเชื่อว่า ทุกฝ่ายต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน เพราะว่าประเทศไหนที่ไม่เคารพการตัดสินใจของประชาชน ไม่มีทางที่ประเทศนั้น จะมีสันติสุขได้” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

เมื่อถามว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะนำบทเรียนสมัยพรรคไทยรักไทยจากกรณี 3 จังหวัดชายแดนใต้มีสรุปคือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า แน่นอนครับ มันไม่มีใครทำอะไรถูก 100% และผิด 100% ต้องเรียนรู้จากอดีต เพื่อแก้ไขในสิ่งที่ ให้มันดีขึ้นแน่นอน สิ่งที่ทำอะไร ที่ตนคิดว่ามันเป็นเรื่องข้อผิดพลาดตนจะบอกให้รัฐบาลเขาจะได้เอาไปพิจารณาประกอบ เพราะเหตุการณ์สิ่งแวดล้อมมันคงเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น เราจะไปยึดติดกับสิ่งแวดล้อมเดิมๆ ที่เราเคยมีไม่ได้หรอก เราอาจจะให้ข้อมูลไป เขาก็ต้องใช้สิ่งแวดล้อมใหม่ประกอบการพิจารณา เขาคงไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน

คำต่อคำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส

ทักษิณ - สวัสดีครับคุณภิญโญ

ภิญโญ - สวัสดีครับคุณทักษิณ คุณทักษิณเห็นเอ็กซิทโพลที่ออกมาแล้ว คะแนนของพรรคเพื่อไทยค่อนข้างที่จะทิ้งขาด คุณทักษิณมองผลตอบรับของประชาชนในการที่โหวตพรรคเพื่อไทยมากขนาดนี้อย่างไรครับ

ทักษิณ - มันยังไม่เป็นคะแนนจริง มันเป็นโพล ผมก็ยังไม่อยากจะสรุปอะไรจากโพลโดยตรง แต่โพลมีหลายสำนักก็ใกล้เคียงกัน ก็อยากจะบอกว่าสิ่งที่ผมตื่นเต้นและดีใจก็คือ ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เยอะมาก และความพยายามของประชาชนที่จะไปใช้สิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นรถขึ้นรา รอรถไฟ เข้าคิวกัน ออกสตางค์กันเอง ไปกัน เดินทางไกลๆ ขนาดนี้ มันแสดงให้เห็นถึงว่าคนไทยส่วนใหญ่สนับสนุนประชาธิปไตย อยากเห็นประชาธิปไตยเบ่งบานในประเทศไทย เพราะฉะนั้นเขาจึงได้ยอมเสียสละไปใช้สิทธิ์กันขนาดนี้ นี่อันที่ 1

ภิญโญ - พี่น้องประชาชนไทยออกไปใช้สิทธิ์ค่อนข้างมากแบบที่คุณทักษิณได้เอ่ยออกมา แล้วการสะท้อนออกมาเป็นคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทย แม้ว่าจะยังเป็นแค่เอ็กซิทโพลอยู่ คุณทักษิณวิเคราะห์จุดนี้ยังไง

ทักษิณ - ผมมองว่าประชาชนอยากเห็นความปรองดองในชาติ คือเขาโหวตเพื่ออยากเห็นบ้านเมืองอยู่ในความปกติ และก็คือเพราะว่าพรรคเพื่อไทยเขาเสนอนโยบายชัดเจนว่าจะปรองดอง ไม่แก้แค้น จะแก้ไข อันนี้เป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งที่คนไทยห่วงมานานแล้ว อยากเห็นความยุติความขัดแย้งทั้งหลาย เรื่องที่ 2 ก็แสดงให้เห็นถึงว่านโยบายที่พรรคเพื่อไทยเสนอไปนั้น มันเป็นนโยบายที่เดินไปข้างหน้า คือประชาชนคงเบื่อการย่ำอยู่กับที่มานาน ก็อยากเห็นการก้าวหน้าของประเทศต่อไป อันนี้ก็เป็นหลัก 2 ข้อที่ผมคิดว่าประชาชนได้ออกมาทุ่มเท แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือประชาชนรักประชาธิปไตย และอยากเห็นบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงในทางที่สันติ

ภิญโญ - ก่อนหน้านี้คุณทักษิณให้สัมภาษณ์ว่า "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ" ทีนี้คะแนนของพรรคเพื่อไทยมามากขนาดนี้ ตอนนี้ประชาชนคงถามกลับว่า คุณทักษิณคิดอะไรอยู่ครับ

ทักษิณ - ก็คิดนโยบายที่ผ่านมาก็คงชัดเจนครับว่าช่วยกันคิดกับทางนักวิชาการของพรรค

ภิญโญ - คุณทักษิณครับ ถ้าคะแนนมาขนาดนี้ ครั้งหนึ่งคุณทักษิณเคยให้สัมภาษณ์ว่า พรรคเพื่อไทยไม่ควรจะตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ควรจะมีใบเฟิร์นมาประดับแจกันดอกไม้ด้วย ถึงวันนี้ใบเฟิร์นยังจำเป็นอยู่ไหมครับ หรือว่าดอกไม้สวยของเพื่อไทย

ทักษิณ - จำเป็นครับ อยู่คนเดียวไม่ดีครับ อยู่คนเดียวแล้วเหงาครับ เหมือนผมอยู่คนเดียวตอนนี้เหงาครับ

ภิญโญ - ทีนี้เหงาแล้วคุณทักษิณเล็งไปที่ไหนครับ เห็นใบเฟิร์นพรรคไหนสวยงามบ้างครับในทางการเมืองไทยตอนนี้

ทักษิณ - ส่วนใหญ่ก็รู้จักกันทั้งนั้นล่ะครับ ตอนนี้ต้องดูผลนิดหนึ่ง เพราะว่าพรรคเล็กบางเอ็กซิทโพลโชว์ว่าเหลือนิดเดียว เราก็จะดูว่าเขาจะมีคะแนนเหลือยังไงบ้าง แล้วก็จะมารวมกันอย่างไร ก็คิดว่าคงเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย กับคุณยิ่งลักษณ์ จะต้องคิดกัน เขาก็คงต้องรอดูตัวเลขก่อนมั้งครับ แต่วันนี้เข้าใจว่าป่านนี้คงมีการโทรคุยกันบ้างแล้วมั้งครับ ผมไม่ทราบเหมือนกัน เพราะว่าผมอยู่ไกล ค่าโทรศัพท์ทางไกลมันแพง เขาเลยไม่โทรหาผม

ภิญโญ - คุณทักษิณ ตอนนี้มีหลายพรรคซึ่งมีทั้งความรักความแค้นมากับพรรคเพื่อไทย หรือว่ากันยาวๆ คือสมัยพรรคไทยรักไทย พรรคเหล่านี้จะกลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยในปัจจุบันได้ไหม คุณทักษิณมีความติดค้างคาใจอะไรกับพรรคเล็กๆ เหล่านี้ ที่เคยแข่งขันกันในสนามการเมืองมาไหมครับ

ทักษิณ - ผมไม่อาฆาตแค้นใครแล้วนะ มันจบไปแล้ว เพียงแต่ว่าการทำงานร่วมกันนั้นก็เป็นเรื่องที่คณะกรรมการบริหารพรรคเขาต้องตัดสินใจเอาเอง แต่ผมถือว่าผมให้อภัยทุกคน และก็หวังว่าหลายๆ คนที่เคียดแค้นผมอยู่ก็คงจะให้อภัยผมบ้าง เท่านั้นเองครับ

ภิญโญ - ทีนี้ถ้าเกิดเพื่อไทยตั้งรัฐบาลไทย คุณทักษิณยืนยันว่า คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของประเทศไทย ใช่ไหมครับ

ทักษิณ - แน่นอนครับ เราก็ประกาศตัว เพื่อไทยก็ประกาศตัวชัดเจนมาแล้วนี่ครับว่าคุณยิ่งลักษณ์ จะเป็นนายกฯ

ภิญโญ - ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ คุณทักษิณ อยากจะพูดอะไรกับน้องสาวคนเล็กของครอบครัวตัวเองครับ

ทักษิณ - ครับ ก็ต้องบอกว่างานข้างหน้าหนักมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานเบื้องต้นก็คือ เป็นเงื่อนไขสำคัญของการพัฒนาประเทศ ก็คือต้องสร้างความปรองดองก่อน ถ้าความปรองดองสำเร็จ การแก้ไขปัญหาประเทศก็จะง่ายขึ้นเยอะ แต่ถ้าปรองดองไม่สำเร็จ การแก้ปัญหาจะติดโน่นติดนี่ง่ายมาก ต้องเน้นเรื่อง ต้องสนับสนุนคณะกรรมการที่จะมาทำเรื่องปรองดองให้เขาทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่และรวดเร็ว อันที่ 2 ปัญหาหนักก็คือปัญหาการที่ในระบบเศรษฐกิจในประเทศจะต้องพลิกฟื้นกันอย่างมาก เพราะว่าประชาชนเดือดร้อนมาหลายปี และอันที่ 3 ก็คือเรื่องของส่วนราชการ ระบบราชการที่หายไปเยอะ เพราะเนื่องจากว่าการบริหารงานที่ผ่านมาระบบที่ merit หรือคุณธรรมมันหมดไป เพราะมีการซื้อขายตำแหน่ง มีการอะไรวุ่นวายไปหมด นี่ก็คือสิ่งที่จะต้องเป็นงานหนักที่จะต้องไปแก้ไข

ภิญโญ - คุณทักษิณครับ ปลายปีนี้ลูกสาวจะแต่งงาน แล้วคุณทักษิณก็เคยบอกไว้ว่าอยากจะกลับประเทศไทย ถึงตอนนี้ความหวังและความตั้งใจที่จะกลับประเทศไทยมีมาก/น้อยแค่ไหนครับ

ทักษิณ - คือความจริงผมอยากกลับบ้านตั้งแต่เมื่อวานนี้นะครับ แต่เผอิญว่าทุกอย่างมันต้องเป็นไปตามเงื่อนไขโดยความเหมาะสม ผมไม่อยากให้ตัวผมเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา แต่ถ้าผมกลับไปผมต้องเป็นส่วนหนึ่งของ solution หรือเป็นส่วนหนึ่งของคำตอบ ไม่ใช่เป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ถ้าผมกลับไปเป็นแล้วเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ผมยังไม่ต้องรีบกลับหรอกครับ ผมอยู่ได้ แล้วลูกผมเขาจะแต่งงาน เขาก็แต่งงานไปตามที่วางแผนไว้ ก็ไม่จำเป็น แต่ว่ามันเป็นความปรารถนาของพ่อที่อยากจะไปร่วมงานแต่งงานลูก แต่ถ้ายังไม่ได้กลับก็คงไม่เป็นไรครับ ลูกก็เข้าใจ

ภิญโญ - วันนี้ถ้าคุณทักษิณพูดกับลูกสาวตัวเองได้ วันนี้อยากพูดอะไรครับ

ทักษิณ - ก็บอกว่า เราก็ต้องอดทน แล้วก็ต้องยอมรับสถานการณ์ ถ้าหากว่าเมื่อกลับได้ก็แน่นอน เป็นสิ่งที่อยากจะกลับไป ถ้ายังกลับไม่ได้ลูกก็มาหาพ่อได้

ภิญโญ - ทีนี้คุณทักษิณสามารถให้คำมั่นได้ไหมว่าถ้ากลับมาแล้วอาจจะมีการต่อต้าน อาจจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้นในประเทศ คุณทักษิณอาจจะยังเลื่อนกำหนดการกลับประเทศออกไปสักระยะหนึ่ง หรืออาจจะยังไม่กลับมา เป็นไปได้มั้ยครับ

ทักษิณ - แน่นอนครับ ผมไม่ต้องการกลับไปแล้วมีปัญหาแน่นอนครับ ถ้ากลับไปแล้วมีปัญหาผมยังไม่จำเป็นต้องกลับ ผมก็ยังมีงานที่ต้องทำอีกเยอะครับ

ภิญโญ - คุณทักษิณพูดแบบนี้ คุณทักษิณพูดกับกลุ่มพี่น้องประชาชนที่สนับสนุนตัวคุณทักษิณเองได้ไหมครับว่า คุณทักษิณเป็นความตั้งใจเองที่จะให้ประเทศชาติเดินไปสู่ความสงบ เดินไปสู่การปรองดอง ดังนั้นคุณทักษิณจึงคิดจะเสียสละในจุดนี้

ทักษิณ - แน่นอนครับ แน่นอนครับ ผมไม่ได้เอาเรื่องส่วนตัวมาเป็นเรื่องหลักหรอกครับ แต่ว่าผมเอาเรื่องของบ้านเมือง บ้านเมืองต้องมีความสงบ มีความสันติสุข บ้านเมืองต้องมีความเป็นธรรม บ้านเมืองต้องมีกระบวนการใช้กฎหมายที่ถูกต้องตามหลักนิติธรรมสากล นั่นคือสิ่งที่เราอยากเห็น เราไม่อยากเห็นการเมืองมาทำโน่นทำนี่ให้เสียหาย เรื่องเอากฎหมายมาเลือกปฏิบัติ อะไรต่ออะไรพวกนี้ การเมืองที่เห็นแก่การเมือง ไม่เห็นแก่บ้านเมืองต้องเลิกครับ

ภิญโญ - ถ้าอย่างนั้นหัวใจของรัฐบาลใหม่ ถ้าสมมุติว่าเพื่อไทยสามารถตั้งรัฐบาลขึ้นมาได้จริงๆ หัวใจสำคัญของรัฐบาลใหม่คืออะไรครับ

ทักษิณ - 1. สร้างความปรองดอง และ 2. สร้างความเป็นธรรมในสังคม แล้วก็อันที่ 3 ก็คือต้องคืนความสุขให้ประชาชนด้วยการแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ได้

ภิญโญ - ก่อนหน้านี้มีการพูดกันเรื่องการนิรโทษกรรมหลายต่อหลายส่วน คุณทักษิณ มองเรื่องการนิรโทษกรรมความผิดต่างๆ ตั้งแต่การรัฐประหารเป็นต้นมา จนกระทั่งครอบคลุมมาถึงปัจจุบัน คุณทักษิณมองเรื่องการนิรโทษกรรมเหตุการณ์ทั้งหลายทางการเมืองไทยอย่างไรครับ

ทักษิณ - คือผมคิดว่าต้องไปถามคณะของท่าน ดร.คณิต ว่า คณะชุดนี้เขานอกจากการทำเรื่องของความปรองดองแล้ว เขาจะทำเรื่องการค้นหาความจริงด้วย ถ้าไม่รู้ความจริงมันก็แก้ปัญหาไม่ถูกจุด เขาจะค้นหาความจริงเพื่อให้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมมันถึงได้เละเทะ เลอะเทอะกันขนาดนี้ แล้วก็จะแก้กันยังไง เพื่อให้ความเละเทะเลอะเทอะมันเลิกกันให้ได้ ถ้ากฎหมายนิรโทษกรรมเป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องทำ ก็เป็นเรื่องของกรรมการเขา คงไม่ใช่เรื่องของเรา

ภิญโญ - ถ้าอย่างนั้นแสดงว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยก็ควรจะสนับสนุนให้คณะกรรมการ คอป.ดำเนินการค้นหาความจริงและการปรองดองต่อไป ใช่มั้ยครับ

ทักษิณ - ใช่ครับ คุณยิ่งลักษณ์ประกาศไปเมื่อวันที่โค้งสุดท้ายของการปราศรัยวันที่ 1

ภิญโญ - ว่าจะต้องยึดตรงนี้เป็นหลัก แล้วก็มีคณะกรรมการปฏิรูป คุณอานันท์ ปันยารชุน ท่านลาออกไปแล้ว แล้วก็รอดูใจว่ารัฐบาลใหม่จะกลับเข้ามา จะตั้งท่านมาปฏิรูปการเมืองหรือเปล่า คณะกรรมการปฏิรูปฯ เอาอย่างไรครับคุณทักษิณ

ทักษิณ - ไม่ทราบเลยครับ ผมไม่ได้คุยเรื่องนี้เลยครับ ไว้ให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลแล้วกัน

ภิญโญ - คือถ้ามีข้อเสนอนะครับ ในฐานะผู้ที่มีประสบการณ์ทางการเมือง คุณทักษิณอยากเสนอปฏิรูปอะไรครับ

ทักษิณ - เอาอย่างนี้นะครับ ใครมีความคิดดีๆ เพื่อบ้านเมือง ที่เป็นธรรมกับบ้านเมือง เป็นธรรมกับสังคม มันเป็นสิ่งที่ทุกรัฐบาลต้องยอมรับ ต้องอ้าแขนรับทั้งนั้นล่ะครับ ถ้าหากว่าใครที่มีใจเป็นธรรม เป็นกลางกับทุกฝ่าย ไม่เอาการเมืองมาเป็นตัวตั้ง เอาเรื่องของบ้านเมืองมา มันเป็นประโยชน์ทั้งนั้นล่ะครับ คือไม่ว่ารัฐบาลไหนทั้งสิ้นก็ต้องการความคิดเห็นจากคนส่วนใหญ่ จะเป็นน้ำเต็มแก้วไม่ได้นะครับ

ภิญโญ - คุณทักษิณ ผ่านร้อนผ่านหนาวต่อสู้ทางการเมืองมายาวนาน ในที่สุดต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ วันนี้ ผลการเลือกตั้งกำลังจะออกมา คะแนนที่พี่น้องประชาชนตัดสิน ไม่ว่าจะเป็นของใคร พรรคเพื่อไทยจะได้มากน้อยแค่ไหน ลึกลงไปในความรู้สึก ลึกลงในหัวใจคุณทักษิณ วันนี้คุณคิดอะไรอยู่ครับ

ทักษิณ - ผมคิดดีใจแทนพี่น้องประชาชนครับว่า หวังว่า คงจะเคารพการตัดสินใจของประชาชน ดีใจที่พี่น้องประชาชนมีความรักในประชาธิปไตย มีหัวใจเป็นประชาธิปไตยนะครับ และผมเชื่อว่า ทุกฝ่ายต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน เพราะว่าประเทศไหนที่ไม่เคารพการตัดสินใจของประชาชน ไม่มีทางที่ประเทศนั้น จะมีสันติสุขได้

ภิญโญ - คุณทักษิณครับ ช่วงการหาเสียงโค้งสุดท้ายในการแข่งขันทางการเมือง พรรคคู่แข่งของพรรคเพื่อไทยได้ออกมารณรงค์ ผู้สื่อข่าวต่างประเทศได้สัมภาษณ์คุณทักษิณหลายสำนักในเรื่องความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในอดีต กรณีที่เกิดปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้าเกิดว่าพรรคเพื่อไทยได้เข้ามาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง คุณทักษิณคิดว่า กระบวนการต่างๆ เหล่านี้ ควรมีการถอดรื้อ สรุปบทเรียนกันหรือเปล่าครับ

ทักษิณ - แน่นอนครับ มันไม่มีใครทำอะไรถูก 100% และผิด 100% ต้องเรียนรู้จากอดีต เพื่อแก้ไขในสิ่งที่ ให้มันดีขึ้นแน่นอน สิ่งที่ทำอะไร ที่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องข้อผิดพลาดผมจะบอกให้รัฐบาลเขาจะได้เอาไปพิจารณาประกอบ เพราะเหตุการณ์สิ่งแวดล้อมมันคงเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น เราจะไปยึดติดกับสิ่งแวดล้อมเดิมๆ ที่เราเคยมีไม่ได้หรอก เราอาจจะให้ข้อมูลไป เขาก็ต้องใช้สิ่งแวดล้อมใหม่ประกอบการพิจารณา เขาคงไม่จำเป็นต้องเหมือนกันเป๊ะ

ภิญโญ - คุณทักษิณ ผมไปเดินตามคุณทักษิณตั้งแต่วันหาเสียงวันแรก เดินลุยเยาวราช สำเพ็ง เห็นคุณทักษิณ เข้าสู่ชีวิตการเมืองตั้งแต่วันนั้น ถึงวันนี้ คำถามที่อยู่ในใจที่อยากถามคุณทักษิณ เมื่อมีโอกาสเจอกันว่า คุณทักษิณเล่นการเมืองขนาดนี้ ผ่านชีวิตขนาดนี้ มองย้อนกลับไปในชีวิต หลายคนอาจจะชอบ หลายคนอาจไม่ชอบ มีคนรักคุณทักษิณมากๆ และมีคนเกลียดคุณทักษิณมากๆ ในประเทศไทย คุณทักษิณมองภาพตัวเอง มองย้อนไปในกระจกเงา อะไรคือความผิดพลาดสำคัญในการใช้ชีวิตทางการเมืองครับ

ทักษิณ - ก็ มัน เราจะพูดกันสั้นๆ ตรงนี้คงไม่ไหวครับ เรามานั่งคุยกันทีหลังดีกว่านะ อันนี้ คุณสัมภาษณ์สั้นๆ นี่คุณสัมภาษณ์เหมือนรายการสัมภาษณ์เดี่ยวเลย เอาแค่นี้ก่อนนะ คุณมาคุยกันที่ดูไบดีกว่า มากินอาหารแขกแล้วคุยกันดีกว่า

ภิญโญ - ได้ครับ เดี๋ยวไปพบกันที่ดูไบครับ คุณทักษิณ ขอบพระคุณมากครับ คุณทักษิณครับ

กำลังโหลดความคิดเห็น