“ประพันธ์” กำชับ กกต.จว.น่าน-ศรีสะเกษ จุดเสี่ยง ประเมินย้ายหน่วยเลือกตั้งได้

กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กำชับ กกต.จว.ในจุดเสี่ยง เฝ้าระวังพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะน่าน-ศรีสะเกษ ชี้ กกต.เขตมีอำนาจประเมินสถานการณ์ย้ายหน่วยเลือกตั้งไปพื้นที่ปลอดภัยได้ แนะปชช. ตรวจสอบรายชื่อให้ชัดว่ามีสิทธิเลือกตั้งในเขตใด ชี้ คืนสิทธิคนที่ไม่ได้ไปเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด-นอกราชอาณาจักรที่ไม่ได้เดินทางไปใช้สิทธิตามคำขอพีเน็ตไม่ได้ ระบุตามกฎหมายต้องรีบแจ้งเหตุที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิ

วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถ.วิภาวดีรังสิต นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของการเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค.54 ซึ่งในขณะนี้ยังมีปัญหาเหตุอุทกภัยในพื้นที่ จ.น่าน และอาจจะเกิดการปะทะกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จ.ศรีสะเกษ ว่า กกต.กลางได้สอบถามไปยัง กกต.จว.น่าน โดยทราบว่า สถานการณ์อุทกภัยใน จ.น่าน นั้น ได้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ถ้าในวันเลือกตั้งเหตุการณ์ยังไม่ปกติ ทาง กกต.เขตได้พิจารณาเห็นว่าไม่สามารถจัดการเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งเดิมได้ก็ให้ย้ายสถานที่ลงคะแนนใหม่ไปในพื้นที่ปลอดภัยกว่าแทน โดยจะเน้นการย้ายสถานที่ลงคะแนนเป็นหลัก หากจำเป็นต้องเลื่อนวันเลือกตั้งก็สามารถเลื่อนได้ แต่ขอให้วิธีการงดลงคะแนนเลือกตั้งเป็นวิธีการสุดท้าย นอกจากนี้การพิจารณาย้ายสถานที่ต้องคำนึงถึงความสะดวกของผู้ลงคะแนน อย่างไรก็ตาม ขอให้ กกต.จังหวัดทุกจังหวัดจับตาเฝ้าสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด และรายงานให้ กกต.กลางได้รับทราบ

นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณหมู่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และบริเวณใกล้เคียง ขอให้กกต.เขตพิจารณาประเมินสถานการณ์ รวมทั้งตัดสินใจตามความเหมาะสม ทั้งนี้ ตนเป็นห่วงเรื่องการนับคะแนนเลือกตั้ง หากเกิดเหตุการณ์ปะทะเกรงว่าจะส่งผลทำให้การประกาศผลการเลือกตั้งเฉพาะหน่วยเลือกตั้งดังกล่าวล่าช้าออกไป

นายประพันธ์ ได้ขอให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งตรวจสอบรายชื่อในหนังสือที่นายทะเบียนท้องถิ่นได้แจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปยังเจ้าบ้าน ว่า ตนเองมีชื่ออยู่บัญชีดังกล่าวหรือไม่ ทั้งนี้ยังสามารถตรวจสอบได้ที่สำนักงานเทศบาลท้องถิ่น ที่ว่าการอำเภอท้องถิ่น หน้าหน่วยเลือกตั้ง หรือในเวปไซต์คนไทยดอทคอม (www.khonthai.com) ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย โดยจะต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้งในเวลา 08.00-15.00 น.วันที่ 3 ก.ค.นี้

นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด แต่ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามมาตรา 97 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มา ซึ่ง ส.ว.ระบุว่า หากใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งในจังหวัดที่ลงทะเบียนไว้ และให้หมดสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งเดิมที่มีสิทธิ์จนกว่าจะมีการลงทะเบียนเปลี่ยนแปลง จึงไม่สามารถไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค.ได้อีก เพราะฉะนั้นผู้ที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิในวันดังกล่าวต้องไปแจ้งเหตุที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิต่อนายทะเบียนท้องถิ่นที่ตนเองมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ส่วนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง แต่ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านั้นยังสามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ในวันที่ 3 ก.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) เปิดเผยข้อมูลว่า ในวันเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ที่ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดและนอกราชอาณาจักรที่ไม่ได้เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าตกค้างจำนวนมาก จึงต้องการให้กกต.คืนสิทธิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งดังกล่าวไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค.ได้ นายประพันธ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวไม่สามารถทำได้ เนื่องจากในกฎหมายมาตรา 97 และมาตรา 101 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.ระบุไว้ชัดเจน สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือการไปแจ้งเหตุที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิเพื่อรักษาสิทธิของตนเองไว้

เมื่อถามต่อว่า ในส่วนของปัญหาข้อปฏิบัติกรณีผู้มีสิทธิเลือกตั้งมาใช้สิทธิเลือกตั้งในช่วงเวลา15.00 น.ซึ่งเป็นเวลาปิดหีบบัตรเลือกตั้งแล้ว ทาง กกต.ได้วางแนวปฏิบัติให้กับกรรมการประจำหน่วยไว้อย่างไร นายประพันธ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง และทุกหน่วยเลือกตั้งก็มีนาฬิกาที่แสดงเวลาไว้ชัดเจน ทั้งนี้ ขอให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมาเดินทางมาเลือกตั้งตั้งแต่ในช่วงเช้า เพื่อป้องกันปัญหามาไม่ทันเวลา 15.00 น.