“ยิ่งลักษณ์” อยากเห็นความปรองดองให้ประเทศเดินไปข้างหน้า อ้างความปรองดองจะเกิดขึ้นได้ต้องเคารพเสียงประชาชน พรรคที่ได้อันดับ 1 ต้องมีสิทธิเสนอนายกรัฐมนตรี ไม่ปิดกั้น ชทพ.เข้าร่วม เฉไฉตอบนิรโทษกรรม “นช.แม้ว”
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้เราอยากเห็นสัญญาณเรื่องการปรองดองอยู่แล้ว การเลือกตั้งจะเป็นจุดเริ่มของการปรองดอง แต่จะต้องเคารพเสียงของประชาชน ซึ่งขณะนี้ยังเหลือเวลาอีก 3 สัปดาห์ ที่ตนและพรรคเพื่อไทยจะลงพื้นที่หาเสียงเพื่อชี้แจงนโยบาย เพื่อให้ผลการเลือกตั้งเป็นเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งบรรยากาศการเลือกตั้งขณะนี้ อยากจะให้เห็นถึงความปรองดองที่เป็นไปได้ด้วยดี เพื่อให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าได้
นอกจากนี้ ในระบอบประชาธิปไตย นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง และการปรองดองจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องเคารพเสียงประชาชน ถ้าประชาชนตัดสินให้พรรคไหนเป็นเสียงข้างมากในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคการเมืองนั้นก็มีสิทธิที่จะเสนอนายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการประสานงานกับพรรคชาติไทยพัฒนาในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงการจัดตั้งรัฐบาล เพราะยังเหลือเวลาอีก 3 สัปดาห์ จึงอยากให้รอผลการเลืกตั้งออกมาก่อน ส่วนโอกาสจะไปร่วมกับพรรคชาติไทยพัฒนาหรือไม่นั้น พรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้ปิดกั้น ซึ่งอยู่ที่ประชาชนจะเลือกให้พรรคไหนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลส่วนจะร่วมกับพรรคอื่นหรือไม่นั้น ต้องมีการคุยถึงเรื่องอุดมการณ์โดยเฉพาะนโยบายที่นำเสนอต่อประชาชน ว่าพรรคการเมืองไหนสามารถรับนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่นำเสนอไปได้หรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกรัฐมนตรีจะมาจากพรรคอื่นได้หรือไม่ ถ้าไม่ใช่พรรคที่มีเสียงอันดับ 1 น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ก็ยังเร็วเกินไปที่จะพูด ใครจะเป็นรัฐบาลหรือเป็นนายกรัฐมนตรี ทุกพรรคการเมืองมีผู้นำในระบบบัญชีรายชื่อที่จะเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว
ส่วนที่ฝ่ายตรงข้ามพยายามโจมตีพรรคเพื่อไทยในเรื่องนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการเมื่อเป็นรัฐบาลคือ การแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ส่วนเรื่องการนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณจะเป็นจุดอ่อนของพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ขอยืนยันว่าตนมีความจริงใจที่จะให้ประเทศเดินไปข้างหน้าให้ได้ จึงอยากขอความเห็นใจและให้โอกาสพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล อย่างไรก็ตามผลการตัดสินก็อยู่ที่วันที่ 3 ก.ค.
