“ยิ่งลักษณ์” ช่วยลูกทีมหาเสียงตลาดอมรพันธ์ เสนานิคม ก่อนไปมีนบุรี หญิงชราเรียกร้องสานต่อนโนบาย 30 บาทรักษาทุกโรคให้มีประสิทธิภาพ เหตุขณะนี้มีขั้นตอนการรักษามาก ด้าน “อภิสิทธิ์” ไปโคราช นมัสการอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี พร้อมหาเสียงกับประชาชนในพื้นที่ ก่อนปาฐกถากับนักศึกษาเทคนิคนครราชสีมา “ชูวิทย์” บุกถิ่น ปชป.ลงใต้ขอคะแนนเสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ ช่วงเช้าวันนี้ (9 มิ.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ตลาดอมรพันธ์ เสนานิคม ซอย 40 เพื่อช่วยนายสิงห์ บัวชุม ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 8 ของพรรคเพื่อไทยหาเสียง โดยได้เข้ากราบสักการะพระพุทธรูปปางลีลา ที่ศาลาเมตตาราษฎร์ประชาสรรค์ ต่อจากนั้นได้ออกเดินหาเสียงในตลาดซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้าในตลาดต่างออกมาให้การต้อนรับจำนวนมากกว่า 100 คน รวมทั้งได้มอบดอกไม้ และพวงมาลัยเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ รวมทั้งยังได้ขอถ่ายภาพกันอย่างคึกคัก
ทั้งนี้ ในระหว่างการเดินตลาด น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้แวะร้านทุเรียน และได้ลงมือแกะทุเรียนด้วยตนเอง โดยแม่ร้านทุเรียนดังกล่าวได้มอบทุเรียนให้เป็นของฝาก ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ใช้เวลาในการลงพื้นที่หาเสียงประมาณ 30 นาที
จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เดินทางต่อมายัง รพ.นพรัตนราชธานี เขตมีนบุรี พร้อมกับนายวิชาญ มีนชัยนันท์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ และนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้สมัครของพรรค ซึ่งมีประชาชนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ทั้งนี้ มีหญิงชราคนหนึ่งเรียกร้องให้สานต่อนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากขณะนี้มีขั้นตอนในการรักษามาก ตนจึงเห็นว่าเป็นการเสียเวลา และจะยิ่งทำให้อาการป่วยแย่ลงเมื่อขั้นตอนต้องใช้เวลานานเช่นนี้ โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้แสดงความรู้สึกเห็นใจและรับเรื่องไว้ หากได้เป็นรัฐบาลก็จะสานต่อนโยบายเดิมของ พ.ต.ท.ทักษิณ นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังได้เดินดูขั้นตอนต่างๆ ในการเข้ารับการรักษาของโรงพยาบาลดังกล่าวด้วย
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางลงพื้นที่หาเสียงในจ.นครราชสีมา โดยได้เข้าสักการระอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีหรือย่าโม พร้อมกล่าวปราศัย กับผู้สนับสนุน และประชาชน ซึ่งระหว่างที่ได้ปราศรัยได้มีหญิงสูงวัยอายุ 68 ปีอ้างว่าเป็นชาวปราจีนบุรี บุกเดี่ยว เข้าประชิดตัวนายอภิสิทธิ์ ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกันตัวออกมาซึ่งหญิงดังกล่าวได้ตะโกนด่าทอด้วยคำหยาบคาย อาทิ "นายกฯ ฆ่าประชาชน / เป็นรัฐบาลมา 2 ปีไม่เคยทำอะไร กู้แล้วโกง เคยมีที่ไหนจะมีตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร นายกฯโกหกนโยบายต่างๆ ก็ไม่สามารถทำได้จริงโดยเฉพาะโครงการเรียนฟรี 15 ปี พร้อมกันนี้ยังอธิษฐานต่อหน้าย่าโม ให้เป็นพยานว่าใครทำดีต่อประเทศชาติขอให้มีความเจริญ แต่หากใคร ทำไม่ดีตนเองจะไม่แช่ง โดยขอให้แล้วแต่ย่าโมจะกรุณา ทั้งนี้ยืนยันว่าตนเองไม่ใช้คนเสื้อเหลือง หรือเสื้อแดง เพียงแต่เป็นคนที่รักความยุติธรรม" ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องกันตัวออก ท่ามกลางการปะทะคารมเล็กน้อยกับผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์
จากนั้นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ขึ้นรถขยายเสียง สลับกับเดินขอคะแนนเสียงจากประชาชนไปตามถนนสุรนารี จากหน้าตลาดปู่ทรวง ไปสิ้นสุดที่ตลาดแม่กิมเฮง บริเวณสี่แยกวัดม่วง ซึ่งระหว่างเดินหาเสียงมีนายพิศิษฐ์ โล่นิมิตร ตะโกนว่าใครสั่งฆ่าประชาชน และปัญหาน้ำมันปาล์มเกิดจากฝีมือใครหากตอบได้จะเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายอภิสิทธิ์เข้าไปชี้แจงในเรื่องของการแก้ไขราคาน้ำมัน และเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายนที่ทหารต้องเข้าไประงับเหตุ ทำให้นายพิศิษฐ์ มีท่าทีอ่อนลง และไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ เกิดขั้น ขณะเดียวกันระหว่างเดินตลาดมีชาวบ้านพ่อค้าแม่ค้ามอบดอกไม้ให้กำลังใจนายอภิสิทธิ์เช่นกัน
จากนั้นได้เดินทางต่อไปที่วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา เพื่อปราศรัยเรื่อง “อนาคตแรงงานคุณภาพของไทย”
ขณะที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย เตรียมลงพื้นที่หาเสียงบริเวณวงเวียนใหญ่ ก่อนลงพื้นที่หาเสียงที่จังหวัดชายแดนภาคใต้วันนี้ โดยเริ่มที่ จ.สงขลา เป็นจังหวัดแรก ทั้งนี้ นายชูวิทย์ยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องขอกำลังตำรวจคุ้มกันเป็นพิเศษ เพราะตำรวจต้องทำงานหนักอยู่แล้ว