โฆษกพรรคเพื่อไทย เลือดขึ้นหน้าช่อง 11 รู้เห็นเป็นใจรายการคลายปม “เจิมศักดิ์” ใส่ร้ายพรรคเพื่อไทย หวังสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน เตรียมร้องกองปราบฯพรุ่งนี้ เย้ยโหรเนวิน นั่งเทียนวิเคราะห์สกัดกระแสความนิยม ย้ำ หากเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง ยิ่งลักษณ์ ถูกเสนอชื่อนั่งนายกฯแน่
วันนี้ (26 พ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณี นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และ นายจิตรกร บุษบา ผู้จัดรายการคลายปม ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ เอ็นบีที กล่าวหาใส่ร้ายด้วยความเท็จต่อ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ว่า เป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรง และทำให้ประชาชนเข้าใจผิดในคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยอย่างเห็นได้ชัด โดยพรรคเพื่อไทยเชื่อว่า การใส่ร้ายดังกล่าวเป็นการหวังผลทางการเมือง เพื่อจูงใจให้ประชาชนงดเว้นการลงคะแนนเลือกตั้งให้พรรคเพื่อไทย อันเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 53 ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที น่าจะมีส่วนรู้เห็นกับการจัดรายการดังกล่าว เพื่อต้องการทำลายพรรคเพื่อไทย เพราะรายการนี้ได้สร้างความแตกแยกในสังคมมาโดยตลอด แต่ก็สามารถออกอากาศอยู่ได้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะไปดำเนินการยื่นดำเนินคดีกับ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นายจิตรกร บุษบา และ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที และบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อกองบังคับการปราบปราม ในวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ.2554 เวลา 10.00 น.และจะไปยื่นเรื่องนี้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.เวลา 13.00 น.เพื่อให้สืบสวนสอบสวนและดำเนินคดี รวมทั้งจะขอให้ กกต.มีคำสั่งให้ เอ็นบีที หยุดออกอากาศรายการดังกล่าว
นอกจากนี้ นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ ว่า แม้พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้ง แต่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ก็จะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะจะมีการเลือกบุคคลที่ 3 มาเป็นนายกรัฐมนตรีแทนนั้น พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าหากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ก็คือ นางสาวยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทยก็ไม่มีหลักการและเหตุผลใดที่จะนำบุคคลอื่นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนตัวเชื่อว่า การให้สัมภาษณ์ของนายเนวิน นั้น เป็นเพียงการคาดการณ์และต้องการสกัดกระแสความนิยมของพรรคเพื่อไทย พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อกับคำพูดของผู้ที่มีส่วนได้เสียทางการเมืองด้วย