เพื่อแม้วยังตีกินไม่เลิก ล่าสุดส่ง “วิชาญ” นำทีมผู้สมัคร ส.ส.กทม.ร้อง กกต.สั่งรัฐบาลยุติโครงการปราบยาเสพติด อ้างเป็นการแอบแฝงหาเสียงเลือกตั้ง ขณะเดียวกันยังเรียกร้องให้ตรวจสอบบัตรเลือกตั้งเคลือบมันหมายเลข 1 หวังให้เป็นบัตรเสีย ด้านพรรคการเมืองใหม่ ร่วมลงนามพันธสัญญากับ กกต.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 พ.ค.) นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้อำนวยการ (ผอ.) เลือกตั้ง กทม.พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยผู้สมัครของพรรคจากเขตหนอกจอก คันนายาว และเขตมีนบุรี เดินทางมายื่นคำร้องขอให้ กกต.ทำหนังสือถึงรัฐบาลสั่งให้ยุติโครงการป้องกันปัญหายาเสพติดของรัฐบาล เพราะการดำเนินการดังกล่าว ตนและผู้สมัครคนอื่นๆ เห็นว่าในการการดำเนินการของเจ้าหน้าที่รัฐมีลักษณะเข้าข่ายเป็นการดำเนินการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการช่วยหาเสียงให้รัฐบาล
ทั้งนี้ ตนอยากให้เร่งตรวจสอบ เนื่องจากมีประชาชนในพื้นที่ต่างๆ เช่น เขตลาดพร้าว เขตมีนบุรี ร้องเรียนมายังพรรคเพื่อไทยว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปตรวจสอบ และสอบถามถึงโครงการยาเสพติดของรัฐบาลว่าพอใจกับโครงการหรือไม่ อยากให้รัฐบาลสานต่อหรือไม่ รวมทั้งยังสอบถามประวัติประชาชนและสอบถามด้วยปากเปล่าถึงพรรคการเมืองที่จะเลือกในการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นเป็นข้อมูลเก็บไว้ด้วย จึงอยากให้ กกต.มีการตรวจสอบให้แน่ชัดทุกพื้นที่ทั่วประเทศว่าโครงการดังกล่าวมีการเอื้อประโยชน์ให้แก่พรรครัฐบาลในการหาเสียงหรือไม่ นอกจากนี้ยังเห็นว่าเป็นการเข้าข่ายข่มขู่ คุกคามทำให้ประชาชนมาลงชื่อเป็นพยานให้พรรคเพื่อไทย
นายวิชาญกล่าวถึงกรณีที่ตนเองได้ตั้งข้อสังเกตว่าจะมีการแวกซ์ช่องหมายเลข 1 ในบัตรเลือกตั้ง ซึ่งเป็นหมายเลขของพรรคเพื่อไทย จนไม่สามารถกากบาทในช่องดังกล่าวได้ ซึ่งตนได้ทราบข่าวจากผู้ใหญ่คนหนึ่งในโรงพิมพ์ที่มีการดำเนินการพิมพ์บัตรเลือกตั้งเพื่อต้องการให้เป็นบัตรเสีย ซึ่งคิดว่าน่าจะทำให้ส่วนของ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคมีปัญหา ทั้งนี้ ตนมีความกังวลว่าหากกรณีดังกล่าวเป็นจริง 3 ล้านใบ ก็จะส่งผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้มาพูดเพื่อตีกิน แต่เมื่อได้ข้อมูลมาก็ต้องพูดป้องกันไว้ก่อน เพราะหากเลือกตั้งไปแล้วจะตรวจสอบได้ยาก
“ผมมีความตั้งในที่จะมาพบ กกต.เพื่อจะสอบถามในหลายเรื่องที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง และพรรคเพื่อไทยก็ได้มีการทำหนังสือมาก่อนที่จะมีการเลือกตั้งเสียอีก แต่ก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพบ แต่ในทางกลับกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทาง กกต.ก็ให้เข้าพบได้ถึง 2 ครั้ง จึงอยากทราบว่าทำไม กกต.จึงไม่อนุญาตให้พรรคเพื่อไทยเข้าพบบ้าง ถ้าให้เวลากับพรรคเพื่อไทยเข้าพบบ้างก็คงดี จะได้ไม่ต้องเสียเวลาทำเรื่อง และมายื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กกต. นอกจากนี้จะได้เป็นการทำความเข้าใจที่ตรงกัน และผมก็เป็นผู้มีประสบการณ์ในการเลือกตั้งมาเยอะจึงอยากขอเวลาพูดคุยกับ กกต.บ้าง”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน นายสมศักด์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ได้เดินทางมาร่วมลงนามในพันธสัญญาของพรรคการเมืองว่าด้วยความร่วมมือในการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2554 โดยเป็นพรรคการเมืองในลำดับที่ 46 ที่ร่วมลงนามจากพรรคการเมืองที่มีทั้งหมด 57 พรรค
นายสมศักดิ์กล่าวว่า ทุกวันนี้ในสังคมประชาธิปไตยต้องการให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่อยากเห็นความรุนแรงและการคุกคามในรูปแบบใดๆ เพื่อให้สังคมก้าวไปสู่ความสงบสุขตามระบบประชาธิปไตย ในส่วนของผู้สนับสนุนพรรคการเมืองนั้นพรรคการเมืองต้องเป็นผู้รับผิดชอบ หากไปก่อกวนจนผิดกฎหมายเลือกตั้งจะทำให้บรรยากาศในช่วงนี้ไม่เรียบร้อย ดังนั้นต้องทำให้สมกับที่ทุกพรรคการเมืองต้องการให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริตและโปร่งใส อีกทั้งจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้เกิดความสงบ
สำหรับปัญหาในพรรคการเมืองใหม่นั้น นายสมศักดิ์กล่าวว่า คงต้องว่ากล่าวตักเตือน หากมีการดำเนินการที่ทำอะไรผิดก็ถือเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคลไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ส่วนกองเชียร์ของพรรคอื่นๆ ที่ไปก่อกวนการหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ นั้น พรรคการเมืองจะอ้างว่าไม่รู้เรื่องไม่ได้ เพราะเรื่องนี้สามารถสอบสวนได้ และกองเชียร์ส่วนใหญ่ก็เป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้น หากดำเนินการอะไรที่ไม่ถูกต้องพรรคการเมืองก็สามารถที่จะปลดหรือขับให้พ้นความเป็นสมาชิกพรรคได้
