“จิ๋ว” สานต่อโซ่ข้อกลาง ไม่ขอสังกัดพรรคไหน หวังเดินสายสร้างปรองดอง

“ขงเบ๊” ไม่ขอสังกัดพรรคไหน เดินหน้าโซ่ข้อกลางคุยหลายพรรค ต้องร่วมกันแก้ ละวางทุกสิ่ง เชื่อต่อไปไม่มีคู่ขัดแย้ง แย้มเดินสายมาหลายอาทิตย์แล้ว แนะเสียสละหน่อย ไม่หวนกลับเพื่อไทย บอกอยู่ไม่อยู่ก็เหมือนกัน รับความรุนแรงมีมากกว่าสมัยก่อนต้องระมัดระวัง

วันนี้ (23 พ.ค.) ที่โรงแรมรามาการ์เดนส์ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตประธานพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ไม่เข้าสังกัดพรรคใดว่า เราต้องเป็นกลาง ต้องช่วยหมดให้ทุกพรรคการเมือง ให้เขามีความเข้าใจร่วมกัน การที่จะแก้ปัญหาต้องแก้ด้วยกันต่างคนต่างแก้ไม่ได้ ฉะนั้นเราก็ต้องเป็นกลางเพื่อจะเอาทุกฝ่ายเป็นพวกเรา ไม่มีอะไรนอกจากว่าพร้อมที่จะไปช่วยเหลือ พร้อมที่จะไปคุยด้วย ก็มีหลายพรรคที่จะให้ไปคุย ซึ่งคงจะทยอยไปคุย เมื่อถามว่า มั่นใจได้อย่างไรว่าการอยู่ตรงกลางจะช่วยให้เกิดความปรองดองได้เกิดความเป็นธรรมได้ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า เคยอยู่ในพรรคแล้วยังทำไม่ได้ ต้องเอาหลายๆ พรรค ร่วมกันถึงจะแก้ไขได้และควรจะละวางทุกสิ่งทุกอย่างไว้ได้แล้ว และหันมาช่วยเหลือกันให้เต็มกำลัง มาส่งเสริมกัน ใครไม่ดีก็มาพูดกันได้นิดๆหน่อย อย่าไปว่ากันมากมาย เพื่อเป็นพลังร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ลูกหลาน จบปัญหากันเสียที

เมื่อถามว่า ที่บอกว่าได้คุยกับพรรคการเมืองหมายถึงพรรคคู่ขัดแย้งหรือไม่ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า คงไม่มี ต่อไปนี้คงเป็นพวกเดียวกันหมดแล้ว เมื่อถามอีกว่า ได้ประสานกับพรรคประชาธิปัตย์และภูมิใจไทยหรือไม่ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ก็ค่อยๆ คุยกันไป มีโอกาสคุยกับพรรคพวกบ้าง มีโอกาสก็ต้องทำ เมื่อถามว่า การคุยเริ่มได้เมื่อไหร่ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ทำมาหลายอาทิตย์แล้ว จากการพูดคุยก็ดีขึ้น เขามีความเข้าใจ ตนก็บอกไปว่าก็เสียสละกันหน่อย อาจไม่ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการหมด ต้องเสียสละกัน แต่ตนบอกไม่ได้ว่าไปคุยกับพรรคไหนมาบ้าง

เมื่อถามว่า พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ก็พยายามทำให้ส่วนนี้แต่ไม่สำเร็จ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า เราต้องมีแนวทางในการพูดคุยกัน ไม่ใช่เดินเฉยๆ เดินแล้วต้องมีการจัดการมีการพูดจากัน

เมื่อถามว่า ทำไมไม่ตัดสินใจไปอยู่พรรคเพื่อไทย ทั้งที่พรรคเพื่อไทยมาเชิญ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า “โอยนี่เสื้อแดงก็มาจากพรรคเพื่อไทยสิท่า มิน่าล่ะ พูดเล่นนะลูก อยู่ไม่อยู่ก็เหมือนกัน เขาก็เข้าใจเรา เราก็เข้าใจเขา มายืนอยู่ตรงนี้ดีกว่าลูก”

เมื่อถามว่า หลังเลือกตั้งพร้อมร่วมทำงานกับรัฐบาลหรือฝ่ายค้านหากเชิญไปเป็นแกนกลางในการที่จะทำให้เกิดความปรองดอง พล.อ.ชวลิตกล่าววา เขาคงไม่เชิญ เราแค่เห็นความร่วมมือของเขาก็ชื่นชมพอแล้ว ยืนอยู่ข้างนอกก็ได้ช่วยกัน

เมื่อถามถึงแนวทาง 66/23 กับการนิรโทษกรรมมีอะไรที่คล้ายคลึงกันบ้าง พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า มันก็แตกต่างกันไปบ้าง 66/23 ใช้อาวุธ กลุ่มคนไม่มาก วันนี้กว้างขวางไปทุกระดับ ฉะนั้นพูดถึงความรุนแรง มันรุนแรงกว่าสมัยก่อนเยอะ ต้องแก้ด้วยความระมัดระวัง