หัวหน้าประชาธิปัตย์ ประเดิมหาเสียงราชบุรี ลั่นพรรคจะทำตามสัญญา ยันเอาจริงปราบยาฯ แก้หนี้สินนอกระบบ ขู่ถ้าพรรคอื่นเป็นรัฐอาจรื้อประกันรายได้ เรียนฟรี ทิ้ง แถมมัวแต่เสียเวลาเอา “นช.แม้ว” ล้างผิดกลับไทย ทำชาติวุ่น หยันนโยบายทำได้จริงหรือ
วันนี้ (13 พ.ค.) ที่ จ.ราชบุรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาต.คูบัว อ.เมือง จ.ราชบุรี เพื่อช่วยลูกพรรคในเขตพื้นที่หาเสียง พร้อมพบปะประชาชน สอบถามความต้องการของประชาชน โดยมีประชาชนประมาณ 100 คน ให้การต้อนรับ และผูกผ้าขาวม้ารับขวัญ โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับชาวบ้านถึงประเด็นปัญหาความขัดแย้งที่รุนแรง ซึ่งเกิดจากทางการเมืองว่า ทุกวันนี้เห็นข่าวพวกนี้แต่ละวันรู้สึกเกรงใจประชาชน ดังนั้นจึงพยายามดึงทุกสิ่งทุกอย่างกลับมาเป็นเรื่องของประชาชน และอะไรที่พรรคประชาธิปัตย์สัญญาไว้ก็จะต้องทำ เพราะไม่อยากเห็นคนไทยลำบากยากจน อยากเห็นคนไทยมีหลักประกัน มีรายได้ ทั้งหมดคือเป้าหมายของพรรคประชาธิปัตย์ โดยที่ผ่านมามีนโยบายหลายอย่างที่สัญญาก่อนหน้าที่จะเป็นรัฐบาล โดยเฉพาะการเรียนฟรี 15 ปี เพิ่มค่าตอบแทนอสม. และอื่นๆ ซึ่งได้มีการดำเนินการไปแล้ว และตอนนี้กำลังจะเพิ่มกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาอีก
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยยอมรับว่า เป็นเรื่องที่หนักใจมาเพราะมีมาก และตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาทำโครงการ 5 รั้วป้องกันก็ดีขึ้น และที่ผ่านมา ก็จับมามากจนไม่มีที่จะบำบัด สุดท้ายต้องส่งกลับคืน อย่างไรก็ตามล่าสุดรัฐบาลโดยพรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศยุทธวิธีใช้กองกำลังพิเศษ 315 ที่ร่วมกันระหว่างตำรวจกับทหาร เข้าไปดำเนินการ ยืนยันว่า เอาจริง และจะเดินหน้าต่อไปสำหรับปัญหาหนี้สินนอกระบบที่ร้องเรียนมาตั้งใจว่าเดือนสิงหาคม-กันยายน นี้จะเปิดให้ประชาชนเปิดขึ้นทะเบียนอีก 1 รอบเพื่อแก้ปัญหาให้พร้อมปรับปรุงหลักเกณฑ์ใหม่
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ จากผลสำรวจของสำนักต่างๆ ได้บอกว่า พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์จะได้คะแนนเสียง และจำนวน ส.ส.คู่คี่กันไป ซึ่งหากใครชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ก็จะได้มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล โดยพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งจะเดินหน้าสานต่อการทำงานได้ทันที แต่หากเปลี่ยนพรรคที่จัดตั้งรัฐบาลอาจจะมีการรื้อ หรือยกเลิกนโยบาย อาทิเช่น การประกันรายได้เกษตรกร โครงการเรียนฟรี ค่าตอบแทน อสม.ซึ่งประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะให้มีการเดินหน้าโครงการต่อไปได้ทันทีหรือ ให้เริ่มต้นใหม่ด้วยความลังเลว่าถ้าทำตามนโยบายพรรคประชาธิปัตย์จะทำให้เสียหน้า จึงไม่ดำเนินการต่อ ซึ่งได้ข่าวว่าจะมีการส่ง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และในพื้นที่ก็มี พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ราชบุรี ซึ่งเป็นคนในตระกูลเดียวกัน ทั้งนี้ เป็นห่วงสิ่งที่พรรคเพื่อไทยได้พูดไว้ว่าถ้าได้เป็นรัฐบาลจะต้องหาทางนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมา แต่การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่กลับมาจะนั้นไม่เกี่ยวกับรัฐบาล แต่เป็นเพราะถูกศาลตัดสินจำคุก และยังมีคดีค้างอีก 6-7 คดี
“ดังนั้น ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล การทำงานก็คงใช้เวลานาน เพราะต้องหาทางเอาตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาประเทศไทย และหาทางแก้ความผิดให้เรียบร้อย ซึ่งจะเกิดความวุ่นวายอย่างมาก เพราะฉะนั้นจึงอยากจะบอกประชาชนว่าการเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญมาก ว่า จะให้มีการเดินหน้าโครงการของรัฐบาลต่อตั้งแต่วันแรกที่รับตำแหน่ง หรือจะต้องนับ 1 ใหม่ ซึ่งตนเห็นว่านโยบายของพรรคเพื่อไทยมีสิ่งล่อใจอยู่มาก ซึ่งจะต้องถามว่าทำได้จริงหรือไม่ ทั้งนี้นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ที่ทำออกมานั้น มั่นใจว่าพูดออกไปแล้วสามารถทำได้จริง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางลงพื้นที่จ.ราชบุรี เพื่อช่วยลูกพรรคหาเสียงของ นายอภิสิทธิ์ ครั้งนี้ที่เป็นวันหยุดราชการ ได้ใช้รถที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จัดหาให้ และยังมีการใช้กำลังอารักขาทั้งทหาร และตำรวจ อย่างเต็มกำลังเหมือนเดิม