กกต.ตีมึน “ชายจืด” บินถก “นช.แม้ว” จัดปาร์ตี้ลิสต์ บอกต้องรอมีคนร้องเรียนก่อน ยันผู้ถูกถอนสิทธิ์โดนเฉพาะห้ามลงเลือกตั้ง อ้างพรรคอื่นก็มีพวกโดนแบนจุ้น ยัน รมต.ทำงานเกี่ยวกับเลือกตั้งต้องนำมาเป็นค่าใช้จ่าย
วันนี้ (13 พ.ค.) ที่ โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และ แกนนำพรรคเพื่อไทย จะเดินทางไปหารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาก่อการร้าย เพื่อให้ช่วยจัดอันดับ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคนั้น เป็นเรื่องที่ผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์การเลือกตั้งสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ว่า ตนไม่ขอเจาะจงว่าสามารถทำได้หรือไม่ เพราะเรื่องนี้ต้องมีผู้ร้องเรียนเข้ามายัง กกต.จึงจะสามารถสืบสวนสอบสวนตามขั้นตอนได้ ทั้งนี้ เมื่อมีผู้ร้องเรียนเข้ามาแล้ว ก็จะต้องสืบสวนสอบสวนเป็นกรณีไป ซึ่งการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ใช่การตัดสิทธิ์ทางการเมืองทั้งหมด แต่เป็นเรื่องตัดสิทธิ์เฉพาะการเลือกตั้งเท่านั้น อีกทั้งที่ผ่านมา ก็ยังมีหลายพรรคการเมืองที่มีผู้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเข้าไปมีร่วมงานด้วย ดังนั้นหากผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งทำอะไรที่เข้าข่ายผิดกฎหมายก็ต้องดูความ ชัดเจนของกฎหมายว่าห้ามสิ่งใดบ้าง
นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนเรื่องการรักษาความปลอดภัยผู้สมัครรับเลือกตั้งรวมถึงผู้ที่มีตำแหน่งทางการเมืองนั้น ตนเห็นว่า กกต.ไม่มีหน้าที่สั่งให้หน่วยงานใดดำเนินการทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับผู้สมัคร ซึ่งต้องแล้วแต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ใครมีอำนาจก็ต้องดำเนินการไปตามนั้น กกต.ไม่ก้าวก่าย อีกทั้งเรื่องนี้ยังไม่เข้าสู่การพิจารณาที่ประชุม กกต. ส่วนการจะเข้าข่ายเป็นการใช้ทรัพยากรของรัฐ หรือคิดเป็นค่าใช้จ่ายหรือไม่ ก็ต้องดูเหตุผลเป็นเรื่องๆ ไป จะมาฟันธงไม่ได้ เพราะผู้สมัครบางคนสวมหมวกหลายใบ แต่หากเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งก็ต้องคิดเป็นค่าใช้จ่ายด้วย
นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการรณรงค์ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนในช่องไม่ประสงค์จะลงคะแนน หรือโหวตโน ว่า กฎหมายได้ให้สิทธิ์ประชาชนในการลงคะแนน เมื่อมีความเห็นอย่างไรก็เลือกอย่างนั้น ตนในฐานะ กกต.ถือเป็นคนกลางพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะการให้ความเห็นไปถือว่าไม่เหมาะสม กกต.มีหน้าที่รณรงค์ให้ประชาชนมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ส่วนประชาชนจะลงคะแนนอย่างไรต้องเคารพประชาชนตัดสินใจ
