“ศิริโชค” เผย แม่ได้ประกันตัว 5 แสนบาท เตรียมฟ้องกลับ “มนตรี” ข้อหาแจ้งความเท็จ และปลอมลายเซ็น แจงหมายเรียกให้ไปขึ้นศาลในวันที่ 3 พ.ค.แต่หมายมาไม่ถึงบ้าน แม่จึงไม่ทราบเรื่องจนเป็นที่มาของการจับกุม ชี้ เป็นเรื่องผิดปกติ เพราะเพิ่งผ่านมาเพียง 3 วัน พร้อมโต้กลับ “มนตรี” เป็นผู้ทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเจ้าหนี้ปล่อยกู้นอกระบบ คิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน
วันนี้ (7 พ.ค.) นายศิริโชค โสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มารดาของตัวเอง คือ น.ส.เสาวรส โสภา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดอนเมือง จับกุมข้อหาฉ้อโกง นายมนตรี สิหนาทกถากุล ที่สนามบินดอนเมือง ว่า แม่ของตน และ นายมนตรี ซึ่งเป็นเจ้าของคอกม้าแห่งหนึ่ง และเป็นญาติกับเจ้าของโรงแรมแลนด์มาร์คนั้น รู้จักสนิทสนมกันมานานแล้ว
ทั้งนี้ มารดาของตนได้ยืมเงินจากนายมนตรี จำนวน 10 ล้านบาท เพื่อนำไปหมุนเวียนใช้จ่ายในการทำธุรกิจ โดย นายมนตรี คิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน หรือร้อยละ 120 ต่อปี เป็นการกู้เงินนอกระบบ ซึ่งแม่ของตนไม่ได้ติดใจอะไร และไม่ได้ทำหนังสือสัญญากู้ยืม แต่ก็ชำระเงินคืนให้ และได้ขอยืมเงินอีก แต่เมื่อนายมนตรี เห็นว่า คุณแม่เริ่มจะไม่สามารถจ่ายเงินคืนได้ จึงอ้างว่า จะหาเจ้าหนี้รายใหม่ให้ยืมเงิน 10 ล้านบาท เพื่อนำมาจ่ายคืนนายมนตรี และแม่ของตนจะได้เงินเพิ่มอีก 5 ล้านบาท โดยให้แม่ของตนขอยืมเพชรที่มีราคาประมาณ 5-6 ล้านบาท จากเพื่อนมาเป็นหลักประกันแล้ว ซึ่งแม่ของตนเข้าใจว่าเขาจะให้ยืมเงินเพิ่มขึ้น และเขายังหลอกให้ทำสัญญาที่ทำให้จำนวนเงินต้นจากเดิม 10 ล้านบาท กลายเป็น 15 ล้านบาท แต่ นายมนตรี กลับนำเพชรดังกล่าวไป และไม่ให้เงินตามสัญญา ในที่สุดก็เกิดปัญหาถึงขั้นมีการฟ้องร้องต่อศาล
นายศิริโชค กล่าวอีกว่า นายมนตรี ได้พยายามใช้วิธีการบางอย่างเพื่อให้ศาลออกหมายเรียกแม่ไปขึ้นศาล ในวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่า หมายเรียกดังกล่าวมาไม่ถึงบ้านของตน แม่จึงไม่ทราบเรื่อง และไม่ได้ไปขึ้นศาลตามนัดในหมายเรียก ทั้งนี้ เมื่อ นายมนตรี สืบทราบว่า แม่เดินทางไปร่วมงานแต่งงานของญาติของนายมนตรี ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ก็ได้นำตำรวจจับกุมแม่ที่สนามบินดอนเมือง ในวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งที่ผ่านมาเพียง 3 วัน ซึ่งถือว่ามีความผิดปกติ
อย่างไรก็ตาม เมื่อตำรวจนำแม่ไปสอบปากคำที่ สน.ดอนเมือง แล้ว ก็เห็นว่า เรื่องนี้มีความผิดปกติ จึงยอมให้ยื่นหลักทรัพย์จำนวน 5 แสนบาท เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราวออกไป
“ในเช้าวันนี้ (7 พ.ค.) แม่ได้ไปให้การในชั้นศาล ซึ่งศาลวินิจฉัยว่ามันไม่มีอะไรเลย แต่น่าจะมีความผิดปกติ จึงให้ประกันตัวแม่ของผม ในวงเงิน 5 แสนบาท ซึ่ง นายมนตรี รู้สึกผิดหวังเพราะไม่สามารถทำให้แม่ของผมถูกจำคุกได้ จึงออกมาโวยวายโดยให้สัมภาษณ์ว่าคุณแม่อ้างชื่อผม และกล่าวหาว่า ผมโทรศัพท์ข่มขู่นายมนตรี ทั้งที่ นายมนตรี เป็นผู้ทำผิดกฎหมายเพราะเป็นเจ้าหนี้ปล่อยกู้เงินนอกระบบ คิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน อย่างไรก็ตาม เมื่อแม่ของผมสังเกตว่า เริ่มมีสิ่งผิดปกติก็ได้บันทึกการสนทนากับนายมนตรี เป็นวิดีโอ และบันทึกเสียงเพื่อใช้เป็นหลักฐานเอาผิดนายมนตรี นอกจากนี้ ยังมอบให้ทนายความเตรียมฟ้องกลับนายมนตรี ในข้อหาแจ้งความเท็จ และปลอมลายเซ็น แล้ว” นายศิริโชค กล่าว