โฆษกกองทัพภาคที่ 2 ยันเจรจาหยุดยิงไม่ไร้ผล ชี้ติดต่อพูดคุยได้มากกว่าเดิม ส่วนเหตุยิงประปรายเพราะทหารเขมรเกเร ไม่มีเอกภาพ คุมกันไม่อยู่ ย้ำรักษาอธิปไตยไม่ถอย
วันนี้ (30 เม.ย.) พ.อ.ประวิทย์ หูแก้ว โฆษกกองทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงเหตุปะทะในพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงกันว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดการปะทะประปรายตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ 3 เวลาประมาณ 20.00 น., 21.00 น. และ 05.00 น. โดยเป็นการปะทะด้วยอาวุธประจำกาย ซึ่งสาเหตุการปะทะเราวิเคราะห์กันว่าอาจเกิดจากทหารแตกแถว หรือทหารเกเรที่เขาควบคุมกันไม่ได้เพราะไม่มีความเป็นเอกภาพ หรือยังคับข้องใจที่สูญเสียจากการปะทะ ซึ่งผู้บังคับหน่วยทหารกัมพูชายังควบคุมกำลังพลของตัวเองไม่ได้
โฆษกแม่ทัพภาค 2 กล่าวอีกว่า โดยหลักการเจรจาทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่าหากเกิดการปะทะกันอีกให้ผู้บังคับการหน่วยในพื้นที่พยายามติดต่อกันเพื่อพบปะกันและคลี่คลายสถานการณ์ ซึ่งก่อนหน้าวานนี้ที่ยังมีเหตุปะทะกันเราได้ติดต่อไปโดยได้รับแจ้งจากทางพื้นที่ของเขมรว่าการติดต่อสื่อสารกันภายในของเขายังไม่ทั่วถึง ทำให้ยังไม่ทราบคำสั่งจากเบื้องบน ซึ่งเขาก็ขอโทษเรามาแล้ว แต่วันนี้ที่ยังมีปะทะก็คงอ้างกันแบบนี้ไม่ได้แล้ว ทั้งนี้ยังไม่ถือว่าการเจรจาหยุดยิงล้มเหลว เพราะก่อนหน้าการเจรจาในพื้นที่ปะทะกันรุนแรงมาก ขณะนี้เหลือเพียงอาวุธประจำกาย รวมทั้งเมื่อเกิดอุบัติเหตุปะทะกันขึ้นก็ยังสามารถติดต่อเจรจากันในระดับพื้นที่ได้ ทั้งที่ก่อนหน้าติดต่อกันไม่ได้เลย อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุปะทะอีกก็ต้องตอบโต้ไปตามสถานการณ์เพื่อรักษาอธิปไตยเต็มความสามารถอยู่แล้ว