กมธ.ต่างประเทศ สภาฯ แนะรัฐบาลไทยต้องใช้การเจรจาหยุดสร้างสงครามกับทางกัมพูชา ติงกองทัพไม่ต้องเน้นการให้ข่าวแต่เป็นการเน้นการปฏิบัติเป็นหลัก หนุนกลาโหมเบนหัวเข้าหาจีนเพื่อเป็นตัวแทนกลางในการเจรจาที่ดีได้
วันนี้ (27 เม.ย.) ที่รัฐสภา นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศของรัฐสภา เปิดเผยผลการประชุมของคณะ จากการเชิญ อธิบดี กรมเอเชียตะวันออก รองผู้ว่าจังหวัดสุรินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม เจ้าหน้าที่กรมแผนที่ทหาร กรมยุทธศาสตร์ และรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยภายหลังจากการหารือกัน ที่ประชุมได้ลงมติ คือ ต้องการให้ปัญหาความขัดแย้งอยู่ในกรอบการพูดคุยให้ได้มากที่สุด เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามมีความพยายามที่จะนำพาเหตุการณ์ไปสู่เวทีของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือ UNSC ยุติความรุนแรงและไม่ยกระดับความขัดแย้ง ทั้งนี้ ทางคณะกรรมาธิการไม่เห็นด้วยที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะประกาศภาวะสงคราม รวมไปถึงการไม่เห็นด้วยที่จะมีการประกาศกฎอัยการศึก โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ กทม. โดยขอให้ทหารระมัดระวังการกำหนดจุดยุทธศาสตร์ที่แน่นอน โดยไม่กระทบต่อพลเมืองของทุกฝ่าย
นายต่อพงษ์กล่าวต่อว่า ทางคณะยังไม่เห็นด้วยกับการยั่วยุไม่ว่าจะมาจากฝ่ายใดก็ตาม ทั้งนี้ตนยังวอนขอสื่อให้ระวังในการตั้งคำถามที่ไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง ท้ายที่สุดทางคณะกรรมาธิการขอแสดงความห่วงใยไปยังประชาชนในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ทหารที่กำลังปฎิบัติงานในพื้นที่ นอกจากนี้ ทางคณะกรรมาธิการยังมีแนวโน้มที่จะลงพื้นที่ด้วย
ทั้งนี้ นายต่อพงษ์เห็นว่าทางการของไทยมีความได้เปรียบกว่าทางกัมพูชาในทุกด้าน และกรณีที่บางข่าวระบุว่าทางกัมพูชามีกองกำลังและอาวุธจำนวนมากนั้น ก็เพื่อที่จะเป็นการประโคมข่าว ซึ่งย้ำว่าทางการไทยจะต้องไม่เน้นการให้ข่าวแต่เป็นการเน้นการปฏิบัติ ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเดินทางไปที่ประเทศจีนในวันนี้นั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะทางประเทศจีนอาจจะเป็นตัวแทนกลางในการเจรจาที่ดีได้