ปชป. เย้ย เพื่อไทยหมดท่า ลอกนโยบาย ต่อยอดหวังเกทับ เชื่อ "ยิ่งลักษณ์" ผู้นำตัวจริง หลังได้รับไฟเขียวให้โชว์บทบาท หวังเดินแผนนำพี่ชายกลับประเทศโดยไม่ต้องรับผิด ย้อนถาม "เจ๊ปู" หากได้เป็นนายกฯจะทำอะไรงานแรก ฉะ "ทักษิณ" เรียกร้องต่างชาติแทรกแซงเลือกตั้ง ถือเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศไทย
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นโยบายพรรคเพื่อไทยที่มีการแถลงในวันนี้ เป็นนโยบายที่สอดคล้องกับพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยแถลงมาก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถไฟความเร็วสูง การปรับเงินเดือนทุกสาขาอาชีพ นโยบายเพิ่มค่าแรงร้อยละ 25 ที่พรรคเพื่อไทยแถลงนโยบายให้เป็นค่าแรงวันละ 300 บาท จึงขอเรียกนโยบายของพรรคเพื่อไทยนี้ว่า นโยบายลอกต่อยอดเกทับ จึงจะเหมาะสม
นายเทพไท กล่าวว่า จากความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยที่ผ่านมา ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ สนับสนุนให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหรือแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยอย่างชัดเจน โดยต้องการให้น้องสาว ออกมาแสดงความเป็นผู้นำให้เห็นบ้าง เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยเห็นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมืองใดๆ มาก่อน ที่น่าแปลกใจคือ การเปิดตัวผู้สมัครและแถลงนโยบายพรรค กลับเป็น พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มาเป็นประธาน
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึง การเปิดตัวนโยบายของพรรคเพื่อไทย ว่า พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการตัดสินอยู่ที่ตัวผู้นำมากกว่านโยบาย โดยพรรคเพื่อไทยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็เพื่อนิรโทษกรรมให้กลุ่มเสื้อแดง และให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กลับประเทศ ต้องถามไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า สิ่งแรกที่จะทำหากได้เป็นนายกฯ คืออะไร และการที่พรรคเพื่อไทยยังให้ 2 แกนนำ นปช.ที่ปราศรัยจาบจ้วงลงสมัคร ส.ส. เพราะหวังให้ได้เอกสิทธิ์คุ้มครองหรือไม่
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า จากการติดตามนโยบายของพรรคเพื่อไทย เป็นที่ชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กล้าหาญประกาศนโยบายแบบลอกทั้งดุ้น โดยไม่อาย โดยเปลี่ยนแต่ชื่อนโยบาย แต่รายละเอียดมีการลอกมาทุกอย่าง ถือเป็นความกล้าลอกโดยไม่รับผิดชอบ เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงที่รัฐบาลนี้ได้ริเริ่ม และเจรจากับผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนสำเร็จไปแล้ว ส่วนนโยบายขนส่งมวลชน รัฐบาลนี้สามารถเดินหน้ารถไฟฟ้าได้แล้ว ขณะที่ ในปี 2544 พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศว่า สร้างรถไฟฟ้า 10 สาย ให้เสร็จในปี 2548 แต่จนบัดนี้ยังไม่มีการดำเนินการ
ส่วนกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ เรียกร้องให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นนั้น ก่อนหน้านี้กลุ่มเสื้อแดงได้พยายามเคลื่อนไหวให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาแทรกแซงจัดการเลือกตั้งแทนองค์กรอิสระ ซึ่งถือว่าเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือการเลือกตั้ง สอดรับกับการที่พรรคเพื่อไทยพยายามทำให้เชื่อว่ามีการทุจริตเลือกตั้ง เพราะจะได้เป็นข้ออ้างที่จะไม่รับผล ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าควรให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามามีส่วนร่วมในการสังเกตการณ์ได้ แต่ไม่ใช่แทรกแซงการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดขึ้นกับการตัดสินใจของ กกต.