โฆษกเพื่อแม้ว เรียกร้อง “พล.อ.ธีรเดช” ถอนตัวจากการเข้าชิงประธานวุฒิสภา ชี้ไม่เหมาะสม เนื่องจากอยู่ระหว่างถูกฟ้องคดีอาญา
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (22 เม.ย.) จะมีการลงมติ เลือกประธานวุฒิสภา ซึ่งมีการแข่งขันระหว่าง ส.ว.เลือกตั้ง กับ ส.ว.สรรหา โดยตัวแทนจาก ส.ว.สรรหา คือ พล.อ.ธีรเดช มีเพียร อดีตประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ตนในฐานะฝ่ายค้านที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ พบว่า พล.อ.ธีรเดช ได้ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด และถูกอัยการสูงสุดฟ้อง คดีในศาลอาญาข้อหากระทำการอันน่าจะทุจริตต่อหน้าที่ ในการขึ้นเงินเดือนให้กับตนเอง และพวก ในสมัยดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน
ซึ่งตนมองว่า ตำแหน่งประธานวุฒิสภา เป็นตำแหน่งที่สำคัญมากของฝ่ายนิติบัญญัติ โดยเป็นรองประธานรัฐสภาโดยตำแหน่ง และต้องผลัดเปลี่ยนเป็นประธานรัฐสภา ในการประชุมร่วมของสองสภาด้วย ซึ่งหมายความว่า เป็นประมุขหมายเลข 2 ของฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งเป็นหนึ่งในสามอำนาจหลักของการปกครองระบอบประชาธิปไตย ในระบบรัฐสภา วุฒิสภา มีอำนาจหน้าที่สำคัญหลายเรื่อง โดยเฉพาะเกี่ยวกับการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง รวมถึงการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ซึ่งสามารถให้คุณให้โทษแก่บุคคลเหล่านี้ได้
ดังนั้น การที่ พล.อ.ธีรเดช อยู่ในระหว่างถูกดำเนินคดีอาญา และในคดีลักษณะเดียวกัน ที่ศาลได้ตัดสินจำคุกอดีต กกต.4 ท่าน 2 ปี โดนรอลงอาญาไว้ก่อนนั้น ในขณะนี้ พล.อ.ธีรเดช จึงน่าจะไม่มีความเหมาะสม ที่จะดำรงตำแหน่งดังกล่าว
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า เพื่อความเหมาะสม พล.อ.ธีรเดช ควรแสดงสปิริต ถอนตัวจากการถูกเสนอชื่อ เข้าชิงเป็นประธานวุฒิสภา และเมื่อคดีของตนเองสิ้นสุดเมื่อไร ค่อยพิจารณาเสนอตัวอีกครั้งหนึ่งน่าจะมีความเหมาะสมมากกว่า ตนอยากขอเรียกร้อง ส.ว.ที่มาจากการสรรหา ที่พยายามจะผลักดัน พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ให้ทบทวนในประเด็นความเหมาะสมเรื่องนี้ด้วย และจะเป็นการเหมาะสมยิ่งกว่า ควรจะให้ ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั่วประเทศ ได้เป็นประธานวุฒิสภา ไม่ได้มาจากการสรรหา จากบุคคลเพียง 6 คน ไม่เช่นนั้นประชาชนจะมองว่า น่าจะมีการล็อกสเปก ล็อกเป้าเพื่อควบคุมวุฒิสภา เพื่อสืบทอดอำนาจและหวังผลทางการเมือง ของกลุ่มอำนาจเดิมหรือไม่ โดยไม่ฟังเสียงประชาชนเจ้าของประเทศ