นายกฯ สั่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้อย่างต่อเนื่องและเต็มที่ พร้อมติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เผยกรมอุตุฯ บอก 2-3 วันสภาพอากาศจะดีขึ้น แต่ก็ต้องดูความเป็นจริง ส่วนการปรับเงินเดือน ขรก.วันแรกหวังช่วยค่าครองชีพ ส่วนค่าแรงขั้นต่ำให้รอก่อน บอกภาคธุรกิจเริ่มเห็นด้วยแล้ว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทางภาคใต้ของไทยว่า พื้นที่ทางฝั่งอันดามันจะประสบภัยมากขึ้น แต่ขณะนี้เรากำลังจับตาบริเวณอ่าวไทยอีกครั้งหนึ่ง เพราะการพยากรณ์อากาศก็ยังไม่น่าวางใจ ทำให้พื้นที่กระจายไปกว้างขึ้น แต่ทางทุกหน่วยงานก็เร่งระดมกำลังกันอยู่ ตนต้องขอบคุณองค์กรต่างๆ และพี่น้องประชาชน ซึ่งเมื่อตอนที่ตนลงไปเยี่ยมในพื้นที่ ก็เห็นได้ชัดว่ามีประชาชนจำนวนมากและองค์กรหลายองค์กรที่เข้าไปสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า การตื่นตัวของประชาชนที่จะรับรู้เรื่องการเตือนภัย มีพัฒนาการที่ดีขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คิดว่าดีขึ้นเพราะว่าก่อนหน้านี้หลายคนอยู่กับประสบการณ์ในอดีต ฉะนั้นถ้าเกิดพื้นที่ไหนที่ไม่เคยประสบภัย ก็อาจจะนึกภาพไม่ออกว่ามีปัญหาหรือไม่ อย่างไร แต่เมื่อเหตุการณ์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ทำให้ความตื่นตัวและความระมัดระวังมีมากขึ้น
ส่วนในพื้นที่ภาคใต้ จะต้องอยู่กับสภาพอากาศที่ไม่ปกติแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า 2-3 วัน คือคำตอบล่าสุดที่กรมอุตุนิยมวิทยาให้กับตน แต่จะต้องติดตาม สถานการณ์ตามความเป็นจริง ขณะเดียวกัน การเข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ต่างๆ ก็ต้องดำเนินการต่อเนื่อง ส่วนการฟื้นฟูให้ประชาชนกับมาใช้ชีวิตปกตินั้น ก็แล้วแต่พื้นที่ พื้นที่ไหนที่มีการอพยพออกมา เพราะว่าไม่ปลอดภัย เมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้วก็สามารถกลับไปได้ แต่บางพื้นที่ที่มีความเสียหายในเรื่องของที่อยู่อาศัยก็ต้องมีการฟื้นฟูขึ้นมา
สำหรับตัวเลขของประชาชนที่สูญหายใน จ.กระบี่นั้น เมื่อวาน (31 มี.ค.) ในการรายงานตัวเลขมีการยืนยันว่า 6 คน ความจริงเมื่อวานนี้ก็พบอีก 1 คน ตนเข้าใจว่าได้มีการซักซ้อมกับผู้นำท้องถิ่น เพื่อที่จะตรวจสอบ ฉะนั้น ตัวเลขไม่น่าจะผิดมาก ซึ่งได้รับการยืนยันจากชุมชนในท้องถิ่นเอง
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงการปรับขึ้นค่าเงินเดือนของข้าราชการเป็นวันแรก จะกระทบต่อเศรษฐกิจหรือไม่ว่า เราหวังว่าจะช่วยพี่น้องข้าราชการและบุคลากรในภาครัฐ เพราะว่าค่าครองชีพสูงขึ้น เราจึงปรับขึ้นเพื่อที่จะให้สามารถเผชิญหน้าสถานการณ์ค่าครองชีพได้
ส่วนเรื่องของการปรับขึ้นค่าแรง แรงงานขั้นต่ำนั้น ขณะนี้กำลังพยายามทำความเข้าใจกันอยู่ เพราะว่าทางภาคธุรกิจเองได้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้แล้ว และแนวคิดตรงนี้ตนคิดว่าจะได้รับการยอมรับมากขึ้น อาจจะใช้เวลาหน่อย เพราะเรื่องขึ้นค่าแรงต้องเห็นชอบกัน 3 ฝ่าย