ที่ประชุมพรรคเพื่อแผ่นดิน ตั้งโจทย์ถาม รบ.เร่งจัดเลือกตั้งใหม่ แก้วิกฤตความขัดแย้งได้จริงหรือ เชื่อถึงขึ้นเอาเป็นเอาตาย อุบไต๋รวมพรรค “สุวัจน์” แย้มพรรคทางเลือกที่ 3 เกิดแน่ เพื่อเป็นการปลดล็อกการเมือง รับแตะมือ “สมศักดิ์-เสนาะ” ไว้แล้ว แต่ยังไม่ตกผลึก ฟุ้งเลือกตั้งรอบหน้าต้องมี “เพื่อแผ่นดิน” อยู่ในสารบบ
วันนี้ (29 มี.ค.) ที่พรรคเพื่อแผ่นดิน ถ.สุโขทัย ได้มีการประชุมพรรคประจำสัปดาห์ โดยมี นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง หัวหน้าพรรค เป็นประธานในที่ประชุม โดยภายหลังการประชุม นายชาญชัย เปิดเผยว่า ในที่ประชุมได้มีการพิจารณาหารือในวาระทั่วๆ ไป รวมไปถึงการวิเคราะห์ทิศทางการเมือง และการเตรียมความพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้ง โดยในเบื้องต้นได้กำหนดให้ว่าที่ผู้สมัครของพรรคในแต่ละพื้นที่เริ่มดำเนินกิจกรรมตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมได้มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการแบ่งเขตเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า มีความผิดปกติเกิดขึ้น เนื่องจากในบางจังหวัดที่ไม่มีการปรับลดเขตเลือกตั้ง กลับมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ในเขตเลือกตั้ง จึงมองได้ว่า อาจมีความพยายามให้เกิดการเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มการเมืองหรือพรรคการเมืองบางพรรค โดยเรื่องนี้ว่าที่ผู้สมัครที่ได้รับผลกระทบจะทำหนังสือเพื่อสอบถามถึงเหตุผลต่อ กกต.ต่อไป
นายชาญชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนการวิเคราะห์สถานการณ์การเมือง ยังมีความเห็นในทิศทางเดียวกัน ว่า การแข่งขันในสนามเลือกตั้งจะรุนแรง ซึ่งเป็นความต่อเนื่องมาจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่ยังคงอยู่มาถึง 7 ปีที่ผ่านมา ที่มีทั้งการรัฐประหาร การเลือกตั้ง และมีรัฐบาลมาถึง 3 ชุด แต่ความขัดแย้งในสังคมก็ยังคงดำรงอยู่ ไม่ว่าทางการเมือง เศรษฐกิจ หรือสังคม ซึ่งแม้จะมีการเลือกตั้งแล้วมีการจัดต้งรัฐบาลใหม่ ขั้วอำนาจเดิมๆ ก็ยังคงอยู่ และจะเต็มไปด้วยความต้องการในการทำลายล้างกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ดังนั้น จึงต้องมีพรรคการเมืองที่เป็นทางเลือกที่ 3 ซึ่งไม่ใช่คู่ขัดแย้งเกิดขึ้นเพื่อขันอาสาทำหน้าที่เพื่อให้บ้านเมืองสามารถไปต่อได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงให้เห็นว่า การเลือกตั้งก็ไม่สามารถขจัดความขัดแย้งในบ้านเมืองได้ นายชาญชัย กล่าวว่า ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขนั้น ต้องเป็นการปกครองสังคมที่มีความประนีประนอม มีความยืดหยุ่น ให้ความเคารพคู่แข่งขัน เสียงข้างมากในรัฐสภาก็ต้องเคารพเสียงข้างน้อย มิเช่นนั้นความขัดแย้งก็จะไม่จบสิ้น
“ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาล วัฏจักรความขัดแย้งก็ยังคงอยู่ เพราะมีความต่างกันทางความคิด คู่ขัดแย้งเป็นคนหน้าเดิมๆ ทั้งในระบบรัฐสภา และนอกสภา ซึ่งจะนำพาประเทศถอยหลังเข้าคลอง และทำให้การเลือกตั้งเต็มไปด้วยวิธีการที่สกปรก” หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าว
เมื่อถามต่อถึงความคืบหน้าในการควบรวมพรรคกับพรรครวมชาติพัฒนา ที่มี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นแกนนำนั้น นายชาญชัย กล่าวว่า ยังไม่เรียบร้อยดี แต่อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าจะต้องมีพรรคการเมืองที่เป็นทางเลือกที่ 3 ให้กับประชาชนเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
นายชาญชัย ยังได้กล่าวถึงกระแสข่าวที่จะมีกลุ่มการเมือง อาทิ กลุ่มมัชฌิมา ของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และกลุ่มวังน้ำเย็น ของ นายเสนาะ เทียนทอง เข้ามาร่วมงานกับพรรคเพื่อแผ่นดิน ว่า ยอมรับว่า มีการไปมาหาสู่กันบ้าง โดยทั้ง นายสมศักดิ์ และ นายเสนาะ ก็ถือเป็นผู้อาวุโสทางการเมืองที่ให้ความเคารพกันอยู่ ซึ่งที่ผ่านมา ก็มีการประสานขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดการร่วมงานทางการเมืองกันบ้าง เพียงแต่ยังไม่สรุปออกมา เพราะในทางการเมืองมักมีการรวมตัวกันหลายสูตร ซึ่งขณะนี้ยังไม่ตกผลึกดี
ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปยังจะมีชื่อพรรคเพื่อแผ่นดินอยู่ในสารบบหรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า ชื่อพรรคเพื่อแผ่นดินยังต้องมีอยู่ในประเทศไทย