xs
xsm
sm
md
lg

“ประพันธ์” ปลุกคนไทยลุกขึ้นกำจัดการเมืองที่ล้มเหลว ซัด “มาร์ค” ไร้คุณสมบัติแม้แต่ความเป็นคน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประพันธ์” ซัด “อภิสิทธิ์” ไม่มีคุณสมบัติแม้แต่ความเป็นคน เนื่องจากเคยด่าคนอื่นไว้สารพัดแต่พอตัวเองเป็นนายกฯกลับทำเลวยิ่งกว่า ชี้คนไม่มีสัจจะก็ไม่มีค่าของความเป็นคนแล้ว ย้ำคนไทยฝากความหวังไว้กับพรรคการเมืองไม่ได้อีกแล้ว ความหวังของประเทศขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนต้องกล้าลุกขึ้นสู้กำจัดการเมืองที่ล้มเหลว ร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศ กำจัดนักการเมืองเลวให้พ้นแผ่นดินไทย

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายประพันธ์ คูณมี”  

วันนี้ (15 มี.ค.) นายประพันธ์ คูณมี โฆษกการชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน ขึ้นกล่าวบนเวทีว่า วันนี้นายอภิสิทธิ์ไม่มีคุณสมบัติ แม้แต่เป็นคนยังไม่ได้เลย ตนไม่ได้พูดเกินจริง เพราะนายอภิสิทธิ์เคยต่อว่าคนโน้นคนนี้สารพัด แต่มาวันนี้ตัวเองกลับทำเลวยิ่งกว่า คนไม่มีสัจจะ ไม่มีศีล  ไม่มีจริยธรรม ก็ไม่มีค่าของความเป็นคนแล้ว เรื่องอำมหิตนี่ก็โคตรอำมหิตขนาดปราบคนเสื้อแดงตายไปมากมาย ยังจะมาเล่นงานพี่น้องพันธมิตรฯ อีก

นายประพันธ์กล่าวว่า ตนเห็นอภิปรายฯ ในสภาวันนี้ เห็นพฤติกรรมนักการเมืองมาตลอดชีวิต เห็นพฤติกรรมพรรคการเมือง แม้แต่พรรคที่เก่าแก่ที่สุด มันไม่แตกต่างกันเลย ไม่มีอะไรดี เมื่อวานพรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคภูมิใจไทย ไปทานข้าวร่วมกันและแถลงข่าวจับมือไว้ไปด้วยกัน มีนายบรรหาร นายเนวิน นายสมศักดิ์ นายอนุทิน เห็นนักการเมืองพวกนี้จับมือร่วมกัน ทำประหนึ่งว่าจะอาสารับใช้บ้านเมืองแก้ปัญหาให้ประชาชน เห็นแล้วเชื่อหรือไม่ว่าคนพวกนี้จะรับใช้ประชาชน เห็นแล้วเศร้าคงจับมือไว้ไปโกงกินด้วยกัน มันไม่มีอนาคตเลย

“ผมแปลกใจว่าทำไมคนมีการศึกษา มีความรู้  ในประเทศนี้ บางคนเป็นคนสังคมชั้นสูง แต่ยอมอยู่ใต้อุ้งตีนนักการเมืองเลวๆพวกนี้  อย่างไม่สะอิดสะเอียน ไม่ละอายเลย แถมสนับสนุนให้ลูกหลานไปเสพสังวาส กับนักการเมืองเลวๆ ที่ตัวเองเคยประณามไว้   ไม่รู้เลยคนไทยทั้งประเทศเห็นหน้านักการเมืองพวกนี้ก็สะอิดสะเอียนเต็มทีแล้ว คนแบบนี้หรือที่เราจะฝากบ้านเมืองไว้ ทำไมเราไม่จัดการพวกนักการเมืองชั่วออกจากแผ่นดิน และหาคนดีของเราขึ้นมาปกครองประเทศ มันถึงเวลาแล้ว หากยังปล่อยเป็นอย่างนี้ นักการเมืองแต่ละคน นายชวรัตน์ นายสุเทพ นายสุวัจน์ นักการเมืองทั้งหลายที่อยู่ในประเทศไทย ไม่มีใครที่พี่น้องจะฝากอนาคตไว้ได้เลย นี่คือปัญหาของชาติ” นายประพันธ์กล่าว

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า เอแบคโพลล์เผยผลสำรวจว่าประชาชน 58.6 เปอร์เซ็นต์  ไม่เลือกพรรคไหนเลย และไม่ออกเสียงอีก 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ สรุปก็คือ 70 กว่าเปอร์เซ็นต์ไม่ต้องการการเมืองน้ำเน่าสัปรังเคนี้  ขนาดเราออกมาสู้ แค่ให้เขาทำหน้าที่เขายังไม่สนใจเลย แถมยังจะมาปราบปราม เรื่องแบบนี้บอกยังไม่ทำแล้วเรื่องอะไรล่ะที่เลือกตั้งเข้ามาแล้วจะทำ  เลือกเข้ามาแล้วไม่ฟังเสียงประชาชน จะเอาไว้ทำไม

นายประพันธ์ยังกล่าวอีกว่า ประเทศที่เทียบกับเราได้ดีที่สุดคือเกาหลีใต้ ซึ่งพัฒนาประเทศมาพร้อมๆ กับเรา  ในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ แถมมาดูงานที่ประเทศเราด้วย แต่วันนี้เกาหลีใต้แซงหน้าไทยไปไม่เห็นฝุ่นแล้ว และที่แซงประเทศไทยไปได้ นั่นก็เพราะแก้ปัญหานัการเมืองได้  ใครทุจริตคนเกาหลีจะสู้ขับไล่อย่างถึงที่สุด นี่คือจุดเปลี่ยนของเกาหลี แต่ประเทศไทยเราดีกว่าทุกอย่าง ทั้งมีสถาบันสูงสุดที่เป็นที่เคารพรัก มีพื้นที่เพาะปลูกที่สมบูรณ์ หรือภูมิอากาศ ความพร้อมมีหมด แต่สิ่งที่แพ้คือยังแก้ไขปัญหาการเมืองที่ล้มเหลวไม่ได้ ปัญหาของเราคือนักการเมืองไม่มีคุณธรรม ไม่มีจริยธรรม เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง ความหวังของเราไม่ได้อยู่ที่พรรคอีกแล้ว แต่อยู่ที่พี่น้องประชาชน ที่จะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงการเมืองที่ล้มเหลวหรือไม่  ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นอย่างนี้ตลอดไป เลือกตั้งใหม่ก็ได้นักการเมืองโกงเข้ามาอีก

นายประพันธ์กล่าวว่า สิ่งที่จะได้มาต้องได้มาจากพี่น้องประชาชน จะต้องลุกขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศชาติบ้านเมืองร่วมกัน วันนี้ฟ้าเห็นดินเห็นเป็นพยาน  สิ่งที่พวกเราสู้ไม่สูญเปล่าแน่นอน ทุกคนต้องหลอมดวงใจเป็นหนึ่งเดียวกัน ยืนหยัดให้ถึงที่สุด สู้กับรัฐบาลอภิสิทธิ์ให้ถึงที่สุดว่าใครจะอึด จะทนกว่ากัน ตนเชื่อว่าพันธมิตรฯ ยืนบนอยู่จุดยืนที่ถูกต้องที่สุด ใครยืนในจุดยืนที่ไม่ถูกต้อง ต้องพ่ายแพ้ต่อพลังของประชาชน เราจะอยู่และสู้ร่วมกัน

คำต่อคำ “ประพันธ์ คูณมี”ปราศรัย

“สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรัก ยังอยู่กันหรือเปล่า กราบสวัสดีทักทายพี่น้องทางบ้านและที่อยู่ต่างประเทศด้วยครับ เรายังอยู่และยังสู้จนกว่าจะได้ชัยชนะใช่มั้ยครับ ไม่ว่าพายุฝน ลมจะแรงสักปานใด แต่ต้องยอมจิตใจกล้าหาญ กล้าต่อสู้ และทรหดอดทนของทุกท่าน ต้องยอมรับและกราบคารวะงามๆ ที่ตักของทุกคนที่อยู่ที่นี่ และที่ให้กำลังใจเราอยู่ทางบ้านด้วย

วันนี้ฝนตกแรงมากครับ ก็นึกว่าเวทีจะดำเนินการไม่ได้ด้วยซ้ำไป ผมมาและอยู่กับท่าน ไม่ได้ไปไหนนะครับ เมื่อเวทีเปิดก็รีบเข้ามา ก็ตั้งหลักอยู่แถวนี้ ไม่ได้ห่างจากเวที

พี่น้องที่เคารพรักครับ เมื่อกี้คุณอมรก็บอกว่า เป็นขวัญใจ เป็นที่รักของพ่อแม่พี่น้อง แต่ว่าอีกมุมหนึ่ง ทราบว่าทันทีที่ผมขึ้นเวที พี่น้องที่เคารพรักครับ จะมีคนชักดิ้นชักงอ ทนฟังไม่ได้ อุ๊ยกระเดียด หยาบคาย ไม่สุภาพ ไปด่านายกฯ ได้ไงว่ามึง โอ๊ยรับฟังไม่ได้ พวกผู้ดีตีนแดง ตะแคงตีนเดิน พวกแม่ยกทั้งหลายจะดิ้นตายพอเห็นหน้าประพันธ์ ผมก็รู้สึกว่า โอ้โห พอผมได้ยินคำนี้ ได้ยินอาการนี้ พี่น้องทันทีที่ได้ยินผมรู้สึกยังไง ผมรู้สึกมีความสุขที่สุดที่สามารถทำให้คนที่ยังงมงายนายอภิสิทธิ์ ชักดิ้นชักงอ จะเป็นจะตาย นี่คือความสุขของผม ผมไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ผมรู้สึกสมเพชและเวทนา ยังไปหลงรักคนที่ไร้สติปัญญา ไร้ความสามารถบริหารบ้านเมืองอะไรก็ไม่เป็นสักอย่าง ดีว่านามสกุลเวชชาชีวะเท่านั้น แต่ไม่มีความสามารถอะไรเลย สู้พี่น้องเราไม่ได้เลย

บริหารชาติบ้านเมืองก็ฉิบหาย พินาศ เสียแผ่นดิน โกงวินาศสันตโรจนไม่รู้เท่าไรแล้ว ยังงมงายอยู่ได้ ที่สำคัญไม่งมงายอย่างเดียวนะ สามารถเสพสังวาสกับนักการเมืองประเภทอย่างเนวินได้ บรรหารได้ สมศักดิ์ เทพสุทินได้ อนุทิน ชาญวีรกูล ได้ โอ้โห แล้วผู้ดีประเภทนี้สามารถคบกับคนพวกนี้ได้ บ้านเมืองบรรลัยมั้ยครับ

ไม่น่าเชื่อ เมื่อก่อนนี้ก็เกลียดเนวินเหมือนกัน เกลียดจะเป็นจะตาย ด่าเนวินไอ้นี่ไอ้นั่น ไอ้นั่นไอ้นี่ วันนี้ถ้าเกิดผมยอมลดตัวไปกอดกับอภิสิทธิ์ รับรองคนพวกนั้นจะยกยอปอปั้นผมเป็นพระเอกเลย จากที่เกลียดฉิบหายเลย กลายเป็นรักฉิบหายเลยครับ

ผมมีความสุขและไม่เคยเสียกำลังใจ ไม่เคยจิตตกเลยในการที่จะบดขยี้นายอภิสิทธิ์ให้สิ้นจากแผ่นดินไทย เพราะเขาไม่มีคุณสมบัติ จะเป็นคนยังไม่ได้เลยครับ นี่ไม่ใช่ผมพูดเกินความจริงนะครับ เป็นคนยังไม่ได้เลยคนอย่างนายอภิสิทธิ์นี่ ถามว่าผมพูดเกินจริงมั้ย ไม่จริงเลยครับ ไอ้ที่ด่าเขามาทั้งหมดอย่างที่คุณสนธิพูดน่ะ ทำเลวยิ่งกว่าเขา แล้วเป็นคนได้ยังไง คนที่ไม่มีสัจจะ มันก็คือไม่ใช่คนใช่มั้ยครับ

คนที่ด่าคนอื่นสารพัด พูดจาเอาดีใส่ตัว พอถึงเวลาตัวเองเป็นนายกฯ ทำชั่วยิ่งกว่าคนอื่น เป็นคนได้มั้ยครับ คนไม่มีสัจจะ ไม่มีศีล ไม่มีธรรม ไม่มีจริยธรรม มันก็ไม่มีค่าของความเป็นคนเท่านั้นเอง

แล้วความอำมหิตล่ะ ความอำมหิตกโคตรอำมหิตเลย ขนาดปราบคนเสื้อแดงตายไป 91 คนแล้ว ยังไม่พอ ยังคิดจะมาเล่นงานพี่น้องประชาชนคนพันธมิตรฯ ที่รักบ้านรักเมือง ไม่ชั่วไม่อำมหิต จะเรียกว่าอย่างไร ยังมีความเป็นคนอยู่หรือเปล่าพวกแม่ยกที่เลียแข้งเลียขานายอภิสิทธิ์ คุณไม่เห็นความชั่วของเขาเลยเหรอ คุณตาบอด งมงายขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วประชาชนที่มาอยู่นี่ ปกป้องชาติ ปกป้องแผ่นดิน แล้วพวกคุณนอนหลับไม่รู้ นอนคู้ไม่เห็น มุดหัวอยู่ในรู ถ้าชาตินี้อยู่ได้ แผ่นดินนี้อยู่ได้ กูก็มาชุบมือเปิบ เสวยเอาประโยชน์อย่างเดียว คนแบบนี้สมควรประณามมั้ยครับ

กับคุณวีระ กับคุณราตรี เขาก็อำมหิต ไม่เคยคิดจะช่วยเหลือเลย คนเป็นนายกฯ มีจิตใจต่ำกว่าประชาชนสามัญชนธรรมดา มันจะไปเป็นนายกฯ ได้ยังไงครับ ไร้ความสำนึก ไม่เคยคิดถึงหัวอกประชาชน ประชาชนเจ็บ ประชาชนตาย ประชาชนเดือดร้อนเรื่องข้าวยากหมากแพง ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย แล้วอย่างนี้จะมีความเป็นคนได้ยังไง ใช่มั้ยครับ ผมไม่พูดเกินความจริงนะครับ เพราะฉะนั้นคนอย่างนายอภิสิทธิ์นี่เป็นคนยังไม่ได้เลยครับ ไม่ใช่ว่าไม่มีสิทธิ์จะอยู่ในแผ่นดินนี้นะ ไม่มีสิทธิ์อยู่ในแผ่นดินนี้น่ะไม่มีสิทธิ์อยู่นานแล้ว แต่ไอ้ที่หมดคุณค่าความเป็นคนนั้น มันก็มาหมดตอนที่เวทีนี้ตั้งและฉีกหน้ากากออกมาให้เห็นนั่นล่ะ ความเป็นคนของนายอภิสิทธิ์ก็ไม่เหลือเลยแม้แต่น้อย

วันนี้ผมติดใจภาพการ์ตูนภาพนี้ ผมเลยเอามาฝากพี่น้อง วันนี้จะคุยไม่มาก เพราะว่าพี่สนธิยำใหญ่ไปแล้ว แต่ผมจะมีลูกแถมให้เท่านั้นเอง

นี่รูปใครครับตามการ์ตูนนี้ เขาบอกนี่รูปอภิสิทธิ์ นี่รูปพรรคเพื่อไทย ผู้นำพรรคเพื่อไทย เขาบอก มีคนชอบเรามากกว่ามันแค่ 1.1 เปอร์เซ็นต์ เองเหรอ นี่นายอภิสิทธิ์บริหารประเทศเก่งมั้ยครับ ขนาดพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่เป็นพรรคฝ่ายค้านมา ยังไม่เคยอภิปรายอะไร เพิ่งจะมาทำหน้าที่ฝ่ายค้านวันนี้ แล้วก็เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางการเมือง เผาบ้านเผาเมือง มีคนเจ็บคนตาย ตึกรามบ้านช่องเสียหายเยอะแยะ คะแนนนิยมตกขนาดไหนครับ พรรคเพื่อไทย ที่ไปยุ่งเกี่ยวกับการก่อการจลาจลเผาบ้านเผาเมือง คะแนนพรรคเพื่อไทยว่าตกแล้วนะ ยังมีความนิยมอยู่ 16.5 พรรคประชาธิปัตย์บริหารบ้านเมืองมา 2 ปี นึกว่าแน่ มีความนิยมอยู่ 17.6 เหนือพรรคเพื่อไทยแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ พรรคนี้ก็นึกว่าแย่แล้วนะครับ ความนิยมตกต่ำแล้ว ไอ้นี่ยังชนะเขาแค่ 1 แต้ม ยังหน้าด้านอยู่อีกเหรอครับว่าตัวเองบริหารเก่ง

แล้ววันนี้ ผมก็ว่าดีเหมือนกันที่พรรคเพื่อไทยเขาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล หลายสิ่งหลายอย่างที่เราพูดอยู่บนเวทีนี้ ได้ถูกนำไปพูดอยู่ในเวทีสภา แม้แต่สำนวนของนายมิ่งขวัญ ด่านายกฯ ว่าไงครับ "ท่านอย่ามาแหลกับผมนะ" นี่ก็เอาคำบนเวทีนี้ไปใช้ได้ผลแล้ว แล้วก็บอกว่า "เวลาท่านเป็นฝ่ายค้าน ท่านก็บอกว่าประชาชน 1 คน หรือประชาชน 1 แสนคน เราก็ต้องฟัง และให้ความสำคัญเหมือนกัน" ครับ นี่ก็เอาไปจากคลิปบนเวทีนี้เหมือนกัน

เรื่องฟิลลิป มอร์ริส เรื่องน้ำมันปาล์ม เรื่องทุจริตทั้งหลาย เวลานี้ถูกนำไปพูดเรื่องสินค้าราคาแพง นี่พรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ตั้งพรรคมายังไม่เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยเอาเรื่องความทุกข์ยากเดือดร้อน ปัญหาของชาวบ้านไปพูดเลย วันนี้พูดเป็นเหมือนกันครับ เพราะมันใกล้จะหาเสียงเลือกตั้ง ก็เลยต้องถล่มพรรครัฐบาลให้จมธรณี วันนี้ก็เลยรู้สึกทำการบ้านมาหน่อย ไหนๆ เมื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์แล้ว เราก็รับฟังเอาไว้ก็แล้วกันนะครับ เพราะว่าถึงเวลาเป็นรัฐบาลแล้ว มันจะเป็นเหมือนกันหรือเปล่า เพราะที่ผ่านมาทั้ง 2 พรรคก็เป็นรัฐบาลมาแล้ว แต่วันนี้ก็ฟังเขาไปแล้วกันว่าเขาจะทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายค้านที่ดูแลรักษาผลประโยชน์ของประชาชนจริงหรือเปล่า อันนี้เราก็แค่ฟังหูไว้หูก่อนนะครับ

แต่ว่าเมื่อกี้ที่พี่สนธิยำใหญ่นายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ไป เมื่อวานผมก็ยำไปแล้ว ผมก็เลยไม่อยากจะยำอีก แต่ว่ามีคนฝากกลอนมา ผมคิดว่ามันน่าจะตรงกับรัฐบาลและพรรคการเมืองในวันนี้ ซึ่งผมเห็นว่าเป็นบทกลอนที่สุดยอดมาก แล้วผมอ่านแล้ว ผมว่าใช้ได้เลยนะครับ คุณอมรจันทร์ มาโซกิ เข้าใจว่าเป็นคนญี่ปุ่นสัญชาติไทย วันก่อนก็มีคนญี่ปุ่นสัญชาติไทยบริจาคเงินมาเหมือนกัน

ท่านฝากบทกลอนของศรีมหานามะ ผมเข้าใจว่าคนเขียนไม่รู้ว่าจะเป็นคุณยอดธง ทับทิวไม้ หรือเปล่า แต่เขียนดีมาก ผมก็เลยเอามาฝากและสนับสนุนที่พี่สนธิพูดไปเมื่อกี้ แล้วเราจะเห็นธาตุแท้ของนักการเมืองวันนี้เป็นอย่างไร ท่านเขียนอย่างนี้ครับ

"ตัวกูคือรัฐ กูกิน กูกัด
กูอด กูอัด คดกิน โกงกิน
เลือกตั้งกูมา กูค้าแผ่นดิน
กูปล้น กูปลิ้น กูกอบ กูโกย
กูซื้อเสียงมา มึงอย่าโวยวาย
กูปล้น กูขโมย มึงอย่าพึมพำ
กูต้องถอนทุน ต้มตุ๋น กูทำ
ชั่วช้า สารยำ มันเรื่องของกู
ตัวกูคือรัฐ กูเจน กูจัด
ชำนาญ สันทัด โกงกินทำกิน
รู้แบ่ง รู้สรร จัดปัน ปล้อนปลิ้น
แบ่งปันกันกิน ตามหลัก ตามเกณฑ์"

นี่มันตรงกับนักการเมืองไทยเปี๊ยบเลยพี่น้องครับ มันตรงกับนักการเมืองไทยวันนี้ทุกพรรคเลยครับ ไม่เว้นแม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ ยังมีต่อนะครับ เขียนได้สมบูรณ์มาก บอกว่ายังมาบอกประชาชนด้วยนะ

"อย่าหอน อย่าเห่า พวกเจ้าเณรเถร
จงสู้กรรมเวร เมื่อเกิดเป็นไทย
พวกกู มือยาว กูสาว กูใช้
มือสั้น ตายไป มันเรื่องของมึง
กูเลือก ตั้งมา ดินฟ้าซาบซึ้ง
ให้กู เป็นหนึ่ง มากิน มากัด
ต้องกิน สารพัด ใต้ฟ้า บนดิน
บนฟ้า อากาศ พินาศ หมดสิ้น
กอบโกย มากิน เพื่อกู พวกกู
อย่ายุ่ง อย่าแหยม อย่าแพลม อย่ารู้
มันเรื่อง ของกู เป็นนักการเมือง
กูนักการเมือง ชั่วช้า ครบเครื่อง
มึงอย่าขัดเคือง มึงเลือกกูมา
กูทำหน้าที่ อัปรีย์ ต่ำช้า
หน้ากู ด้านหน้า ใครจะทำไม"

นี่สาธยายลักษณะของนักการเมืองไทยได้ครบถ้วนละเอียดหมดครับ ว่าพวกมันเป็นอย่างนี้ ตามที่บทกลอน "กู" ก็คือมันล่ะ ถ้าแปลตรงกลับไป เพราะฉะนั้นนักการเมืองพวกนี้ก็จะเป็นพฤติกรรมแบบนี้ ต้องยอมรับว่าคนเขียน ถ้าเป็นยอดธง ทับทิวไม้ ก็เขียนได้แบบว่า โอ้โห กระเทาะ กระแทก กระทั้น ชำแหละ ออกอย่างหมดเปลือกเลย ท่านเขียนตอนท้ายว่า ขอให้กำลังใจคุณประพันธ์ และพี่น้องพันธมิตรฯ ทุกคน จงสู้ต่อไป ล้างบางพวกมันให้หมดสิ้นไปค่ะ ปรบมือให้ท่านด้วยครับ

พี่น้องครับ ผมเห็นบทกลอนนี้ แล้วผมก็เห็นการอภิปรายการประชุมของสภาในวันนี้ เห็นพฤติกรรมของนักการเมืองมาตลอดชีวิตของผม และก็เห็นพฤติกรรมของพรรคการเมือง ไม่ว่าพรรคที่เก่าแก่ที่สุด 65 ปี ก็ตาม มันช่างไม่มีอะไรดี ไม่มีอะไรที่แตกต่างกันเลย และพี่น้องครับ เมื่อวานนี้พี่น้องจำได้มั้ย ที่มีพรรคการเมือง 2 พรรค ไปประชุมกัน ทานข้าวร่วมกันอยู่ที่โรงแรมสยามซิตี้ ทานข้าวเสร็จก็มาแถลงข่าว แล้วก็บอกว่า จับมือไว้เราจะไปด้วยกัน

จับมือไว้เราจะไปด้วยกัน มีใครบ้าง มีนายบรรหาร ศิลปอาชา มีนายเนวิน ชิดชอบ เท่าที่ผมเห็นในภาพ มีนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล และมีนักการเมืองพรรคภูมิใจไทย กับพรรคชาติไทยพัฒนา แต่ไม่เห็นพรรคนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แต่เอาเถอะพี่น้อง ถ้าเห็นภาพนักการเมืองพวกนี้มาทานข้าวร่วมกัน แล้วก็มาแถลงข่าว แล้วก็บอกว่าเขาจับมือไว้จะไปด้วยกัน ทำตัวประหนึ่งว่าเขาจะมาอาสารับใช้บ้านเมือง แก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติ ประชาชน พี่น้องครับ พี่น้องเห็นแล้วเชื่อมั้ยครับ เชื่อมั้ยว่าคนพวกนี้จะมาดูแลชาติบ้านเมือง รับใช้ประชาชน ผมเห็นแล้วผมเศร้าใจ เห็นแล้วผมอยากจะบอกว่า จับมือไว้ไปโกงกินด้วยกัน

มันไม่มีอนาคตเลย ผมถึงแปลกใจว่าทำไมคนที่มีการศึกษา มีความรู้ คนไทยในประเทศนี้ บางคนเป็นราชนิกูล เป็นคนที่มีสังคมชั้นสูง มีการศึกษาดี แต่ยอมอยู่ใต้อุ้งตีนของพวกนักการเมืองเลวๆ พวกนี้ ทำไมเขาไม่สะอิดสะเอียนเลย ทำไมเขาไม่ละอายเลย แถมไปสนับสนุนให้ลูกหลานตัวเอง ที่บอกว่าเป็นคนชั้นเดียวกับตัวเอง ไปเสพสังวาสทางการเมืองกับนักการเมืองชั่วๆ เลวๆ ที่ตัวเองเคยประณามอย่างไม่ละอายเลย

ไม่ได้รู้สึกเลยว่าคนไทยทั้งประเทศเขาสะอิดสะเอียนนักการเมืองพวกนี้จะอ้วกแตกอยู่แล้ว เห็นที่ไหนก็เบือนหน้าหนี คนอย่างนี้เหรอ น้ำหน้าแบบคนอย่างพวกนี้เหรอครับพี่น้อง ที่เราจะฝากบ้านฝากเมือง ฝากประเทศชาติให้เขาดูแล ทำไมพวกเราไม่ลุกขึ้นมาจัดการนักการเมืองชั่วพวกนี้ออกไปจากแผ่นดิน แล้วก็หาคนที่ดีของพวกเราขึ้นไปปกครองบ้านเมืองครับพี่น้อง นี่มันถึงเวลาแล้ว ถ้าเรายังยอมรับระบอบการแบบนี้ การเมืองแบบนี้อยู่ เราก็จะได้คนชั่วๆ เลวๆ ประเภทอย่างนี้ล่ะ มากอบโกย โกงกินบ้านเมือง

ดูน้ำหน้าสิครับ นี่ 4 คนผมไล่ไปแล้ว ชวรัตน์ ชาญวีรกูล เอามั้ย สุเทพ เทือกสุบรรณ เอามั้ย มีใครอีกล่ะ สุวัจน์ มีใครอีกครับ นักการเมืองทั้งหลายที่อยู่ในประเทศไทย ผมมองดูแล้วมันไม่มีใครที่พี่น้องจะฝากอนาคตไว้ได้เลยแม้แต่คนเดียวครับ นี่คือปัญหาของประเทศ นี่คือปัญหาของชาติ ผมถึงบอกว่า โพลที่ออกมาว่า 58 เปอร์เซ็นต์ เกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ คือไม่เลือกพรรคไหนเลย แล้วที่ไม่ออกเสียง เงียบๆ อีก 10 เปอร์เซ็นต์ ก็คือไม่สนใจใยดีกับการเมือง การเลือกตั้งเลย รวมแล้วก็ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ที่ไม่ต้องการการเมืองระบอบน้ำเน่าสัปปะรังเคนี้

เพราะฉะนั้นการเลือกตั้ง การเมืองในระบอบที่เล่นกันอยู่ในขณะนี้ จึงไม่ใช่การเมืองที่เป็นทางเลือก เป็นความหวังของพี่น้องประชาชน วันนี้พวกเราบนเวทีนี้ สู้กันแม้กระทั่งเรื่องอย่างนี้ เรื่องชาติ บ้านเมือง เรื่องแผ่นดิน เรามาบอก มาเรียกร้องให้มาทำหน้าที่ เขายังไม่สนใจใยดีเลย แถมจะมาปราบปรามประชาชนที่มาบอกให้รัฐบาลมาทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน รักษาผลประโยชน์ชาติ ผลประโยชน์ประชาชน

เพราะฉะนั้นเมื่อเรื่องอย่างนี้ เรามาบอกเขา เขายังไม่ทำแล้ว ผมถามว่าเรื่องอะไรล่ะ ที่เขาเลือกตั้งมาแล้วเขาจะมาทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์เรา มันก็จะเป็นอย่างบทกลอนที่พี่น้องได้ฟังไปเมื่อกี้ กูได้รับเลือกตั้งมาแล้ว กูจะโกง กูจะกิน กูจะกัด กูจะกิน กูจะปล้นแผ่นดิน ขายแผ่นดินอย่างไร ก็เรื่องของกู จะทำไม พวกคุณไม่มีสิทธิ์มายุ่งเกี่ยว เพราะกูเลือกตั้งมาแล้ว เพราะคำว่ากูเลือกตั้งมาแล้ว มันทำอะไรก็ได้ในแผ่นดินนี้ โดยไม่ฟังเสียงประชาชน แล้วเราจะเอามันไว้ทำไมครับ นี่คือปัญหาของชาติบ้านเมืองเวลานี้ ไม่ใช่เรื่องอื่นเลย

พี่น้องครับ ผมไปเที่ยวทั่วโลก ไปดูการพัฒนาประเทศต่างๆ มาหมดแล้ว ประเทศที่เทียบเคียงกับเราได้ดีที่สุด คือประเทศเกาหลี เกาหลีใต้ พัฒนาประเทศมาพร้อมกันระหว่างจอมพลสฤษดิ์ กับปัก จุง ฮี ประเทศไทยจอมพลสฤษดิ์ ตั้งสภาพัฒน์ ตั้งสภาวิจัย ระดมนักวิชาการ คนดี คนเก่ง เข้ามาในประเทศไทย สมัยนั้นไม่ว่า ดร.บุญชนะ อัตถากร อำนวย วีรวรรณ หลวงวิจิตรวาทการ พจน์ สารสิน ใครต่อใครที่เป็นคนมีความรู้ความสามารถ จอมพลสฤษดิ์ เอามาใช้เพื่อสร้างบ้านสร้างเมือง พัฒนาประเทศชาติ ตั้งสภาพัฒน์ เสนอแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 1 ฉบับที่ 2

เกาหลีใต้ก็เริ่มมาพร้อมๆ กับเรา แล้วเขาก็มาดูงานที่ประเทศเรา แต่วันนี้เกาหลีใต้แซงหน้าเราไปไม่เห็นฝุ่นแล้วครับ ที่เกาหลีใต้เขาแซงเราไปไม่เห็นฝุ่น นักวิทยาศาสตร์ ผู้มีความรู้ ปราชญ์ที่ปัก จุง ฮี เอามา มาพูดให้พวกเราฟังว่า เขามาพร้อมๆ กับประเทศไทย จริงๆ แล้วเขามาทีหลัง แล้วมาดูงานที่ประเทศไทยด้วยซ้ำไป แต่ที่เขาสามารถพัฒนาประเทศก้าวล้ำหน้าไปได้ เพราะเขาสามารถแก้ไขปัญหานักการเมืองโกง นักการเมืองทุจริตได้ นักการเมืองเกาหลีทำผิดวันนี้ จึงต้องไปโดดเขาตาย ไปผูกคอตาย แสดงสปิริตความรับผิดชอบครับ สำนึกทางการเมืองเขาสูงขึ้น เขาล้างระบอบการเมืองเก่า นักการเมืองชั่วจะถูกคนเกาหลีประณาม ขับไล่ และต่อสู้อย่างถึงที่สุด

ต่างชาติที่มาเอาเปรียบคนประเทศของเขา เขาจะสู้อย่างถึงที่สุด นี่คือจุดเปลี่ยนของประเทศเกาหลีครับ แล้วเขามาพูดให้พวกเรา แม้กระทั่งมาพูดที่ประเทศไทย เขาบอกว่าประเทศไทยดีกว่าเกาหลีทุกอย่าง ไม่ว่าภูมิรัฐศาสตร์ ที่ตั้งประเทศ ทรัพยากรแผ่นดิน คน มีความรู้ มีการศึกษา และสถาบันสูงสุดของชาติก็เป็นที่เคารพนับถือของพี่น้องประชาชน เกษตรกรพื้นที่เพาะปลูกก็มีมากมาย ทรัพย์ในดินสินในน้ำ ทางออกทะเลมีเยอะ ภูมิอากาศก็ดีกว่าเขา นักวิทยาศาสตร์ก็ไปจบเมืองนอกมา เป็นด็อกเตอร์เป็นพันๆ คน ความพร้อมมีหมด เหลืออยู่อย่างเดียวที่เขาบอกว่าคนไทยยังแพ้เขา และยังไม่สามารถก้าวข้ามไปได้ก็คือ ยังแก้ไขปัญหาการเมืองที่ล้มเหลวและเป็นตัวขัดขวางการพัฒนาประเทศไม่ได้ คือจุดนี้จุดเดียวครับ

เพราะฉะนั้น เขาพูดอย่างนี้ เป็นแต่เพียงเขายังไม่บอกผมเท่านั้นเอง เขาบอกว่าถ้าอยากจะให้เมืองไทยเจริญรุ่งเรือง ต้องให้ไอ้นักการเมือง 500 ไปโดดเขาตายให้หมด หรือให้มันไปจับแขวนคอ ผูกคอมันตายให้หมด ประเทศเจริญแน่ครับ

นี่คือปัญหาของชาติ ปัญหาบ้านเมืองของเราอยู่ที่นักการเมืองไม่มีคุณธรรม ไม่มีความซื่อสัตย์ ไม่มีความสามารถ ไม่มีความจงรักภักดี และซื่อตรงต่อประชาชน ไม่มีจริยธรรม คุณธรรม ไม่เห็นแก่ประโยชน์ของชาติบ้านเมืองและส่วนรวม เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนและส่วนพรรคเป็นหลัก

เพราะฉะนั้นวันนี้อนาคตและความหวังของบ้านเมืองของเราจึงไม่ได้อยู่ที่นักการเมือง อยู่ที่พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งแผ่นดินเท่านั้น ว่าจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนระบอบการเมืองเก่าที่ล้าหลังและเป็นอุปสรรคขัดขวางการพัฒนาประเทศนี้ หรือไม่ ถ้าท่านไม่ลุกขึ้นมา บ้านเมืองก็จะเป็นอย่างนี้อยู่ตลอดไปไม่มีที่สิ้นสุด เลือกตั้งใหม่ก็จะได้นักการเมืองชุดใหม่มาโกง มากิน มาทุจริต ไม่มีที่สิ้นสุด

พี่น้องครับ ผมได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง ก่อนจบแล้วกัน ขออ่านให้พี่น้องฟัง ทำไมผมอยากอ่านจดหมายฉบับนี้ เพราะมาถึงผมดูซองสิครับ ทั้งๆ ที่เปียก กว่าจะเดินทางมาถึงผม ฝากเพื่อน ฝากญาติพี่น้องมา มาจากไหนครับ มาจาก จ.สุรินทร์ นู่น มันทำให้ผมรู้สึกสะเทือนใจกับจิตใจของพ่อแม่พี่น้องและประทับใจอย่างยิ่งเลยว่า ไอ้ชนชั้นสูงที่มันไม่รู้สำนึก ไม่เคยคิดถึงหัวอกของประชาชน มันน่าขยะแขยงและน่ารังเกียจที่สุดสำหรับผม ไอ้ชนชั้นสูงที่เปิดทีวีดูผมแล้วยังไม่สำนึกในผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง วันนี้คุณพึงรู้ไว้ด้วยว่า ผมขยะแขยงและรังเกียจพวกคุณที่สุด

พี่น้องครับ เขียนมาเมื่อวันที่ 13 มีนาฯ 2554 สวัสดีครับคุณประพันธ์ คูณมี ผมได้ฝากเงินมากับอาจารย์จาก จ.สุรินทร์ มาบริจาคให้กับพันธมิตรฯ 500 บาท ดูสิครับพี่น้อง แม้เงินจะเปียก จะเก่า มากับซองเปียกๆ มันสะท้อนถึงจิตใจเสียสละของพี่น้อง ปรบมือให้เขาด้วย ว่าเขาห่วงบ้านห่วงเมือง ห่วงประเทศชาติเพียงใด ท่านเขียนมาอย่างนี้

ก่อนอื่นผมจะขอกล่าวย้อนหลังสักเล็กน้อย เมื่อก่อนผมชอบพรรคไทยรักไทยมาก ผมหวังว่าพรรคนี้จะทำให้บ้านเมืองมีความเจริญ มีความอยู่ดีของคนในชาติ พอเลือกตั้งครั้งหลังของพรรคไทยรักไทยได้ประมาณ 8-9 เดือน ผมก็หมดศรัทธาในพรรคนี้ เพราะว่าทักษิณเป็นคนหลงอำนาจ เอาแต่ใจตัวเอง ไม่ฟังเสียงใคร ผมคิดว่าคงไม่มีใครมาทำลายเขาได้ เพราะมองดูแล้วเขายิ่งใหญ่มากในตอนนั้น ผมคิดว่าสักวันหนึ่งคงจะมีผู้กล้ามาจัดการเขา และผมก็ได้บอกกับคนใกล้ชิดว่า สักวันหนึ่งทักษิณคงอยู่ประเทศไทยไม่ได้ ก่อนเกิดเหตุ 4-5 ปี พอทักษิณไปแล้ว สมัครมา ผมก็หวังว่าสมัครก็คงจะบริหารประเทศชาติไปสู่ความเจริญ แต่แล้วก็ผิดหวังอีก แทนที่สมัครจะขี่พรรคพลังประชาชน กลับให้พรรคพลังประชาชนขี่ ผมจึงคิดว่าทำไมบ้านเมืองเราจึงมีแต่คนเห็นแก่เงิน เห็นแก่อำนาจ โดยความคิดที่ต่ำช้า พอสมชายไปอีกคน ได้อภิสิทธิ์มา ผมก็มีความหวังว่า อภิสิทธิ์คงจะบริหารไปสู่ความเจริญได้ ใจจริงแล้วไม่หวังเท่าไร แต่ก็คิดว่าอภิสิทธิ์มีความรู้สูง บวกกับพรรคดี มีอดีตนายกฯ ชวน มีสุเทพ แต่แล้วก็ล้มเหลว ผมมองดูแล้วด้วยความเป็นธรรม ในสภาทั้งหมด ผมมองไม่เห็นดีเลยสักคน

ผมขอให้พันธมิตรฯ จงช่วยกันสร้างความดีให้มากๆ วันนี้มีหมื่น มีแสน วันหน้าอาจจะมีเป็นล้าน และหลายๆ ล้านคน เพื่อผดุงความเจริญให้ประเทศชาติต่อไป

สุดท้ายนี้ ขอให้พันธมิตรฯ ทุกคนจงมีแต่ความสุข ความเจริญ ปลอดภัยจากทุกข์ทั้งปวง

นายศิริ ชอบมี ต.เมืองที อ.เมืองสุรินทร์

พี่น้องครับ ผมคิดว่าเป็นจดหมายที่ผมประทับใจ สะเทือนใจ และดีใจ มีความรู้สึกอย่างบอกไม่ถูก พี่น้องรู้มั้ยประเทศไทยนี่ จังหวัดที่ยากจนที่สุดคือจังหวัดอะไรครับ จังหวัดอะไรที่เป็นจังหวัดที่ยากจนที่สุด พี่น้องรู้มั้ยครับ จ.สุรินทร์ ครับ ที่มีประชากรที่มีฐานะยากจนและมีรายได้น้อยที่สุด แต่จิตใจของท่านสูงเหลือเกินครับ ปรบมือให้ท่านด้วยครับ อุตส่าห์รวบรวมเงินมาบริจาคสนับสนุนมาตั้ง 500 บาท ผมคิดว่าด้วยหยาดเหงื่อแรงงานและความตั้งใจของท่าน มันอาจจะน้อยด้วยจำนวนหรือปริมาณก็จริง แต่มันสูง ล้ำค่า มันเป็นจิตใจที่สูงส่งและสูงเด่น ที่ประชาชนไทยทุกคนต่างมีความรู้สึกแบบนี้เช่นเดียวกัน ใช่มั้ยครับ

เราขยะแขยง เรารังเกียจนักการเมืองชั่ว นักการเมืองโกงทุกคนใช่มั้ยครับ เราอยากเห็นประเทศชาติเปลี่ยนแปลง สังคมเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่าวันนี้ใช่มั้ยครับ เราต้องการให้ประเทศชาติของเราหลุดพ้นจากอำนาจมืด อำนาจชั่วของนักการเมืองโกง ที่เห็นแก่อำนาจเงินและผลประโยชน์ส่วนตัวกันทั้งนั้น แต่แล้วเมื่อไรมันจะได้ล่ะครับ ถ้ารอแบมือขอ รอมาจากการเลือกตั้งแบบนี้ รอจนกว่างาช้างงอกออกมาจากปากสุนัข มันก็คงหาไม่เจอใช่มั้ยครับ สิ่งที่พี่น้องจะได้มามันต้องได้มาด้วยพลังของพี่น้องประชาชนที่จะต้องลุกขึ้นมาร่วมกันครับ วันนี้เราจะต้องลุกขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศชาติบ้านเมืองของเราร่วมกัน ผมเชื่อว่าการต่อสู้ของพวกเราที่นี่ วันนี้ ฟ้าเห็น ดินเห็น เป็นพยาน ไม่สูญเปล่าแน่นอน ขอให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนที่นี่ และทางบ้าน เราต้องผนึกหลอมดวงใจรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ครั้งนี้เราจะต้องยืนหยัดให้ถึงที่สุด และก็จะต้องต่อสู้กับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ให้ถึงที่สุด ดูซิว่าใครจะอึด ใครจะทน ใครจะหนักแน่นและยืนหยัดมั่นคงกว่ากัน

เราเชื่อมั่นว่า ด้วยจุดยืนที่เรายืนอยู่นี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว ใครที่ยืนอยู่บนจุดยืนที่ไม่ถูกต้อง ต้องพ่ายแพ้พลังของพี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน

วันนี้ผมตั้งใจไม่มาไม่ได้ เพราะพี่น้องตากแดดตากฝน ยืนหยัดอย่างเหนียวแน่น ผมต้องมายืนหยัดเคียงข้างกับพี่น้องประชาชน และมาให้กำลังใจทุกคน เราจะอยู่และเราจะสู้ร่วมกัน และพรุ่งนี้ผมก็จะต้องมาแต่เช้ามืด เพราะว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราก็ต้องคล้องแขนกันและยืนหยัดสู้จนถึงที่สุด

ให้มันรู้ไปว่าความดีงาม ความถูกต้องในแผ่นดินนั้นมันจะแพ้พ่ายอำนาจชั่ว อำนาจอธรรม เรายังมีความเชื่อมั่นว่าธรรมะย่อมชนะอธรรม ความดีย่อมชนะความชั่วอย่างแน่นอน ขอให้กำลังใจพี่น้องทุกคน สวัสดีครับ”
กำลังโหลดความคิดเห็น