“เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่” จี้ “ดีเอสไอ” เร่งสรุปผลสอบกรณีเหตุจลาจลที่แยกราชประสงค์ ก่อนวันเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ เกรงฝ่ายการเมืองดึงผลการสอบสวนไปแบล็กเมล์ระหว่างขั้วการเมืองจนทำให้เกิดความสับสน ชี้การปล่อยข่าวทหารไล่ยิงแก๊งแดงเผาเมืองอาจนำมาซึ่งสถานการณ์พิเศษ
วันนี้ (4 มี.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) กล่าวถึงการข่าวปล่อยและข่าวการให้ความเห็นกรณีการสอบสวนเหตุการณ์จลาจลที่แยกราชประสงค์ กำลังทำให้สังคมสับสนเพราะไม่รู้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่ข่าวปล่อยที่ออกมาจนไม่รู้ว่าใครผิดใครถูก ใครยิงใคร หรือใครเป็นโจทก์เป็นจำเลย ที่หนาหูในขณะนี้คงไม่ใช่แค่การปล่อยข่าวหรือสร้างกระแสก่อนเปิดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจเท่านั้น แต่ที่ผมเป็นห่วงก็คือ ผลสอบในเรื่องนี้อาจหลุดรั่วออกมา และตกไปอยู่ในมือของกลุ่มการเมืองจนอาจจะถูกนำไปใช้ต่อรองหรือแบล็กเมล์ทางการเมือง ซึ่งอาจเป็นการแบล็กเมล์ระหว่างนักการเมืองหรือพรรคการเมืองทั้ง 2 ขั้ว หรืออาจเป็นการแบล็กเมล์ระหว่างนักการเมืองกับกองทัพก็เป็นไปได้
เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่แสดงความเป็นห่วงว่า ผลสอบกรณีนี้เป็นเรื่องล่อแหลมเป็นความเป็นความตายของงานด้านความมั่นคงของประเทศ เกี่ยวข้องกับหลายฝ่ายทั้งรัฐบาล กองทัพ ตำรวจ ผู้ชุมนุม นปช. พรรคเพื่อไทย ชายชุดดำ และกลุ่มติดอาวุธก่อการร้าย มันโยงกันไปหมด และประชาคมโลกก็จับตารอดูอยู่เช่นกัน ถ้าการสอบสวนครั้งนี้ดีเอสไอตรงไปตรงมา ว่าตามหลักฐานข้อเท็จจริง อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เพราะต้องให้ความเป็นธรรมแก่คนตายและผู้ที่สูญเสียในเหตุการณ์ครั้งนั้น
“แต่ผมเป็นห่วงว่า ถ้ามีการใช้ดีเอสไอ หรือใช้ผลสอบที่น่าเชื่อถือของดีเอสไอไปเป็นเครื่องมือ ก็น่าเป็นห่วง ยิ่งถ้าผลสอบไปไกลถึงขั้นว่าทหารเป็นคนยิงใส่ผู้ชุมนุมในบางจุด ก็ยิ่งน่าคิดต่อว่ากองทัพอาจไม่สบายใจกับผลสอบนี้ จนอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ หรือทำให้เกิดสถานการณ์พิเศษทางการเมืองเกิดขึ้นก็เป็นไปได้” นายสุริยใสะกล่าว และว่า
กลุ่มการเมืองทั้งปีกรัฐบาลและฝ่ายค้าน อาจจะใช้ผลสอบดีเอสไอที่รั่วไหลออกมา ไปต่อรองแบล็กเมล์กองทัพเพื่อดึงเอากองทัพไปเป็นแนวร่วมทางการเมือง หรือเป็นตัวแปรในการจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งก็เป็นไปได้ จึงอยากเรียกร้องให้ดีเอสไอเร่งสรุปและแถลงผลสอบทั้งหมดอย่างละเอียดของจุดปะทะในแต่ละจุด ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อให้สังคมได้รับรู้ข้อเท็จจริง และป้องกันไม่ให้มีการใช้สภาฯ เป็นเวทีบิดเบือนและแบล็กเมล์กันจนไม่รู้ความจริงคืออะไร
