นายกฯ เชื่อเมื่อฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วรัฐบาลพร้อมจะชี้แจงในทุกประเด็น ย้ำเป็นหน้าที่ของ รมต.ที่ถูกจองกฐินไว้ล่วงหน้า ยอมรับทั้ง รบ.และฝ่ายค้านต้องหวังผลทางการเมืองในช่วงใกล้เลือกตั้งใหม่ ลั่น พท.ต้องเปิดเผยข้อมูลถอดถอนตาม รธน. ทำมึนถูกชำแหละ 2 สัญชาติ
วันนี้ (2 มี.ค.) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีญัติติการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า เป็นการยื่นของฝ่ายค้าน หน้าที่รัฐบาลคือการชี้แจง ซึ่งกำลังสอบถามอยู่ว่าทางสภาจะสมารถบรรจุญัตติได้เมื่อไหร่ เพราะช่วงบ่ายที่ผ่านมายังไม่ทราบความชัดเจน แต่ได้แจ้งไปว่าทางรัฐบาลพร้อม ส่วนกรณีที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ออกมาบ่นว่าเร่งมากเกินไปนั้น เราถือว่าเมื่อสามารถยื่นญัตติได้แล้ว ก็ต้องมีความพร้อมที่จะอภิปราย และจำได้ว่าเมื่อปี พ.ศ. 2551 รัฐบาลบอกล่วงหน้า 1-2 วัน ให้อภิปรายเลย เราก็ต้องอภิปราย เพราะถือว่าเมื่อยื่นญัตติแล้วก็ต้องพร้อมแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูจากญัตติ มีตรงไหนที่นายกรัฐมนตรี กังวลกับข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่มี ก็จะชี้แจงไป และรัฐมนตรีทุกคนที่ถูกอภิปราย โดยเฉพาะข้อหาที่พัวพันการทุจริตก็ต้องพร้อมที่จะชี้แจง เพราะคนทำงานต้องพร้อมรับการตรวจสอบและชี้แจง
เมื่อถามว่าช่วงจังหวะเวลาการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจใกล้กับการเลือกตั้งจะส่งผลต่อคะแนนนิยมของรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เชื่อว่าฝ่ายค้านคงหวังผลทางการเมือง แต่ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องใช้โอกาสนี้ในการชี้แจงเช่นเดียวกัน ซึ่งประชาชนสามารถที่จะรับฟังได้ เมื่อถามว่า คิดว่าเขาหวังผลแล้วจะได้ผลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ปฏิเสธว่า ไม่ทราบ ต้องแล้วแต่การอภิปราย
เมื่อถามว่า การยื่นถอดถอนที่บอกว่าให้มีการเปิดเผย มีการเปิดเผยหรือยัง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ถ้าไม่ทราบก็จะไม่ทราบได้ว่าญัตติถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะเวลาที่มีการอภิปรายในสภารัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดเจนว่า ถ้าเป็นเรื่องการทุจริตหรือการทำผิดกฎหมายจะต้องมีการถอดถอนด้วย และการถอดถอนต้องระบุพฤติกรรมให้ชัดเจน เหตุผลที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้อย่างนี้ เพราะไม่ต้องการให้มีการมากล่าวหากันลอยๆ จะต้องมีการพิสูจน์กันด้วย ในด้านหนึ่ง คือ เป็นการไม่ให้ฝ่ายค้านสามารถพูดอะไรโดยไม่มีหลักฐานในข้อหา ซึ่งเป็นข้อหาหนัก และอีกด้านหนึ่งเป็นการช่วยฝ่ายค้าน เพราะเขาเห็นว่ารัฐบาลมักจะมีเสียงข้างมาก ถ้าฝ่ายค้านมีข้อมูล ข้อเท็จจริงที่หนักแน่น หากเสียงข้างมากไว้วางใจกันไป ไม่ได้แปลว่าเรื่องจะผ่านไป คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ก็สามารถที่จะดำเนินการต่อได้ ฉะนั้น คิดว่ามันเชื่อมโยงกันชัดเจน ต้องให้เราทราบ
เมื่อถามว่า หากไม่เปิดเผยย่อมมีผลต่อญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะทำให้ไม่สมบูรณ์หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มี สมมติว่ามีการอภิปรายและเป็นเรื่องการทุจริต หรือเกี่ยวข้องกับการทำผิดกฎหมาย ก็ต้องตรวจสอบว่าตกลงยื่นถอดถอนไว้หรือไม่ หากฝ่ายค้านทำอย่างนี้จะทำให้เกิดปัญหาระหว่างการอภิปรายมากขึ้น แต่ไม่ทราบว่าเป็นเกมของฝ่ายค้านหรือเปล่า ต้องให้ประธานทั้ง 2 ท่านเป็นผู้วินิจฉัย
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านออกมาระบุว่ามีหลักฐาน นายกรัฐมนตรีใช้สิทธิสัญชาติอังกฤษ นายอภิสิทธิ์ทำหน้าเหมือนไม่อยากตอบ พร้อมกับกล่าวว่า “ฟัง รอฟังเขาก็แล้วกัน”