“ปฐมพงษ์” ชี้ไม่มีกฎหมายใดใหญ่ไปกว่า รธน. สั่งสลายชนะเร็ว ไม่สั่งความจริงจะฆ่ารัฐบาลเอง แนะ “มาร์ค” อยากอยู่อย่างมีเกียรติต้องลาออก อย่าให้คนชั่วขี่หลัง ด้าน “พิภพ” แนะ ผบ.ทบ. กลับไปทบทวนหน้าที่พลเมืองใหม่ ระบุโลกมันเปลี่ยนไปแล้วเป็นยุคที่ ปชช.มีส่วนร่วม ไม่ใช่ยุคเผด็จการทหาร
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” การเสวนา “ราชอาณาจักรไทยกำลังจะเสียดินแดน”
วันที่ 1 มี.ค.2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อดีตประธานที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวว่า ดีใจที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เอาใจใส่ต่อกฎหมาย หมายความว่าความรู้ความจริงที่เราให้ทุกวันนนี้ เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ความสำเร็จที่จะปกป้องแผ่นดินต้องสำเร็จในเร็วๆ นี้แน่นอน ที่บอกว่าชนะแน่นอนนั้น1.หากรัฐบาลสลายเมื่อไรเท่ากับเป่านกหวัด ผู้ชุมนุมจะมากันอย่างล้นหลามชนะอย่างรวดเร็ว 2.หากไม่สลายความรู้ที่เราให้จะแพร่ออกไปในที่สุดประชาชนจะเข้าใจ เราก็ชนะอยู่ดี เรามีสิทธิชุมนุมตามรัฐธรรมนูญมาตรา 63 รักษาผลประโยชน์ รักษาประเทศชาติ ตามมาตรา 70 และ71 เมื่อรัฐบาลไม่ทำหน้าที่ เราจึงมากดดันให้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์
“ทุกครั้งที่มีการยึดอำนาจ เกิดจากรัฐบาลไม่ทำหน้าที่ เมื่อประชาชนออกมากดดันแล้วรัฐบาลนิ่งเฉย ก็ต้องรัฐประหาร แต่ตนไม่แนะนำวิธีนี้ เพราะยังมีหนทาง คือการให้ข้อแนะอยากให้นายอภิสิทธิ์ ไปทบทวนจะอยู่ในประเทศไทยอย่างมีเกียรติ หรืออยู่ไม่ได้ในประเทศไทย เรายกย่องคนที่กลับตัวกลับใจ ลาออก ไม่ให้คนชั่วมาขี่หลัง เพื่อรักษาแผนดินไทย”
พล.อ.ปฐมพงษ์กล่าวว่า เข้าใจข้าราชการ น้องๆ ที่เป็นทหาร อึดอัดใจกับคำสั่งของข้าราชการ ที่ไม่รับผิดชอบต่อการสั่ง สิ่งที่ท่านจะต้องทำ คือเมื่อเขาสั่งอะไรมาให้เราพิจารณาไปยังผู้มีอำนาจว่าอะไรควร อะไรไม่ควรทำ ผบ.ทบ.เมื่อท่านสวมหมวกสองใบต้องพิจารณา ผู้ชุมนุมมีสิทธิชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ หากกฎหมายใดอยู่ภายใต้กองอำนวยการความมั่นคง ไม่สามารถใหญ่ไปกว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญ
ส่วนเรื่องเขาวิหาร เป็นที่แน่ชัดเมื่อเราเข้าไปไม่ได้ เขมรรุกคืบสร้างจานเรด้า สร้างถนน โดยพฤตินัยเราเสียพื้นที่ตรงนั้นแล้ว แต่รัฐบาลยังอับปัญญาแถไปเรื่อยว่ายังไม่เสีย การศึกษาที่สูงส่งไม่มีประโยชน์ ถ้าไม่มีจิตใจที่รักชาติ สำหรับกองทัพ ตนเคยพูดแล้วว่าอย่าให้เขมรยึด ภูมะเขือ หากเขายึดได้เราจะเอาคืนยากต้องตายเป็นร้อย
พล.อ.ปฐมพงษ์กล่าวต่อว่า กองทัพไทยต้องคิดเชิงรุกรักษาอธิปไตย จะคิดแค่พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรไม่ได้ ต้องมองไปถึงสนธิสัญญาที่ญี่ปุ่น เสียมราฐ พระตะบอง ศรีโสภน ของพวกนี้เคยเป็นของเราไม่ใช่หรือ ดังนั้นต้องคิดว่าเราจะทำอย่างไรให้เป็นเครื่องต่อรอง อย่างไรก็ดี ตนมั่นใจในความสามารถของ ผบ.ทบ. กองทัพรอสั่งการเท่านั้น เมื่อรัฐบาลสั่ง เชื่อกองทัพเอาคืนได้ภายใน 7 วัน ตนอยากให้ข้อคิด น้ำมันในสหรัฐอเมริกา จีน เขาก็มีแต่เขาสำรองไว้ไม่ใช้ ของเราถ้าไม่ขุดมาใช้ก็ไม่เสียหายเก็บไว้ให้ลูกหลานได้ นับวันมูลค่ามีแต่เพิ่มขึ้น เหมือนทองทำไม่เคยสูญค่า มีแต่แพงขึ้น
นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ที่พูดถึงผู้ชุมนุมว่า ใช้สิทธิแต่ไม่รู้จักหน้าที่ นั้น ผบ.ทบ. ต้องกลับไปทบทวน หน้าที่พลเมืองกับรัฐบาล ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อยู่ในระดับคงเส้น แต่จะเปลี่ยนไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เช่นในยุคจอมพลถนอม กิตติขจร จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จอมพลประภาส จารุเสถียร สอนให้ยอมรับการปกครองเผด็จการทหาร เป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ท่านไปอ่านวิชาหน้าที่พลเมืองในปีนั้นได้เลย
ผบ.ทบ.ต้องเข้าใจ การปกครองของไทยได้เปลี่ยนไปจากเผด็จการทหาร เป็นประชาธิปไตยครึ่งใบ จากครึ่งใบเปลี่ยนเป็นเต็มใบ จนในที่สุดได้ตีความว่านายกฯที่มาจาการเลือกตั้งเป็นประชาธิปไตยเต็มใบ แต่นายกฯที่มาจากการเลือกตั้ง ก็สามารถใช้ระบอบประชาธิปไตยเป็นเผด็จการประชาธิปไตยได้ เมื่อเกิดเผด็จการธิปไตย ประชาชนย่อมตีความคำว่าหน้าที่พลเมือง ไปตามสถานการการเมืองว่า ประชาธิปไตยแบบประชาชนมีส่วนร่วม มีส่วนกำหนด เรื่องนี้ ผบ.ทบ.ต้องยอมรับ แม้ประชาชนมีส่วนร่วม การเมือง การทหาร ก็ยังไม่โปร่งใส เมื่อความไม่โปร่งใสเกิด รัฐธรรมนูญทุกประเทศ เขียนประชาชนมีสิทธิชุมนุมในที่สาธารณะ อย่างสงบ สันติ และการชุมนุมในแต่ละประเทศความเข้มข้นแตกต่างกัน ตามความเป็นพิษทางการเมือง ประเทศไทยมีพิษทางการเมืองสูงมาก คอร์รัปชันอย่างมโหฬาร
