“สุเทพ” แนะอย่าเพิ่งโยงทหารชายแดนใช้อาก้าฆ่าช่างภาพยุ่น แนะดูพิสูจน์หลักฐานก่อน ไล่ไปถาม “ประยุทธ์” เอา ไม่เชื่อดีเอสไอสอบไม่น่าไว้วางใจ ยันมีข้อมูลแจงซักฟอก ไม่พูดคดีพลิก ต้องดูตามข้อเท็จจริง ชี้ไม่มีชาติไหนตั้งองค์กรขึ้นมาสอบคดีเดียว
วันนี้ (1 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่ผลสอบสวนของดีเอสไอระบุนักข่าวญี่ปุ่นเสียชีวิตเพราะถูกยิงด้วยปืนอาก้า แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ยอมรับทหารที่ใช้ปืนอาก้ามีเฉพาะที่อยู่ตามแนวชายแดน ซึ่งในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.53 รัฐบาลนำทหารตามแนวชายแดนเข้ามาช่วยรักษาความสงบในกรุงเทพฯ ว่า ตนคิดว่าประเด็นนี้อย่ารีบไปโยงกันให้เกิดความสับสน ต้องดูฝ่ายที่เขาพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่ก่อนว่าอะไรเป็นอะไร ถ้ามาถามอย่างนี้แล้วพูดจากันไปจะทำให้สับสนกันมากขึ้น เมื่อถามย้ำว่า ผบ.ทบ.พูดเรื่องดังกล่าวเองเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา นายสุเทพกล่าวว่า ก็ไปถาม ผบ.ทบ.ก็แล้วกัน
เมื่อถามว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และพล.ต.ท.อัมพร จารุจินดา อดีต ผบช.สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ในฐานะที่ปรึกษาดีเอสไอ ต้องพูดไปในทางเดียวกัน ซึ่งโดยข้อเท็จจริงแล้วอาวุธปืนอาก้ามีใช้ในกองทัพบกทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นหน่วยทหารพราน หน่วยศูนย์สงครามพิเศษ นายสุเทพกล่าวว่า ตนตอบทุกเรื่องอย่างนี้ไม่ได้ เพราะไม่ทราบจริงๆ ว่าที่ไหนเป็นอย่างไร คงต้องไปถามคนที่เขาทราบเรื่องในแต่ละด้าน เมื่อถามว่า แต่มีการมองว่าพฤติการณ์ของดีเอสไอไม่ค่อยน่าไว้วางใจ เนื่องจากมีการเปิดเผยผลการสอบสวนกรณีการเสียชีวิตของนักข่าวช่างภาพญี่ปุ่นแบบพลิกไปพลิกมา ไม่ตรงไปตรงมา นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เชื่อว่าเป็นอย่างนั้น ตนเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่จะทำตามหน้าที่ของเขาและรัฐบาลนี้จะไม่เข้าไปกดดันบีบบังคับเจ้าหน้าที่ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ต้องเป็นอย่างนั้น เรื่องที่ทำมันเป็นเรื่องที่เป็นหลักฐาน ไม่ใช่คดีที่จบลงวันนี้พรุ่งนี้ ใครทำอะไรไม่ถูกต้องก็ต้องเป็นเรื่องในวันข้างหน้า
เมื่อถามว่าท่านจะขอข้อมูลนี้จากดีเอสไอไปใช้ชี้แจงในสภาด้วยหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ถ้าเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับผู้ชุมนุม ตนก็รวบรวมไว้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เพราะดูแลเรื่องนี้ด้วยตนเองมาตั้งแต่นต้นก็เก็บรวบรวมข้อมูลไว้ เพราะรู้ว่าต้องรายงานต่อสภา และ ป.ป.ช. เพราะมีคนไปยื่นร้องต่อ ป.ป.ช.อยู่แล้ว เมื่อถามว่าหากคดีพลิกว่าทหารไม่ได้เป็นคนยิงช่างภาพญี่ปุ่น ก็จะทำให้การชี้แจงได้ง่ายขึ้น นายสุเทพกล่าวว่า ไม่พูดว่าถ้ามันจะพลิกหรือไม่ เอาตามข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น
เมื่อถามว่า ทำไมจึงไม่ให้หน่วยงานที่เป็นกลางเข้าไปตรวจสอบ นายสุเทพกล่าวว่า มันไม่มีทางเป็นไปได้ ไม่มีประเทศไหนในโลกที่พอมีเรื่องเสร็จแล้วต้องตั้งองค์กรกลางขึ้นมาใหม่เพื่อทำคดีใหญ่คดีหนึ่ง ทุกประเทศก็ต้องมีตำรวจ มีฝ่ายสืบสวนสอบสวน และมีหน่วยพิเศษที่ถาวรอยู่แล้ว เช่น อเมริกา ก็มีเอฟบีไอ ของไทยก็มีดีเอสไอ ต้องว่ากันไปตามปกติ ส่วนที่มีการอ้างคดีนายห้างทอง ธรรมวัฒนะ อดีต ส.ส.กทม.ที่ไปจ้างผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาพิสูจน์หลักฐานนั้น เป็นเรื่องของคู่กรณีทั้งสองฝ่ายที่ไปจ้างผู้เชี่ยวชาญเอาเองเพื่อนำมาพิสูจน์กัน