“สุเทพ” ซัดแดงตามด่าคุกคาม “มาร์ค” แนะสังคมติเตียน ฉะ “ตู่-เด็จพี่” อย่าปัดความรับผิดชอบ ยันไม่จัดมวลชนสู้ อ้างชาวบ้านห่วงป่วนเลือกตั้ง ซัด “ไอ้เต้น” ไม่สำนึกหลุดคุก สวนกลับ พท.เล่นทั้งในและนอกสภา แนะให้มวลชนแดงติดคุกลงปาร์ตี้ลิสต์ให้หมด ปัดเข้าสภามาเพื่อถอนทุนการเมือง ยันไม่ได้พูดคว้า 250 ส.ส.
วันนี้ (28 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีคนเสื้อแดงตามขับไล่ต่อต้านนายกฯ ยังจะนำไปสู่การเลือกตั้งได้จริงหรือไม่ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ก.พ.มีคนเสื้อแดงไปรังควานนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพราะท่านไปที่สวนจตุจักรก็ไปหาเรื่อง และไปที่งานศพที่ จ.ปทุมธานี ก็ไปหาเรื่องไปโห่ไล่ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย เป็นพฤติกรรมที่หยาบคาบ เป็นการแสดงการคุกคาม ไม่ใช่วิถีทางประชาธิปไตย กลุ่มคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้รัฐบาลจัดให้มีการเลือกตั้งให้เร็ว รัฐบาลก็สนองตอบแล้วนายกฯ ประกาศชัดเจนว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด และพรรคประชาธิปัตย์ก็แสดงออกให้เห็นว่ากำลังเตรียมตัวพร้อมที่จะลงสู่สนามเลือกตั้ง
“ทางที่ดีที่สุด พรรคเพื่อไทยกับคนเสื้อแดงควรจะไปปรึกษาหารือกันดำเนินการต่อสู้ในวิถีทางแบบประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ไม่ใช่ใช้กำลังนอกสภาพร้อมๆ กับที่ส่งบางส่วนเข้ามาต่อสู้ในสภา อย่างนี้ไม่ใช่วิถีประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ผมอยากให้สังคมได้พิจารณาพฤติกรรมของคนเสื้อแดงเมื่อวานนี้ ผมอยากให้สังคมได้ตำหนิติเตียนพฤติกรรมของคนเสื้อแดง และคุณจตุพร พรหมพันธุ์ คุณพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ หรือหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยไม่ต้องมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะทั้งหมดที่ทำกันมาเกี่ยวข้องกันมาโดยตลอด สั่งการโดยกลุ่มคนเดียวกัน วางแผนร่วมกันเป็นขั้นตอนตลอด” นายสุเทพกล่าว
เมื่อถามว่า ในส่วนพรรคประชาธิปัตย์เองไม่มีการส่งสัญญาณควบคุมการออกมาตอบโต้บ้างหรือ เพราะระบอบประชาธิปไตยก็เหมือนกันคงจะให้ราบเรียบไม่ได้ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เหมือนกัน พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ออกมาต่อสู้นอกสภา เราต่อสู้ตามวิธีทางประชาธิปไตยตามระบบ ไม่มีการเอากำลังมาคุกคามใคร ไม่เอามวลชนปลุกระดมจัดตั้งมาทำให้เกิดความแตกแยกในบ้านเมือง
เมื่อถามว่า การที่ระบุว่าคนเสื้อแดงมีพฤติกรรมตามรังควานขับไล่นายกฯ จะกระทบทำให้การเลือกตั้งต้องล่าช้าออกไปหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ต้องพิจารณา ถ้าพฤติกรรมของคนเสื้อแดงยังเป็นอย่างนี้อยู่ ประชาชนทั้งหลายก็เป็นห่วงว่าบรรยากาศของการหาเสียงเลือกตั้งจะดีได้อย่างไร เดี๋ยวก็ไปมีเรื่องกันในสนามเลือกตั้ง เมื่อถามว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.ระบุว่าไม่ได้กังวลเรื่องการหาเสียง แต่กังวลว่าพรรคที่ชนะเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่งที่ไม่ใช่ประชาธิปัตย์จะไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ประชาธิปัตย์ยืนยันได้หรือไม่ว่าจะเปิดโอกาสให้ถ้าตัวเองไม่ได้อันดับหนึ่ง นายสุเทพกล่าวว่า ตนอยากให้สังคมได้ตระหนักว่านายณัฐวุฒิคือใคร เป็นแกนนำของคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นจำเลยของคดีก่อการร้าย นายณัฐวุฒินี่เองที่สั่งให้คนได้เตรียมที่จะเผาโน่นเผานี่บนเวทีมาก่อน วันนี้ได้รับการประกันตัวมา แทนที่จะสงบเสงี่ยมสำนึกว่าตัวเองได้รับความเมตตาต่อศาล ไม่ควรที่จะมาสร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองต่อ ก็ยังไม่หยุด ก็ต้องจับตาดูต่อไป
“ผมอยากจะเรียนให้คุณณัฐวุฒิได้สบายใจว่า พรรคประชาธิปัตย์อยู่มา 60 กว่าปี มีวัฒนธรรมทางการเมือง แล้วก็ยืนหยัดที่จะปฏิบัติการตามกติกาประชาธิปไตยอย่างเคร่งครัด ข้อสำคัญทางการเมืองในวันนี้เวลาจะเลือกนายกรัฐมนตรี เขาเลือกกันในสภา พวกคุณณัฐวุฒิเองนั่นแหละที่ไม่ยอมรับกติกา ตอนวันที่เลือกนายกฯ ในสภา สมาชิกส่วนใหญ่ลงคะแนนเลือกคุณสมัคร สุนทรเวช เลือกนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อย่างนั้นชอบใจเพราะฝ่ายตัวเองชนะ แต่พอเขามาเลือกคุณอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ก็ไม่ชอบใจ อ้างว่าไม่เป็นธรรม แสดงชัดเจน ไม่ต้องมาตีฝีปากว่ายอมรับหรือไม่ยอมรับ พวกผมปฏิบัติตามกติกาอยู่แล้ว
สิ่งที่พวกพรรคเพื่อไทย พวกคุณณัฐวุฒิและเสื้อแดงกำลังทำอยู่ถือว่าไม่เป็นไปตามกติกา เล่นทั้งนอกสภาในสภา เป็นผู้ต้องหาก่อการร้าย วันนี้หวังจะเข้ามาอยู่ในสภาลงสมัครเลือกตั้งระบบบัญชีสัดส่วนเพื่อจะเอาเอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครองตามกฎหมาย จะได้ไม่ต้องถูกดำเนินคดี น่าสงสารผู้ที่เดินตามคุณณัฐวุฒิ ไปแล้วต้องพลอยเป็นผู้ต้องหาไปด้วยอีกมาก ถ้าเพื่อไทยไม่ห่วงเฉพาะแกนนำก็ควรจะให้คนเหล่านั้นลงสมัครบัญชีรายชื่อให้หมดด้วย” นายสุเทพกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ท่าทีที่ท่านออกมาตอบโต้แบบนี้ ดูแล้วความสงบก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้ นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่ได้ตอบโต้ แต่ชี้แจงข้อเท็จจริง ถ้าปล่อยให้พูดอยู่ข้างเดียวและบิดเบือนออกทีวีช่องต่างๆ ปล่อยกันยาวเต็มที่ โดยที่ข้างตนไม่ชี้แจงข้อเท็จจริงเลย ประชนก็จะเชื่อและเข้าใจผิด
เมื่อถามถึงการที่พรรคประชาธิปัตย์เตรียมจะระดมทุนจากสมาชิกวีไอพีก่อตั้งสถานีเคเบิลทีวี เพื่อคอยตอบโต้ทางการเมือง นายสุเทพกล่าวว่า ตนได้ประชุมกับคนรุ่นใหม่ที่อาสาเข้ามาทำงานให้พรรค จึงเล่าให้ฟังว่าในฐานะเป็นเลขาธิการพรรคว่าการทำงานการเมืองต้องใช้เงินทุน ทรัพยากรด้านนี้ ที่แล้วมาจะเลือกตั้งเราต้องจัดงานเหมือนทอดกฐินหรือผ้าป่า แต่วันข้างหน้าเวลาคนรุ่นใหม่เข้ามาทำพรรคประชาธิปัตย์ก็อย่าไปท้อถอย มันมีโอกาสที่เราจะหาสมาชิกสัก 3,000 คนที่มีจิตใจอยากให้บ้านเมืองเดินหน้าไปในแนวทางประชาธิปไตยและศรัทธาในระบอบของพรรค เพียงแค่บริจาคเงินให้พรรคทุกเดือนๆ ละ 2 หมื่นบาท อย่างนี้พรรคก็อยู่ได้แล้ว และให้คน 3,000 คนนี้คอยสะท้อนเหมือนกับเป็นสภาที่ปรึกษาของพรรค เขาก็คงพอใจที่จะได้เป็นผู้สนับสนุนพรรคและได้มีส่วนร่วมตรวจสอบนโยบายของพรรค
เมื่อถามว่า แนวคิดดีแต่การถอนทุนคืนจากพวกนายทุนก็ยังมี แม้แต่นักการเมืองก็ยังถอนทุนจากในสภา นายสุเทพกล่าวว่า พวกตนไม่ได้ไปถอน เพราะไม่ได้ลงทุนกับเงินอย่างนั้น ที่ตนเสนออย่างนี้เพราะเห็นว่าน่าจะเป็นแนวทางที่ถูกต้องในทางการเมือง เมื่อถามว่า ในความเป็นจริงจะทำอย่างไรเพราะคนบริจาคเงินให้พรรคเป็นล้านก็ต้องหวังผลประโยชน์ นายสุเทพกล่าวว่า ทำไมมองอะไรในแง่ร้ายไปเสียหมด ตนกลับมองว่าถ้ามีคนจำนวนมากเข้ามามีส่วนร่วมในพรรค ช่วยกันควบคุมกำกับดูแล พรรคก็ยิ่งจะทำงานได้ดีขึ้น ทำทุกอย่างให้ดีขึ้นเรื่อยๆ มันก็ดีไป
เมื่อถามว่า ตัวเลข ส.ส.250 คนที่นายกรัฐมนตรีประกาศ พรรคประชาธิปัตย์มั่นใจได้อย่างไรว่าจะได้ นายสุเทพกล่าวว่า ตนยังไม่ได้พูดเลยว่าจะได้ 250 ที่นั่ง ตนพยายามจะให้สมาชิกพรรคของตนได้รับการสนับสนุนจากประชานให้มากที่สุด ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้เสียงข้างมาก เราก็จัดตั้งรัฐบาลได้ หรือถ้าเราสามารถรวบรวมเสียงพรรคร่วมรัฐบาลได้เราก็ตั้งรัฐบาลได้ ว่าไปตามกติกา จะมาถามตนว่าได้จากที่ไหนบ้างอย่างไร ตนคงไม่สามารถไปอวดโอ่อะไรได้ แต่จะพยายามทำงานให้เต็มที่ ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าเรามีความมุ่งมั่น มีอุดมการณ์ทางการเมืองอย่างไร
