โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อ “มานิตย์” กลับไปลงเลือกตั้งท้องถิ่น ไม่กระทบฐานเสียงชลบุรี ขอบคุณไม่กั๊กตำแหน่ง เชื่อหาคนแทนไม่ยาก อ้างคอการเมืองฟันธง “อภิสิทธิ์” คัมแบ๊กสมัยหน้าทำส.ส.แห่ร่วมพรรคเพียบ เชื่อ แกนนำแดงได้สิทธิพิเศษลง ส.ส.ในพรรค แนะชาวบ้านเลือกเอาคนสร้างชาติ หรือเผาเมือง
วันนี้ (25 ก.พ.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวการย้ายพรรคของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์บางคนนั้น ว่า ขณะนี้มีผู้แสดงท่าทีชัดเจนเพียงคนเดียว คือ นายมานิตย์ ภาวสุทธิ์ ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ที่บอกว่า อาจหยุดลงเล่นการเมืองระดับชาติครั้งนี้ โดยตั้งใจไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ซึ่งก่อนที่จะมาลงสมัครเป็น ส.ส.นายมานิตย์ แบ่งรับแบ่งสู้ กล้าๆ กลัวๆ ว่า จะลงสมัครเป็น ส.ส.ดีหรือไม่ แต่เมื่อวันนี้ได้แสดงเจตนาว่าจะไม่ลงสมัครต่อไป ก็คงไม่กระทบต่อฐานเสียงพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ จ.ชลบุรี
“ที่ผ่านมา กระแสของพรรคใน จ.ชลบุรี ดีมาโดยตลอด ผู้สมัครก็เป็นคนหน้าใหม่ ไม่เป็นที่รู้จักของประชาชน ก็สามารถยกทีมเข้ามาได้ทั้งจังหวัด แต่วันนี้ ส.ส.ของพรรคมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จัก ลงพื้นที่สม่ำเสมอ มีผลงานชัดเจน กระแสความนิยมรัฐบาลสูงกว่าครั้งที่ผ่านมา ก็คงไม่เป็นเรื่องยากที่จะรักษาพื้นที่ไว้ได้” นายเทพไท กล่าว
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส่วนการหาผู้สมัครมาทดแทน ก็ไม่ยากเหมือนกับครั้งที่ผ่านมา จากที่ตนเคยได้รับผิดชอบ จ.ชลบุรี ในการคัดเลือกผู้สมัคร หาผู้สมัครในนามพรรคยากกว่างมเข็มในมหาสมุทร วันนี้เมื่อมีที่นั่งว่างลง มีผู้สนใจเสนอตัวเข้ามามาก ถ้านายมานิตย์ จะหยุดลงสมัคร ส.ส.จริง ก็ต้องขอบคุณที่ได้แจ้งความประสงค์ เพื่อพรรคได้เตรียมตัวหาผู้สมัครใหม่ ดีกว่ามาแทงกั๊ก ปิดเงียบ จนถึงวันรับสมัครเลือกตั้ง และมาสละสิทธิ์ จนทำให้พรรคเสียโอกาส ไม่สามารถหาผู้สมัครได้ทัน วันนี้ ยอมรับว่า ยิ่งใกล้วันยุบสภาเลือกตั้งใหม่ จะมีการเคลื่อนไหวของส.ส.มากยิ่งขึ้น ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ถือว่า มี ส.ส.เคลื่อนไหวย้ายพรรคน้อยมาก แต่คนที่จะเข้ามาร่วมอุดมการณ์กับพรรคมีมากยิ่งขึ้น ยิ่งคอการเมืองฟังธงว่านายกฯจะกลับมาเป็นรัฐบาลรอบสองสูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อเทียบกับนายมิ่งขวัญ ก็ยิ่งทำให้ส.ส.ที่อยากสังกัดฝ่ายรัฐบาลก็จะไหลเข้ามาสังกัดพรรคมากยิ่งขึ้น
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกระแสข่าวแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกาศลงสมัคร ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย ว่า ก็เชื่อว่าจะได้รับสิทธิเป็นพิเศษ แม้จะมีการแก่งแย่งกันมากในพรรคก็ตาม เพราะพรรคเพื่อไทยต้องการฐานเสียงของคนเสื้อแดง ที่มีอยู่จำนวนหนึ่งไว้สนับสนุนและสร้างกระแสในช่วงการเลือกตั้ง ถ้าประกาศชัดก็จะได้มีความชัดเจนเสียทีว่าพรรคเพื่อไทยกับคนเสื้อแดง คือ พวกเดียวกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ แบ่งงานกันทำ แบ่งบทกันเล่น และไม่กล้ายอมรับความจริง เมื่อคนกลุ่มนี้ได้มาสังกัดพรรคเพื่อไทย แคมเปญการหาเสียงเลือกตั้งก็คงชัดเจนว่า ประชาชนจะเลือกเอาพรรคเผาบ้านเผาเมือง หรือจะเลือกพรรคคนสร้างบ้านสร้างเมืองมาบริหารประเทศเป็น