สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ยังยืนยันเจตนารมณ์ที่จะเปิดเวทีสื่อกลาง “ทางออกกรณีไทยและกัมพูชาในมุมมองสื่อ” แม้จะยังไม่ได้ตอบรับทั้งจาก รบ.และพันธมิตรฯ นัดผู้แทนสื่อมวลชนแสดงความเห็นแก้ขัด เสาร์นี้
วันนี้ (21 ก.พ.) นายกสมาคม และกรรมการสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการเดินทางไปพบตัวแทนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อเชิญผู้แทนทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมเวทีกลาง ซึ่งสมาคม พร้อมจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น เพื่อให้มีการสื่อสาร และให้ข้อมูลกับสาธารณะอย่างรอบด้าน บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง และเปิดให้แต่ละฝ่ายได้ตอบข้อซักถาม เพื่อสร้างความเข้าใจประเด็น ที่ยังไม่ชัดเจนในกรณีพิพาทเขตแดนไทยและกัมพูชา ปรากฏว่า ข้อเสนอของสมาคมยังไม่ได้รับการตอบรับอย่างเอกฉันท์จากทั้งสองฝ่ายในด้านรูปแบบที่สมาคมเสนอให้เป็นการคุยในเวทีเดียวกัน
ดังนั้น สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ยังยืนยันเจตนารมณ์ในฐานะองค์กรวิชาชีพด้านสื่อ ที่ต้องการให้มีพื้นที่กลางเพื่อให้สองฝ่ายหรือผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ได้ชี้แจงข้อมูลต่อสังคม และต่อสาธารณะอย่างรอบด้าน ซึ่งถือเป็นภารกิจและบทบาทหนึ่งของสื่อมวลชน เพราะเชื่อมั่นว่า ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้ประชาชนคนไทยตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง หากแม้จะมีความเห็นที่แตกต่าง ก็สามารถอธิบายเหตุผลประกอบและยอมรับความแตกต่างดังกล่าวได้ เพื่อนำไปสู่การแสวงหาทางออกของปัญหาร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม สมาคมเห็นความสำคัญของการต้องมีเวทีพูดคุยเพื่อให้ข้อมูลที่รอบด้านต่อกรณีข้อพิพาทดังกล่าวให้สังคมได้รับรู้ จึงกำหนดจัดเวทีเสวนา “ทางออกกรณีไทยและกัมพูชาในมุมมองสื่อ” โดยจะเชิญผู้แทนสื่อมวลชนที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญด้านไทยและกัมพูชามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและมุมมอง ในวันเสาร์ที่ 26 ก.พ.2554 เวลา 10.00-12.00 น.ณ อาคารสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย ถ.สามเสน ต่อไป
วันนี้ (21 ก.พ.) นายกสมาคม และกรรมการสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการเดินทางไปพบตัวแทนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อเชิญผู้แทนทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมเวทีกลาง ซึ่งสมาคม พร้อมจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น เพื่อให้มีการสื่อสาร และให้ข้อมูลกับสาธารณะอย่างรอบด้าน บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง และเปิดให้แต่ละฝ่ายได้ตอบข้อซักถาม เพื่อสร้างความเข้าใจประเด็น ที่ยังไม่ชัดเจนในกรณีพิพาทเขตแดนไทยและกัมพูชา ปรากฏว่า ข้อเสนอของสมาคมยังไม่ได้รับการตอบรับอย่างเอกฉันท์จากทั้งสองฝ่ายในด้านรูปแบบที่สมาคมเสนอให้เป็นการคุยในเวทีเดียวกัน
ดังนั้น สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ยังยืนยันเจตนารมณ์ในฐานะองค์กรวิชาชีพด้านสื่อ ที่ต้องการให้มีพื้นที่กลางเพื่อให้สองฝ่ายหรือผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ได้ชี้แจงข้อมูลต่อสังคม และต่อสาธารณะอย่างรอบด้าน ซึ่งถือเป็นภารกิจและบทบาทหนึ่งของสื่อมวลชน เพราะเชื่อมั่นว่า ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้ประชาชนคนไทยตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง หากแม้จะมีความเห็นที่แตกต่าง ก็สามารถอธิบายเหตุผลประกอบและยอมรับความแตกต่างดังกล่าวได้ เพื่อนำไปสู่การแสวงหาทางออกของปัญหาร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม สมาคมเห็นความสำคัญของการต้องมีเวทีพูดคุยเพื่อให้ข้อมูลที่รอบด้านต่อกรณีข้อพิพาทดังกล่าวให้สังคมได้รับรู้ จึงกำหนดจัดเวทีเสวนา “ทางออกกรณีไทยและกัมพูชาในมุมมองสื่อ” โดยจะเชิญผู้แทนสื่อมวลชนที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญด้านไทยและกัมพูชามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและมุมมอง ในวันเสาร์ที่ 26 ก.พ.2554 เวลา 10.00-12.00 น.ณ อาคารสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย ถ.สามเสน ต่อไป