โฆษก ปชป.ซัด “ไอ้ตู่” บิดเบือนสัญชาติ “มาร์ค” หวังให้เกิดความรู้สึกเกลียดชัง พร้อมโต้เพื่อแม้วกล่าวหานายกฯ ก้าวร้าว ทั้งที่ไม่เคยอภิปรายในลักษณะนี้ เย้ยเป็นฝ่ายค้านมา 2 ปี มีผลงานแค่ขวางการทำงานของรัฐบาล กับหาทางช่วย “นช.แม้ว” กลับประเทศ วอนพันธมิตรฯ โชว์เอกภาพคนไทย อ้างประชาคมโลกเริ่มกดดันเขมร เฉ่งแกนนำกลุ่มคนไทยฯ โจมตี “ณฐพร” ขวางโอกาสให้ “วีระ-ราตรี” ได้รับอิสรภาพ
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง นำหลักฐานสูติบัตรของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมายืนยันถึงสถานะสัญชาติอังกฤษว่า ถือเป็นข้อมูลที่ปกติของทุกคนที่ถือกำเนิดเป็นใบสูติบัตรเพื่อเป็นหลักฐาน โดยเขตปกครองส่วนท้องที่ ร่วมกับสถานพยาบาลที่ทำคลอด ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการถือครองสัญชาติในปัจจุบัน เพราะนายอภิสิทธิ์เดินทางไปอังกฤษหลายครั้ง และมีการขอวีซ่า และใช้พาสปอร์ตไทยทุกครั้ง ซึ่งตามสามัญสำนึกของคนทั่วไปน่าจะแยกแยะได้
“หากถือสัญชาติอังกฤษจริงจะต้องได้รับการสนับสนุนค่าเล่าเรียนจากท้องถิ่นกำเนิด แต่ช่วงที่นายอภิสิทธิ์ศึกษาทุกระดับได้จ่ายค่าเล่าเรียนในฐานะที่เป็นนักเรียนต่างชาติ ซึ่งน่าจะชัดเจนและได้ข้อยุติแล้ว แต่นายจตุพรมีการบิดเบือนเพื่อให้เกิดความรู้สึกเกลียดชัง”
นพ.บุรณัชย์กล่าวถึงกรณีที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ออกมาโจมตีการอภิปรายงบประมาณกลางปีของนายอภิสิทธิ์ ใช้วิธีตอบการกล่าวหาเรื่องงบกลางปีว่า “ถ้าข้าชั่ว เอ็งก็เลว” ว่า หากประชาชนติดตามดูการชี้แจงของนายอภิสิทธิ์จะเห็นว่าไม่มีช่วงใดเลยที่นายกฯ มีพฤติกรรมหรือวาจาที่ก้าวอย่างที่ น.อ.อนุดิษฐ์พูด จึงขอให้ระวังปากด้วย และหากมั่นใจว่าการอภิปรายของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย จะได้ใจคนหัวเมืองและมีกระแสตอบรับที่ดี ก็ควรให้การสนับสนุนนายมิ่งขวัญเป็นทางเลือกในการเป็นนายกฯ และเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านด้วย แต่อยากเตือนว่าจะหวังกระแสเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูที่ผลงานมากกว่ารูปแบบ และเนื้อหาก็มีความบิดเบือนข้อมูล ใช้การตลาดเชิงลบ และเป็นการเล่นการเมืองแบบเก่าที่ไม่สามารถหลุดพ้นจากแนวทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยได้สำเร็จ
“ฝ่ายค้านทำงานมา 2 ปี แต่ดูเหมือนจะมีผลงานอยู่แค่ 2 อย่าง คือ ขัดขวางการทำงานของรัฐบาลทุกรูปแบบ และ ทำทุกวิถีทางเพื่อช่วย พ.ต.ท.ทักษิณให้กลับมาโดยไม่มีเงื่อนไข”
นพ.บุรณัชย์กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีท่าทีจะหารือกับรัฐบาลว่า อยากให้กลุ่มพันธมิตรฯ มีความชัดเจนและเป็นเอกภาพในการนำเสนอประเด็นปัญหาที่เป็นข้อห่วงใยและแสดงถึงความสามัคคีของคนในชาติ เพราะสถานการณ์ในเวทีประชาคมโลก ทางกัมพูชาตกอยู่ในสภาวะที่ต้องตอบคำถามชาวโลกว่าเงื่อนไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่มาของการรุกราน มีเหตุแรงจูงใจมาจากเรื่องใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งมติของคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ (UNSC) ที่ให้อาเซี่ยนเข้ามามีบทบาทในการให้กัมพูชามาเจรจาในระดับทวิภาคี ถือเป็นความคืบหน้าที่สำคัญ และเป็นจุดที่รัฐบาลได้ดำเนินการมาในแนวทางที่ถูกต้องและสังคมโกลจะได้เห็นว่าขณะนี้ สมเด็จฯ ฮุนเซนเริ่มมีปฏิกิริยาในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน จึงเป็นจังหวะดีที่ปล่อยให้สมเด็จฯ ฮุนเซนมีความสัมพันธ์กับกลุ่มอาเซียนเพื่อนำมาซึ่งข้อยุติในปัญหาการรุกรานของอธิปไตย
อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้กลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติที่ออกมาโจมตีจนส่งผลกระทบต่อโอกาสการได้รับอิสรภาพของนายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ โดยมีการใส่ร้ายนายณัฐพร โตประยูร ทนายความ 2 คนไทยที่ตั้งใจจะใช้กฎหมายช่วยให้ 2 คนไทยได้รับอิสรภาพ และการขออภัยโทษตามขั้นตอนตามกฎหมาย ซึ่งมีความวิตกว่าการออกมาโจมตีของนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ และพยายามให้กระบวนการในชั้นศาลไปสู่ศาลอุทธรณ์จะส่งผลกระทบให้ 2 คนไทยได้รับอิสรภาพช้ายิ่งขึ้น จึงขอให้สนับสนุนแนวทางการช่วยเหลือของรัฐบาล