คกก.แก้ไขปัญหายาเสพติด เดินหน้าปฏิบัติการเร่งรัด 3 เดือน ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั้ว นับหนึ่งนำผู้เสพยา 3 หมื่นคนในระบบ เข้ารับการบำบัด 20 ก.พ. พร้อมเปิด “ค่ายฟื้นฟูผู้เสพยา” ตามความสมัครใจ ประสาน 5 หน่วยงาน” เร่งทำงานตามหน้าที่ ลั่นต้องเร่งแก้ปัญหายาเสพติดให้หมดไปจากประเทศ
วันนี้ (14 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหายาเสพติด เป็นประธานการประชุมมาตรการรองรับการบำบัดรักษายาเสพติด ตามปฏิบัติการเร่งรัด 3 เดือน (มกราคม-มีนาคม 2554) จากนั้น ภายหลังการประชุม รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงกล่าวว่า เป็นการประชุมเพื่อพิจารณาแผนปฏิบัติการรองรับการนำผู้เสพยาเสพติด เข้ารับการบำบัดรักษา ทั้งด้านบริหารจัดการและงบประมาณดำเนินการ เพื่อรองรับตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้มีปฏิบัติการประเทศไทยเข้มแข็ง ชนะยาเสพติดยั่งยืน ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน ระยะที่ 3 (พฤศจิกายน 2553-กันยายน 2554) และปฏิบัติการเร่งรัด 3 เดือน (มกราคม-มีนาคม 2554)
รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ผลการดำเนินงานปรากฏว่ามีผู้เสพยาเสพติดในชุมชนเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ได้เข้ารับการบำบัดรักษา ประกอบกับผู้เสพที่ถูกจับกุมจากการระดมปิดล้อม ตรวจค้นแหล่งแพร่ระบาด ไม่สามารถที่จะเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาได้ เนื่องจากไม่มีสถานที่รองรับในการบำบัดรักษา หรือมีไม่เพียงพอที่จะรองรับ เมื่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายจึงต้องปล่อยตัวออกไป และสร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชนซ้ำอีก ซึ่งหากยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จะส่งผลกระทบต่อการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด
“รัฐบาลได้กำหนดให้วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2554 เป็นวันเริ่มต้นปฏิบัติการในการนำผู้เสพยาเสพติดที่ถูกจับกุมจากปฏิบัติการเร่งรัดฯ เข้ารับการบำบัดรักษาในระบบบังคับบำบัดประมาณ 30,000 คน และเปิดสถานที่หรือค่ายฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติด ในระบบสมัครให้ทั่วทุกพื้นที่ โดยใช้โรงเรียนพลตำรวจ ค่าทหาร กองร้อยอาสาดินแดน โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข สถานที่บำบัดของกรมคุมประพฤติ เป็นต้น ซึ่งค่ายดังกล่าวจะมีระยะเวลาดำเนินการประมาณ 7-45 วัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับศักยภาพและแนวทางการดำเนินงานของแต่ละค่าย สำหรับระยะต่อไปจะมีการดำเนินการชักชวน กดดันให้ผู้เสพยาเสพติดเข้าสู่ระบบสมัครใจให้ได้มากที่สุด” รองนายกฯ กล่าว
นายสุเทพกล่าวว่า ขณะนี้มีการทำหนังสือไปยัง 5 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงสาธารณสุข ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อมอบหมายให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยให้ทุกจังหวัดเป็นเจ้าภาพหลักในการบูรณาการ และให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เป็น หน่วยงานกลางรับผิดชอบประสานการดำเนินงานของทุกหน่วยงาน ในการกำหนดเป้าหมาย สถานที่รองรับ แผนการดำเนินงานและงบประมาณ เพื่อให้ภารกิจดังกล่าวบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายต่อไป อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพร้อมที่จะยืนยันเจตนารมณ์ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดไปในสังคมไทย โดยขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันรับผิดชอบดำเนินการในเรื่องดังกล่าวด้วย
