พันธมิตรฯ กลับมารวมตัวที่สะพานมัฆวานฯ ผู้ชุมนุมปักหลักรับฟังการปราศรัยจากแกนนำ พร้อมโห่ไล่รัฐบาล หลังบริหารราชการเห็นแก่ประโยชน์พรรคมากกว่าประโยชน์ของชาติ การ์ดพันธมิตรฯ ตรวจตราบริเวณโดยรอบอย่างรัดกุม
วันนี้ (11 ก.พ.) บรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขณะนี้กลับเข้ามาสู่ภาวะปกติ โดยพันธมิตรฯ ได้เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณเวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ และมีการปราศรัยอย่างเข้มข้นอีกครั้ง หลังจากเสร็จสิ้นพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณปกป้องแผ่นดินต่อหน้าอนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงม้า ที่ลานพระราชวังดุสิต โดยกล่าวว่า จะนำแผ่นดินที่สูญเสียให้กับกัมพูชากลับคืนมาและจะปกป้องไม่ให้มีการสูญเสียอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการชุมนุมเริ่มตึงเครียดขึ้น เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนพร้อมโล่ กระบอง หมวกกันน็อก และสนับขาสนับแขนจำนวนมาก นำโดย พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บังคับการกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน ได้รวมตัวกันบริเวณทำเนียบรัฐบาลเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ และเริ่มเคลื่อนพลเข้ามาตรึงกำลังที่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์หลังเวทีการชุมนุมของพันธมิตรฯ ทำให้เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ผ่านมา แกนนำบนเวทีได้ประกาศแจ้งให้ผู้ชุมนุมรับทราบ และได้ย้ำขอกำลังอาสาสมัครผู้กล้าตั้งแนวด้านหลังเวที
นอกจากนี้ ยังทำให้พันธมิตรฯ ตื่นตัว และเฝ้าระวังพื้นที่การชุมนุมมากขึ้น เนื่องจากเกรงว่าจะมีการปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ตามพระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 11.00 น.กำลังพลได้ทยอยออกจากพื้นที่กลับเข้าทำเนียบรัฐบาลเหลือเพียงไม่กี่นายที่วางกำลังไว้ในจุดต่างๆ ตามปกติเท่านั้น ทั้งนี้ คาดว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะรอคำสั่งศาลก่อนที่จะดำเนินการขอคืนพื้นที่ต่อไป
สำหรับบรรยากาศการชุมนุมช่วงบ่าย กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงปักหลักเพื่อรับฟังการปราศรัยจากแกนนำ อาทิ นายพิภพ ธงไชย ที่กล่าวปราศรัยโจมตี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่บริหารราชการโดยเห็นแก่พรรคพวกมากกว่าประโยชน์ของประเทศชาติ ทำให้ผู้ชุมนุมมีอารมณ์ร่วม ใช้มือตบ และตะโกนโห่ร้องขับไล่รัฐบาล ทำให้บริเวณโดยรอบพื้นที่การชุมนุมเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากมีปริมาณผู้ร่วมชุมนุมมากกว่าหลายวันที่ผ่านมา
ขณะที่การ์ดพันธมิตรฯ ได้มีการเดินตรวจตราเพื่อเฝ้าระวังภัย รวมถึงบริเวณจุดทางเข้า-ออกในพื้นที่อย่างรัดกุม