“กษิต” ถกประธานอาเซียน เป็นไปด้วยดี ยันใช้ทวิภาคีในการเจรจาปัญหาไทย-กัมพูชา เป็นทางออกดีที่สุด ด้าน “สุวิทย์” เผย เขมรใช้ปราสาทพระวิหารเป็นโล่กำบังในการสู้รบ ถือเป็นการทำผิดสัญญากรุงเฮก บัวแก้วเตรียมทำหนังสือฟ้องยูเนสโกแล้ว
นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ภายหลัง นายมาร์ตี นาตาเลกาวา (Marty Natalegawa) รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ในฐานะประธานกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน เข้าพบว่า บรรยากาศการหารือดีมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวทางการหารือทวิภาคีระหว่างไทยกับกัมพูชา ยังเป็นไปได้หรือไม่ นายกษิต กล่าวสั้นๆ ว่า จะต้องเดินหน้าเจรจาทวิภาคีกันต่อไป เนื่องจากเป็นทางออกเดียวที่ดีที่สุดในตอนนี้
นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (7 ก.พ.) เขาได้เข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือกรณีปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งได้ประชุมร่วมกันหลายฝ่าย โดยที่ประชุมได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ เร่งจัดทำข้อเสนอไปยังคณะกรรมการมรดกโลก ขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เพื่อชี้แจงกรณีกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญากรุงเฮก ที่ระบุเอาไว้ชัดเจนว่า พื้นที่ขึ้นทะเบียนมรดกโลก ห้ามนำไปใช้เป็นพื้นที่ทางการทหาร หรือใช้เป็นโล่ในการปกป้องกำลังทางทหาร ซึ่งถือว่ากัมพูชาทำผิดข้อกำหนดดังกล่าวชัดเจน เนื่องจากพื้นที่ตัวปราสาทพระวิหารได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกแล้ว จึงห้ามใช้โบราณสถานมาเป็นพื้นที่ในการตั้งกำลังทหาร แต่กัมพูชาใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นตั้งกองกำลังทหาร ซึ่งผิดอนุสัญญาแน่นอน
ส่วนการจัดประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกของไทยนั้น ได้เตรียมประชุมเร็วๆ นี้ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่จะมีการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกของยูเนสโก ที่บาห์เรน ในเดือนมิถุนายน
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการมรดกโลกของไทย กล่าวว่า ขณะนี้ทางสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ในฐานะเลขานุการของคณะกรรมการมรดกโลกของไทย เตรียมจัดทำวาระ และท่าทีเกี่ยวกับกรณีปัญหามรดกโลกปราสาทพระวิหาร เพื่อเสนอให้ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการมรดกโลกของไทย เร่งพิจารณากำหนดจุดยืนของประเทศไทย และเสนอไปยังสำนักงานเลขาคณะกรรมการมรดกโลกของยูเนสโกโดยเร็ว เนื่องจากขณะนี้ได้เกิดความขัดแย้ง และสงครามบริเวณชาย แดนไทย-กัมพูชา จากกรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารแล้ว ที่สำคัญ ยังพบมีข้อมูลที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบกับไทย ซึ่งเรื่องนี้ถือว่ามีความละเอียดอ่อนมาก ดังนั้น จึงต้องเร่งหาข้อโต้แย้งไปยังมรดกโลกของยูเนสโก เพื่อตอบโต้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน