พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปักหลักชุมนุมบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ อย่างหนาแน่น ในช่วงบ่าย เป็นการปราศรัยของ พล.ต.อ.มนัส ครุฑไชยันต์ อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ เรียกร้องให้ยกเลิก MOU 2543 รวมถึงการช่วยเหลือ 2 คนไทย เชื่อข่าวปฏิวัติแค่ข่าวลือ มั่นใจทหารจะอดทนอดกลั้นให้ถึงที่สุดเพื่อผลประโยชน์ประเทศ
บรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปักหลักชุมนุมบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ในช่วงบ่าย ในช่วงบ่าย พล.ต.อ.มนัส ครุฑไชยันต์ อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ และเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนนายร้อย จปร.ของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำ พธม. ได้ขึ้นเวทีปราศรัย โดยกล่าวว่า มาวันนี้ไม่ได้มาเกาะข้างเวทีเพื่อขึ้นเป็นรัฐมนตรี แต่มาเพื่อบ้านเมือง เพราะการชุมนุมของกลุ่ม พธม.ทำเพื่อบ้านชาติบ้านเมือง แม้จะมีเสียงบ่นจากประชาชนในเรื่องรถติด ชุมนุมกันไม่เลิกเสียที ขอยืนยันว่าเป็นเรื่องที่จำเป็น คนที่มาร่วมชุมถือเป็นวีรบุรุษ ผู้กล้า ผู้เสียสละ ขอเชิญชวนประชาชน โดยเฉพาะเพื่อนตำรวจ ทหาร ทุกรุ่น มาร่วมชุมนุมกันเพื่อทำงานให้ประเทศชาติ ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างเรากับกัมพูชานั้น ยืนยันว่าต้องยกเลิกบันทึกความตกลงหรือ MOU ปี 43 เพราะเป็นบันทึกที่มัดมือมัดเท้า ทหาร ตำรวจ ข้าราชการของไทยไม่ให้ดำเนินการใดๆกับพื้นที่พิพาท ขณะนี้ผู้นำประเทศกัมพูชาซึ่งตนเองขอเรียกว่าจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ค่อยๆคืบคลานเข้ามายึดดินแดนของเรา ดังนั้นรัฐบาลไทยต้องรีบจัดการเรื่องเขตแดนให้เร็ว นอกจากนี้ต้องยื่นคำขาดให้ปล่อยตัว 2 คนไทยด้วย
ส่วนกรณีที่มีข่าวการปฏิวัติที่ออกมาหนาหูในขณะนี้ พล.ต.อ.มนัส กล่าวว่า ตนเองมั่นใจว่า ทหารจะอดทนถึงที่สุด แต่หากบ้านเมืองเสียหาย ล่มจม ทหารจะทนไม่ได้ แม้จะถูกสั่งให้ทำก็ทำไม่ได้ เพราะถูกสอนให้มีวินัย แต่ถ้าเมื่อไรที่ชาติบ้านเมืองล่มจม เสียหาย มีปฏิวัติอย่างแน่นอน แม้ผู้ใหญ่ไม่ทำ ทหารเด็กๆก็จะทำเอง ซึ่งพล.ต.จำลอง ก็เคยทำมาแล้วในช่วงที่เรียกว่า เมษาฮาวาย ขอเรียกร้องให้เพื่อ จปร.ทั้งหลายสมัครสามัคคีกันปกป้องบ้านเมือง ปกป้องแผ่นดินและเกียรติยศศักดิ์ศรี