“พล.อ.ปฐมพงษ์” ชี้ชุมุนมคราวนี้ยิ่งใหญ่กว่า 193 วัน เพราะครั้งนั้นไล่บุคคลและระบอบที่ชั่วร้ายออกไปแต่ไล่ยังไงก็ไม่หมดสิ้น แต่การรักษาแผ่นดินไทยวันนี้ ถ้าไม่ออกมาให้มากเสียดินแดนแน่นอน พร้อมแนะจัดการกัมพูชาตาม 3 ข้อเรียกร้อง เพื่อเป็นแนวทางปกป้องดินแดนไปยังอนาคตด้วย เพราะชายแดนพม่าก็น่าห่วงอาจจะเกิดปัญหาเช่นเดียวกัน ซึ่งหากทำสำเร็จประเทศไทยจะยิ่งใหญ่กว่านี้ และไม่ถูกลิดรอน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์”
วันนี้ (25 ม.ค.) พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อดีตประธานที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย ได้กล่าวบนเวทีปราศรัยการชุมนุมของแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ว่าสำหรับข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ข้อหนึ่งให้ยกเลิกเอ็มโอยู 43 อยากจะเรียนให้ทราบว่าความเป็นประเทศที่ใหญ่ของเรา มีอาณาเขตเพราะบรรพบุรุษสร้างสมมาให้
ภาคใต้เราก็เคยมีปัญหาชนกลุ่มน้อยจามาเลเซียหลบหนีมาอยู่ดินแดนไทย จนกระทั่งเขาจัดการประเทศเรียบร้อยแล้วก็ส่งพวกนี้กลับไป ลาวก็เช่นกันมีม้งมาอยู่เราก็เจรจาแล้วส่งกลับ ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ไม่เห็นต้องมีเอ็มโอยูอะไรเลย
พล.อ.ปฐมพงษ์กล่าวอีกว่า ฉะนั้นการยกเลิกเอ็มโอยู เป็นการที่ประเทศไทยแสดงความอ่อนแอ เรื่องที่มันยากยิ่งคือเอ็มโอยู 43 มันมีผลไปยังแหล่งทรัพยากรซึ่งประเทศใหญ่ๆจ้องจะเอา และเป็นประเทศมหาอำนาจทั้งสิ้น ดังนั้น การแสดงออกของเราวันนี้ แสดงออกถึงความรักชาติ กตัญญูต่อแผ่นดิน และบรรพบุรุษ
“พื้นที่บริเวณชายแดนไทย-พม่า ก็น่าห่วงเช่นกัน ถ้าไม่เลิกเอ็มโอยู 43 พม่าก็อาจจะคิดแบบกัมพูชาในอนาคต เพื่อจะเอาดินแดนบ้าง เพราะเรามันอ่อนแอ พวกเรามาทำหน้าที่ในวันนี้ถูกต้องแล้ว ยิ่งใหญ่กว่า 193 วันที่ผ่านมาอีก เพราะ 193 วัน ไล่บุคคล และระบอบที่ชั่วร้ายออกไป แต่ก็ไม่หมดสิ้น ดังนั้นจะกำจัดให้หมดต้องใช้เวลา แต่การรักษาแผ่นดินไทย วันนี้ถ้าไม่ออกมาให้มากเสียดินแดนแน่นอน” พล.อ.ปฐมพงษ์กล่าว
พล.อ.ปฐมพงษ์กล่าวว่า การเลิกเอ็มโอยู นายกฯ ก็เถียงข้างๆ คูๆ ชี้ให้เห็นว่ามันต้องมีผลประโยชน์แอบแฝงแน่นอน ผลจากเอ็มโอยู ทำให้ข้าราชการดีๆไม่กล้าต่อสู้ การต่อสู้ที่พันธมิตรยืนหยัดให้ยกเลิกเอ็มโอยูเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ทำให้ทหารทำงานได้ง่ายขึ้นอีก ชีวิตการเป็นทหารของตน รู้ว่าไม่ต้องมีข้อตกลงอะไรทั้งสิ้น ล้ำแดนเข้ามาเราก็ผลักดันออกไป ถ้ายิงเข้ามาเราก็ยิ่งสวนไป
สำหรับการเป็นสมาชิกยูเนสโก ก็ไม่ใช่ว่าออกแล้วจะอดตาย ทุกวันนี้เข้าร่วมแล้วฉิบหายมากกว่า
สุดท้ายคือการขับไล่ชาวกัมพูชาออกไปจากดินแดนไทย วันนี้ขอให้กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม. และกระทรวงมหาดไทย ได้ตรวจสอบบัญชีผู้ที่ลี้ภัยเข้ามา ว่ามีกลุ่มใดบ้างและผลักดันออกไปอย่างเป็นขั้นตอน จะได้ไม่เป็นการโหดร้าย
“เมื่อมีความสำเร็จจากการยกเลิกเอ็มโอยู 43 ออกจากภาคีมรดกโลก และไล่ชาวกัมพูชาให้ลดจำนวนลงทีละน้อย ถ้าทำสำเร็จประเทศไทยจะยิ่งใหญ่กว่านี้และไม่ถูกริดรอน” พล.อ.ปฐมพงษ์กล่าว
พล.อ.ปฐมพงษ์กล่าวอีกว่า หากพม่าสงบปัญหาเรื่องดินแดนกับเราก็จะเกิดขึ้น การจัดการกัมพูชา เป็นรูปแบบเตรียมรับมือกับชาวพม่า กะเหรี่ยง ที่หนีร้อนมาพึ่งเย็น เตรียมการได้เลย ไม่อย่างนั้นประเทศอยู่ไม่สุข ช่วยบอกต่อๆกัน ต้องออกมาช่วยกัน วันนี้ท่านไม่ออกมาเดิน วันหน้าไม่มีโอกาสเดิน ลูกท่านหลานท่าน ก็จะไม่มีโอกาสเดิน ขวานทองต่อไปจะเป็นตะเกียบเพราะถูกตัดออกไปหมด
วันนี้ได้ทำหน้าที่แล้ว แต่หาก 1-2 เดือนรัฐบาลยังดื้อดึง ต้องมีวิธีการ ซึ่งพี่น้องต้องช่วยกันคิดด้วย แล้วมาเสนอแกนนำ ช่วยกันคิดว่าทำอย่างไรให้รัฐบาลยกเลิกเอ็มโอยู ถอนตัวออกจากภาคีมรดกโลก และขับไล่ผู้บุกรุกประเทศ