“มาร์ค” ถก ครม.ปัญหาเขมรป่วน ป.ป.ช.เสนอแนวแก้ทุจริตในรัฐวิสาหกิจ

“มาร์ค” ประชุม ครม.ถกปัญหาเขมรทั้งเรื่องช่วย 2 คนไทยที่เหลือ และกรณีกัมพูชาปฏิเสธรื้อป้ายกล่าวหาไทยรุกล้ำดินแดนบริเวณปราสาทพระวิหาร พร้อมหารือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วน ป.ป.ช.เสนอมาตรการป้องกันการทุจริตในรัฐวิสาหกิจ ห้ามผู้มีอำนาจแต่งตั้งคนเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจเกิน 3 แห่ง ห้ามเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยง ค่าเช่าที่พัก แก่คู่สมรสและผู้ติดตาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (24 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่เลื่อนเร็วกว่าปกติ 1 วัน เนื่องจากวันพรุ่งนี้ (25 ม.ค.) จะมีการประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระที่ 2

สำหรับวาระที่น่าสนใจน่าจะเป็นเรื่องการหารือเกี่ยวกับปัญหากัมพูชา แม้ศาลกัมพูชาจะปล่อยตัว 5 คนไทยมาแล้ว แต่ก็ยังมีนายวีระ สมความคิด น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ที่ศาลกัมพูชายังไม่ได้ตัดสินและยังเพิ่มข้อหาจารกรรมไปด้วย ขณะเดียวกันก็ยังเกิดปัญหาแทรกแซงเมื่อทหารกัมพูชานำป้ายกล่าวหาไทยรุกล้ำดินแดนมาติดไว้บริเวณวัดแก้วสิขาคีรีสวาระ ใกล้ประสาทพระวิหาร เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรรอบปราสาทพระวิหาร หวังใช้เป็นหลักฐานในการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

ขณะเดียวกันจะมีการหารือถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ยังมีความเห็นต่างกันของพรรคร่วมรัฐบาลเกี่ยวกับสูตร ส.ส.โดยพรรคประชาธิปัตย์ สนับสนุนสูตร 375+125 ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลเห็นว่าสูตร 400+100 เหมาะสมกว่า

ส่วนวาระอื่นที่น่าสนใจ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เสนอมาตรการป้องกันการทุจริตของรัฐวิสาหกิจ เรื่องห้ามผู้มีอำนาจแต่งตั้งผู้ใดเป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจเกินกว่า 3 แห่ง และห้ามรัฐวิสาหกิจทุกแห่งกำหนดระเบียบหรือข้อบังคับให้สามารถเบิกจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าเช่าที่พัก หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ให้แก่คู่สมรส หรือผู้ติดตามที่ไม่ได้มีหน้าที่เป็นผู้ปฏิบัติงานในรัฐวิสาหกิจ ที่ร่วมเดินทางไปกับผู้ปฏิบัติงาน

กระทรวงการคลัง เสนอให้พิจารณาการทบทวนการกำหนดราคากลางใหม่ตามวาระแห่งชาติเกี่ยวกับการส่งเสริมคุณธรรมความซื่อสัตย์ สุจริต และต่อต้านการทุจริตและโครงการการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบในกระบวนการจัดจ้างของทางราชการ

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการใช้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจ ในการกำหนดกรอบวงเงินและติดตามประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ ปีงบประมาณ 2554